"กรมอนามัย" แนะเช็ดทำความสะอาด "กระเช้าปีใหม่" ก่อนเปิด ลดเสี่ยงโควิด

"กรมอนามัย" แนะเช็ดทำความสะอาด "กระเช้าปีใหม่" ก่อนเปิด ลดเสี่ยงโควิด

"กรมอนามัย" แนะประชาชนที่ได้รับ "กระเช้าปีใหม่" ทำความสะอาดอาหารกระป๋องก่อนเปิด ลดเสี่ยงการสัมผัสปนเปื้อนบริเวณพื้นผิว พร้อมย้ำ ให้เลือกเครื่องกระป๋องที่สภาพดี ไม่บุบ ไม่เป็นสนิม และให้สังเกต วัน เดือน ปี ที่ผลิต และวันหมดอายุ

วันนี้ (19 ธ.ค. 64) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมอนามัย เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนมักจะมอบกระเช้าเพื่อเป็นของขวัญให้แก่กัน ซึ่งกระเช้าประเภทเครื่องกระป๋องจะได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากสามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน มีความหลากหลายเหมาะกับทุกเพศทุกกลุ่ม

 

แต่ในช่วงสถานการณ์โรค โควิด-19 ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เครื่องกระป๋องที่บรรจุใน กระเช้าปีใหม่ ควรทำความสะอาดกระป๋องและหีบห่อ ก่อนเปิดบริโภค เพิ่มความมั่นใจ ลดเสี่ยงการสัมผัสปนเปื้อนบริเวณพื้นผิว และให้ล้างมือหลังจากสัมผัสทันที เพราะในขั้นตอนการนำกระป๋องมาบรรจุในกระเช้า ก็อาจจะมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อไวรัสที่เกิดจากการสัมผัสของพนักงานได้

  • เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ

 

นอกจากนี้ การเลือกซื้อเครื่องกระป๋องที่มีคุณภาพนั้น ควรเลือกซื้อกระป๋องที่อยู่ในสภาพดี ไม่บุบ โดยเฉพาะตะเข็บหรือรอยต่อของกระป๋องต้องเรียบ ฝาหรือก้นกระป๋องแบนเรียบ ส่วนขอบกระป๋องจะต้อง ไม่มีรอยรั่วซึม ไม่เป็นสนิม ไม่โป่งนูน เนื่องจากมีแรงดันของก๊าซที่เกิดจากการเน่าเสียของอาหารภายในกระป๋อง

 

และให้ดูฉลากสินค้าที่ผ่านการตรวจรับรองและมีเลขสารบบอาหารหรือตัวเลขหลังเครื่องหมาย อย. ที่สำคัญคือ ควรเลือกซื้ออาหารกระป๋องที่ผลิตใหม่ โดยสังเกต วัน เดือน ปี ที่ผลิต และวันหมดอายุ และควรนำเครื่องกระป๋องประเภทเนื้อสัตว์มาอุ่นให้ร้อนก่อนบริโภค

  • "อาหารกระป๋อง" ไม่มีคุณภาพ เสี่ยงเชื้อแบคทีเรีย

 

“ทั้งนี้ การซื้อ กระเช้าปีใหม่ ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่มีคุณภาพ อาจเสี่ยงได้รับอันตรายจากเชื้อโรคต่าง ๆ ตามมาได้ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดโบทูลินั่มที่อยู่ในอาหารกระป๋อง เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกายจะเกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้อต่าง ๆ เป็นอัมพาต สายตาพร่ามัว ซึม ง่วง กลืนอาหารไม่สะดวก ลิ้นและคออักเสบ กล้ามเนื้อต้นคออ่อนแรง ซึ่งอาการจะแสดงให้เห็นภายใน 2 - 36 ชั่วโมง หากไม่ได้รับการรักษาทันทีอาจเสียชีวิตด้วยระบบหายใจล้มเหลว ดังนั้น หากพบมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว