ฉีด “ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม-แอสตร้าฯ” ครบโดส “ฉีดวัคซีนเข็ม 3” ยี่ห้อไหนได้บ้าง ?
ส่องสูตร "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" จาก "กระทรวงสาธารณสุข" หลังรับวัคซีน "ซิโนแวค" "ซิโนฟาร์ม" "แอสตร้าเซนเนก้า" ครบ 2 เข็ม เลือก "บูสเตอร์" ยี่ห้อไหนได้บ้าง ?
"กระทรวงสาธารณสุข" ให้คำแนะนำ "สูตรการฉีดวัคซีนโควิด-19" โดยได้แนะนำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เป็นการ "ฉีดวัคซีนเข็ม 3" หรือที่เรียกกันว่า "บูสเตอร์" ที่เหมาะสมกับวัคซีนทีฉีดไป 2 เข็มก่อนหน้า โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ฉีด "ซิโนแวค" (Sinovac) "ซิโนฟาร์ม" (Sinopharm) และ "แอสตร้าเซนเนก้า" (AstraZeneca) ที่จำเป็นต้องมีระยะเวลาทิ้งช่วงหลังฉีดวัคซีนทั้ง 3 ชนิดที่ล่าวไป แตกต่างกัน ดังนี้
- กรณีฉีด "ซิโนแวค" เป็นเข็มที่ 1 และ 2 แล้ว
- สามารถฉีดแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 3 ได้ โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
- สามารถฉีดไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 ได้ โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
- สามารถฉีดโมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- กรณีฉีด "ซิโนฟาร์ม" เป็นเข็มที่ 1 และ 2 แล้ว
- สามารถฉีดแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 3 ได้ โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
- สามารถฉีดไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 ได้ โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
- สามารถฉีดโมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป
- กรณีฉีด "แอสตร้าเซนเนก้า" เป็นเข็มที่ 1 และ 2 แล้ว
- สามารถฉีดไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 ได้ โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
- สามารถฉีดโมเดอร์นา โดยเว้นระยะห่างหลังฉีดเข็ม 2 ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
นอกจากนี้ยังแนะนำ "สูตรการฉีดวัคซีน" อื่นๆ เช่น การฉีดวัคซีนไขว้ การฉีดวัคซีนสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด ดังนี้
-----------------------------------------------------------
อ้างอิง: กระทรวงสาธารณสุข