เลื่อน "Test & Go" ประเทศปลอดภัย
การพิจารณาเลื่อนเปิด Test & Go ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ เหตุการณ์แบบคลัสเตอร์ “กาฬสินธุ์” เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก เพราะจากข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อ “โอมิครอน” ที่นับวันจะพุ่งขึ้นในประเทศนั้น มาจากคนไทยที่มาจากต่างประเทศตรวจไม่พบอาการในวันแรก และไปพบปะสังสรรค์สถานที่เสี่ยง มีอาการป่วยภายหลัง
สถานการณ์ทั่วโลกพบการติดเชื้อ “โอมิครอน” เพิ่มขึ้น ทำให้ไทยต้องประกาศชะลอการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test & Go เพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งวันนี้ (4 ม.ค.) ครบกำหนด 15 วัน ทว่ายังพบผู้เดินทางเข้าประเทศติดเชื้อ “โอมิครอน” ต่อเนื่อง
ตัวเลขล่าสุด (3 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 229 ราย สะสมทั้งหมด 1,780 ราย จังหวัดที่พบมากที่สุดยังเป็นกรุงเทพมหานคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชลบุรี และภูเก็ต ขณะที่ภาพรวมผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 2,927 ราย ในกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ พบผู้ติดเชื้อ 168 ราย เป็นชาวต่างชาติ 78% ส่วนใหญ่ผ่านระบบ Test & Go ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย
ในจำนวนที่ติดเชื้อ “โอมิครอน” ที่มาจากต่างประเทศ และกลายเป็นผู้ที่แพร่เชื้อในเวลาต่อมา ทั้งที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด และยังไปสถานที่ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting จนเกิด “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” เห็นได้ชัดคลัสเตอร์ “กาฬสินธุ์” ที่กระจายไปยังจังหวัดใกล้เคียง
ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด (EOC) เห็นตรงกันว่า จะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เลื่อนมาตรการ Test & Go ออกไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ ส่วนที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ ต้องเดินทางเข้ามาภายในวันที่ 10 ม.ค.
การเลื่อนเปิดระบบเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test & Go ควรดำเนินการควบคู่ไปกับเข้มงวดมาตรการป้องกันตัวเองสูงสุดของ “คนไทย” ที่กลับจากประเทศ และควรมีการกักตัวที่บ้านอย่างน้อย 7 วันก่อน ค่อยไปพบปะสังสรรค์ และมีระบบติดตามสอดส่องดูแล เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อบางครั้งตรวจไม่พบในวันแรกที่เข้าประเทศ ผ่านไป 3 วันค่อยมีอาการ ระหว่างนั้นอาจเดินทางไปพบปะสังสรรค์ รวมกลุ่มในร้านอาหารกึ่งผับที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ที่มีระบบระบายอากาศไม่ดี จัดที่นั่งแออัด ไม่มีการเว้นระยะห่าง พนักงานไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการจำหน่ายสุราและแสดงดนตรี รวมถึงมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ
เราเห็นว่า การพิจารณาเลื่อนเปิด Test & Go ถือเป็นการป้องกันไม่ให้ เหตุการณ์แบบคลัสเตอร์ “กาฬสินธุ์” เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก เพราะจากข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อ “โอมิครอน” ที่นับวันจะพุ่งขึ้นในประเทศนั้น มาจากคนไทยที่มาจากต่างประเทศตรวจไม่พบอาการในวันแรก และไปพบปะสังสรรค์สถานที่เสี่ยง มีอาการป่วยภายหลัง และกลายเป็นการแพร่เชื้อในประเทศเสียเองอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหลังสิ้นสุดเทศกาลปีใหม่ คนกลุ่มนี้อาจได้รับเชื้อโควิด-19 และเมื่อกลับมาเรียนหรือทำงาน อาจนำเชื้อมาแพร่กระจายไปต่อได้อีก