คนไทยไม่ได้ฉีดวัคซีน 11 ล้านคน เร่งฉีด10 จังหวัดพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง

วันนี้ (17 พ.ย. 2564) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่าปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ พบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,524 คน ติดเชื้อทั่วไป 6,131 คน ติดเชื้อในเรือนจำ 393 คน และเดินทางจากต่างประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมเดือนเม.ย.จนถึงวันนี้ 2,008,361 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,029 ราย สะสม 313,941 ราย

สำหรับผู้ป่วยรักษาหายสะสม 1,898,217 คน ขณะนี้มีผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 91,382 คน อาการหนัก 1,739 ราย และอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ 407 ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 56 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 20,105 รายแล้ว ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 20,199 รายแล้ว  

 

• คนไทยไม่ได้ฉีดวัคซีน 11 ล้านคน

พญ.สุมนี  กล่าวถึงผลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ขณะนี้จะเห็นได้ว่าอัตราการฉีดเข็มที่ 1 น้อยกว่าเข็มที่ 2 ถึงเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อสำรวจพบว่า คนไทยยังไม่ได้รับวัคซีน11  ล้านคน  จึงอยากขอความร่วมมือในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะท้องถิ่น อย่าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ช่วยกันเร่งรัดการฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้หลายจังหวัดแม้จะมีการระบาดเพียงหลัก 10 ราย ไม่ว่าจะเป็น ตาก ราชบุรี ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส แต่จังหวัดเหล่านี้พบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง อยากให้รีบมาฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงเมื่อป่วยแล้วจะได้ไม่มีอาการหนัก และลดโอกาสการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด โดยจะพบว่าค่าเฉลี่ยของการรับวัคซีนเข็มแรกอยู่ที่ 56.6% เท่านั้น”พญ.สุมนี กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อแยกตามกลุ่มเป้าหมายต่างๆ หญิงตั้งครรภ์ยังอยู่ในกลุ่มเร่งรัดให้มาฉีดให้มากที่สุด โดยมีรายงานการฉีดวัคซีนครอบคลุม เข็มแรกอยู่ที่ 17.7% ซึ่งสามารขอรับการฉีดวัคซีนได้จากสถานที่ฝากครรภ์ได้ทันที

นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินกระทรวงสาธารณสุขเช้านี้ ได้มีการพูดคุยหารือในเรื่องการคีย์ข้อมูลเข้าไปในระบบการฉีดวัคซีน พบว่า ยังมีประชาชนหลายคนที่เข้ารับวัคซีนแล้วแต่ไม่ขึ้นในระบบ หรือมีประวัติการฉีดวัคซีนที่ไม่ถูกต้อง จึงขอความร่วมมือประชาชนแจ้งจุดบริการที่ได้รับวัคซีน เพื่อให้ลงข้อมูล หรือแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในอนาคตเมื่อเข้าไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ เช่นขึ้นเครื่องบิน หรือเดินทางข้ามพื้นที่

 

• เบาหวาน เสี่ยงเสียชีวิต 3 เท่า

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 56 ราย แบ่งเป็นเป็นคนไทย 55 คน สัญชาติเมียนมา 1 คน อายุระหว่าง 22-93 ปี โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ คงเป็นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว เบาหวาน ภาวะอ้วน ไขมันในเลือดสูง

พญ.สุมนี กล่าวต่อว่าสำหรับประเทศไทย มีผู้ป่วยเบาหวานกว่า 3 ล้านคน โดยพบว่า 70% คุมน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อโควิดมากกว่าผู้ที่คุมน้ำตาลในเลือดได้ และเมื่อติดเชื้อโควิด มีโอกาสอาการรุนแรงกว่าคนปกติ 2 เท่า เสี่ยงเสียชีวิตมากกว่าคนปกติ 3 เท่า จึงขอให้ผู้ป่วยเบาหวาน เข้ารับวัคซีนให้ครบโดส และมาพบแพทย์เพื่อรักษาโรคเบาหวานให้ตรงตามนัด ขณะที่จังหวัดภาคใต้มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 19 คน รองลงมาเป็นภาคกลางและภาคตะวันออก 17 คน ภาคอีสาน 5 คน ภาคเหนือ 3 คน ปริมณฑล 4 คน ขณะที่ กทม.มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 8 คน

ส่วน 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุดได้แก่ กทม. 894 คน สงขลา 430 คน เชียงใหม่ 339 คน สมุทรปราการ 251 คน นครศรีธรรมราช 240 คน ชลบุรี 209 คน ปัตตานี 190 คน ยะลา 182 คน สุราษฎร์ธานี 162 คน ตรัง 153 คน

พญ.สุมนี  กล่าวต่อไปว่ากทม.ซึ่งในช่วง 3 วันนี้ พบว่าผู้ติดเชื้อขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากการรายงานผู้ติดเชื้อสะสมย้อนหลัง ขอกำชับให้พื้นที่รายงานสถานการณ์ให้เป็นวันต่อวัน เพราะต้องนำข้อมูลที่เป็นปัจจุบันนำไปประเมิน กำหนดมาตรการ เสนอแผนต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่

• 17 จังหวัดติดเชื้อหลักร้อย คุมเข้มต่างด้าว

พญ.สุมนี กล่าวอีกว่าการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน คลัสเตอร์สำคัญ ดังนี้ คลัสเตอร์โรงงาน สถานประกอบการหลายที่ ลำปาง ระยอง ชลบุรี และเชียงใหม่ คลัสเตอร์ตลาด เชียงใหม่ กาญจนบุรี ขอนแก่น จันทบุรี และชลบุรี คลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้าง พบที่ กทม. เชียงใหม่ และจันทบุรี คลัสเตอร์สถานศึกษา พบที่ อุบลราชธานี เชียงใหม่ และชลบุรี คลัสเตอร์ทอดกฐิน เป็นผู้ป่วยพบที่สมุทรสงคราม แต่เป็นผู้มไปทอดกฐินที่ จ.น่าน พิษณุโลก และไปเที่ยวต่อที่ จ.เชียงราย คลัสเตอร์งานศพ พบที่ พะเยา ปราจีนบุรี คลัสเตอร์เรือนจำ พบใน 7 จังหวัด มากสุด ที่เรือนจำเชียงใหม่ 171 คน รองลงมาเป็นนครศรีธรรมราช ศรีสะเกษ กทม. สมุทรปราการ นครราชสีมา และราชบุรี

คลัสเตอร์ทั้งสถานประกอบการ ตลาด แคมป์ก่อสร้าง พบว่าเป็นการกลับเข้ามาทำงานของแรงงานหลังผ่อนคลายมาตรการรองรับการเปิดประเทศ และมีการรายงานว่ามีการลักลอบของแรงงานต่างชาติเข้ามาทางตะเข็บชายแดน และมีการติดเชื้อเฉพาะ

วันนี้เข้ามาทางจันทบุรี สัญชาติกัมพูชา และทางอุ้มผาง จ.ตาก เป็นสัญชาติเมียนมา จากก่อนหน้านี้ก็มีการรายงานว่าลอบเข้ามาทางเชียงใหม่และกาญจนบุรี อย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ให้เป็นหูเป็นตา หากพบแรงงานต่างชาติลอบเข้ามาทำงานขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ช่วยติดตามกำกับในส่วนนี้ ส่วนสถานประกอบการที่รับแรงงานลักลอบเข้ามาจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

พญ.สุมนี กล่าวด้วยว่า วันนี้ 17 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 100 คน ขณะที่ 46 จังหวัด ติดเชื้อหลักสิบคน และ 12 จังหวัด ติดเชื้อหลักหน่วย และมี 2 จังหวัด เป็นสีขาว คือ อ่างทอง กับอำนาจเจริญ