ชวน "หญิงตั้งครรภ์" ฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดการติดเชื้อ ทารกคลอดก่อนกำหนด

ชวน "หญิงตั้งครรภ์" ฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดการติดเชื้อ ทารกคลอดก่อนกำหนด

เผยสถิติหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 เสี่ยงเสียชีวิต ทารกคลอดก่อนกำหนด ชวนฉีดวัคซีนโควิด-19 ป้องกันลดความรุนแรงของโลก พร้อมย้ำวัคซีนปลอดภัยทั้งแม่และลูก

วานนี้ (22 ธ.ค.64) กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และองค์การอนามัยโลกประเทศไทย แถลงข่าว รณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด- 19 ในหญิงตั้งครรภ์ ฉีดต้านเชื้อ เพื่อคุณแม่และลูกน้อย  เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง เมื่อติดเชื้อจะส่งผลให้เกิดความรุนแรง หรือเสียชีวิต ทารกมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ส่งผลต่อพัฒนาการในระยะยาวของเด็ก รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาขณะนี้มีเพียง 20% เท่านั้นที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และมี 16.5% ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า  จากผลสำรวจอนามัยโพลกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในพื้นที่ 77 จังหวัด ระหว่างวันที่ 15-29 ก.ย.2564 จำนวน 1,165 คน ถึงประเด็นหญิงตั้งครรภ์กับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ตอบแบบสำรวจเกินร้อยละ 50 ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ร้อยละ 60 ตั้งใจจะฉีดวัคซีน และส่วนที่เหลือ ยังคงลังเลในการฉีดวัคซีน เนื่องจากมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์

 

  • ชวนแม่ตั้งครรภ์ อย่าลังเลฉีดวัคซีนโควิด

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเก็บผลของการคลอดในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน 1,215 คน ยังไม่พบอาการที่ไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงใดๆ เช่น อาการแท้ง น้ำหนักน้อย ทารกตายในครรภ์ หรือการเกิดความพิการแต่กำเนิด ไม่แตกต่างจากหญิงตั้งครรภ์ทั่วไป

ชวน \"หญิงตั้งครรภ์\" ฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดการติดเชื้อ ทารกคลอดก่อนกำหนด

อยากสื่อสารกับหญิงตั้งครรภ์ ว่าอย่าลังเลที่จะมารับวัคซีน และครอบครัวหญิงตั้งครรภ์สนับสนุนให้หญิงตั้งครรภ์มารับวัคซีนใกล้บ้าน เพราะหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยง และขอยืนยันว่าวัคซีนมีประโยชน์ สามารถลดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง ลดโอกาสคลอดก่อนกำหนดซึ่งจะส่งผลแทรกซ้อนในระยะยาวต่อเด็ก นอกจากนี้ยังลดโอกาสแพร่เชื้อไปยังสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว อย่างไรก็ตาม แม้ได้รับวัคซีนไปแล้ว ก็ต้องปฏิบัติการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด”อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

 

  • ร้อยละ 91.64 ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีน

 นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และโฆษกกรมอนามัย กล่าวว่า ตอนนี้คนไทยได้รับวัคซีนแล้วร้อยละ 70 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อย่าง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จะฉีดได้ประมาณร้อยละ 70 กว่า แต่พอมาถึงกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่ามีประมาณ 500,000 คน ในกลุ่มเป้าหมายตั้งครรภ์เกิด 12 สัปดาห์ มีประมาณ 300,000 กว่าคน แต่พึ่งฉีดวัคซีนได้เพียง 100,000 คนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักคือ ความกังวล และความปลอดภัยของวัคซีน

ในส่วนของประเทศไทย พบว่าร้อยละ 91.64 ของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ยังไม่ได้รับวัคซีน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีโอกาสติดเชื้อโควิดแล้วมีอาการปอดอักเสบกว่าร้อยละ 20 มีอาการเล็กน้อยร้อยละ 20 และไม่มีอาการเลย ร้อยละ 48.78 ขณะที่ความรุนแรงของอาการของทารกที่ติดเชื้อ พบว่า ร้อยละ 82.47 ไม่มีอาการ ร้อยละ 8.59 มีอาการเล็กน้อย ร้อยละ 6.19 มีปอดอักเสบแต่ไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ร้อยละ 2.06 มีอาการปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจ และร้อยละ 0.69 เสียชีวิต

  • วัคซีนโควิดปลอดภัยทั้งแม่ลูก

“พล.อ.ท.นพ.การุณ เก่งสกุล” ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าตอนนี้ มีเด็กเกิดใหม่ 500,000 คนต่อปี ซึ่งจากการเก็บข้อมูลของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ เมื่อวันที่ 12 ส.ค 2564 พบว่า มีหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด 1,993 คน คลอด 1,129 คน แม่ตาย 37 คน คิดเป็นร้อยละ 1.85 ลูกตาย 20 คน คิดเป็นร้อยละ 1.8 ตายกลม 16 คน และลูกติดโควิด 113 คน คิดเป็นร้อยละ 11.8 ต่อมามีการเก็บข้อมูลเพิ่มในวันที่ 4 ก.ย.2564 พบ มีหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด 3,223 คน คลอด 1,731 คน แม่ตาย 73 คน คิดเป็นร้อยละ 4.2 ลูกตาย 33 คน คิดเป็นร้อยละ 2.8 ตายกลม 16 คน และลูกติดโควิด 170 คน คิดเป็นร้อยละ 9.7

“ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด ทำให้ภูมิต้านทานไปถึงลูกได้ และโควิด-19 เมื่อลงปอดจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียชีวิต หญิงตั้งครรภ์จึงต้องฉีดวัคซีนโควิด โดยวัคซีนตอนนี้มีความปลอดภัยต่อแม่และลูกสูง และจากการติดตามความปลอดภัยของการใช้วัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ ไม่พบว่าทำให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ต่อการตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ ดังนั้นอยากเชิญชวนให้หญิงตั้งครรภ์ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เร็วที่สุดพล.อ.ท.นพ.การุณ กล่าว

“ดร.จอส ฟอนเดลาร์” ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า องค์กรอนามัยโลก ระบุว่า ร้อยละ 98 ของหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่หญิงตั้งครรภ์ไม่ฉีดวัคซีน เนื่องจากมีความกังวลว่าเมื่อรับวัคซีนไปแล้วจะส่งผลกระทบต่อทารก โดยจากการศึกษา พบว่า วัคซีนมีความปลอดภัย สำหรับแม่และเด็กๆ โดยจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิตได้ อีกทั้งหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วสามารถให้นมบุตรได้ ดังนั้น ขอเชิญชวนให้คุณแม่ทุกคนมารับวัคซีนโควิด-19

 

พิสูจน์อักษรโดย....สุรีย์   ศิลาวงษ์