เช็ครายชื่อ 54 ประเทศ/พื้นที่ พบ "โอมิครอน" ทั่วโลก
ศบค. รายงาน "สถานการณ์โควิด-19" ทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อ สะสมกว่า 266 ล้านราย The New York Times เผยรายชื่อ 54 ประเทศ/พื้นที่ ทั่วโลก พบ "โอมิครอน" ขณะที่ สหรัฐ พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วกว่า 16 รัฐ
วันนี้ (7 ธ.ค. 64) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงาน "สถานการณ์โควิด" ทั่วโลก วันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 266,692,781 ราย อาการรุนแรง 87,046 ราย รักษาหายแล้ว 240,233,972 ราย เสียชีวิต 5,277,595 ราย
- อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 50,148,680 ราย
2. อินเดีย จำนวน 34,648,086 ราย
3. บราซิล จำนวน 22,147,476 ราย
4. สหราชอาณาจักร จำนวน 10,515,239 ราย
5. รัสเซีย จำนวน 9,833,749 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 24 จำนวน 2,148,766 ราย
- โอมิครอน 54 ประเทศ/พื้นที่
The New York Times (ข้อมูล ณ 7 ธ.ค.64) รายงาน พบโควิดสายพันธุ์ โอมิครอน ทั่วโลกแล้วกว่า 54 ประเทศ / พื้นที่ แบ่งเป็น
ทวีปแอฟริกา 4 ประเทศ
- แอฟริกาใต้
- บอตสวานา
- แซมเบีย
- ซิมบับเว
ติดเชื้อในประเทศ 15 ประเทศ
- ออสเตรเลีย
- เบลเยียม
- สหราชอาณาจักร
- แคนาดา
- โครเอเชีย
- เดนมาร์ก
- ฝรั่งเศส
- เยอรมนี
- ไอซ์แลนด์
- อินเดีย
- อิสราเอล
- นามิเบีย
- นอร์เวย์
- โปรตุเกส
- สเปน
จากผู้เดินทางเข้าประเทศ 35 ประเทศ/พื้นที่
- อาร์เจนตินา
- ออสเตรีย
- บราซิล
- ชิลี
- สาธารณรัฐเช็ก
- ฟิจิ
- ฟินแลนด์
- กานา
- กรีซ
- ฮ่องกง
- ไอแลนด์
- อิตาลี
- ญี่ปุ่น
- ลัตเวีย
- ลักเซมเบิร์ก
- มาเลเซีย
- มัลดีฟส์
- เม็กซิโก
- เนปาล
- เนเธอร์แลนด์
- ไนจีเรีย
- นอร์เวย์
- เรอูเนียง
- โรมาเนีย
- รัสเซีย
- ซาอุดิอาราเบีย
- เซเนกัล
- สิงคโปร์
- เกาหลีใต้
- ศรีลังกา
- สวีเดน
- สวิสเซอร์แลนด์
- ไทย
- ตูนีเซีย
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- สหรัฐ พบผู้ติดเชื้อไวรัส "โอมิครอน" ใน 16 รัฐ
ดร.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้สหรัฐพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้วอย่างน้อยใน 16 รัฐ หรือคิดเป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ
ดร.วาเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ ว่า "เราทราบว่าสหรัฐมีผู้ป่วยหลายราย และเราได้ติดตามอาการของพวกเขาอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เราได้รับรายงานทุกวันว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ฉะนั้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อจึงอาจเพิ่มขึ้นอีก"
ผู้ติดเชื้อจำนวนมากเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยมีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยทั้ง 16 รัฐที่ได้รับรายงานการติดเชื้อไวรัสโอมิครอน ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนตทิคัต ฮาวาย ลุยเชียนา แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มินนิโซตา มิสซูรี เนบราสก้า นิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย ยูทาห์ วอชิงตัน และวิสคอนซิน
- อังกฤษ พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนเพิ่ม 50% ในวันเดียว
สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA)เปิดเผยว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์มิไมครอนเพิ่ม 86 ราย ดันยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่ 246 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนทั้งหมดอยู่ที่ 160 ราย จึงเท่ากับว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 50% ในวันเดียว
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั้งหมดเมื่อนับรวมสายพันธุ์อื่นอยู่ที่ 43,992 รายเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 10,464,389 ราย ขณะเดียวกัน อังกฤษพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 54 ราย ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 145,605 ราย
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษกล่าวว่า ผู้ที่เดินทางมาจาก ต่างประเทศซึ่งรวมถึงเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ อังกฤษยังได้เพิ่มไนจีเรียเข้าในบัญชีรายชื่อประเทศเสี่ยงโควิด-19 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งกำลังเป็นที่วิตกกังวลในขณะนี้
- ชาวญี่ปุ่นเกือบ 90% เห็นด้วยกับนโยบายห้ามต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ
ทางด้านประเทศญี่ปุ่น ผลสำรวจโดยหนังสือพิมพ์โยมิอุริ เปิดเผยว่า ประชาชน 89% สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลที่สั่งระงับไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า ความนิยมของ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เพิ่มขึ้น 6% แตะที่ 62% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่ง โดยประชาชนค่อนข้างมีความพึงพอใจกับมาตรการสกัดโควิด-19 ของรัฐบาลชุดนี้ ด้านคะแนนสนับสนุนพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายคิชิดะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยแตะที่ 41%
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศห้ามชาวต่างชาติจากทุกประเทศทั่วโลกเดินทางเข้าญี่ปุ่น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยญี่ปุ่นได้นำมาตรการควบคุมพรมแดนกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากเพิ่งผ่อนปรนต่อนักธุรกิจ , นักเรียนนักศึกษา และแรงงานต่างชาติไปเมื่อไม่นานมานี้