ล่าสุด มาตรการยกระดับคุมโควิด-19หลังปีใหม่

ล่าสุด มาตรการยกระดับคุมโควิด-19หลังปีใหม่

สธ.ชงศบค.ปรับมาตรการ 7 ม.ค.นี้ ทั้งTest&Go -ผับบาร์-อื่นๆ คุมโควิด-19หลังปีใหม่ หวังชะลอการระบาด ประเมินสถานการณ์ 1 เดือน ดูยอดติดเชื้อ-เสียชีวิต

 เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด -19 หลังจากนี้ว่า เป็นไปตามสถานการณ์ เทศกาลปีใหม่ควรทำสิ่งดี สิ่งเป็นมงคล แต่มีบางคนเลือกทำสิ่งที่ไม่เข้าท่า คนอื่นต้องเดือดร้อนไปด้วย อย่างไรก็ตาม มีความพร้อมในเรื่องระบบสาธารณสุข ที่สำคัญคือการเร่งฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปี 2564 เพราะหากวัคซีนไม่กระจายเต็มที่แบบนี้ คงวุ่นวายกว่านี้มาก

"กรณีผับ บาร์ คาราโอเกะ ทางกรมควบคุมโรคก็ต้องคิดว่า ที่จะเปิดวันที่ 15 ม.ค. ยังจะเปิดได้อยู่หรือไม่ เพราะไม่มีการทำ Covid-19 free settings เลย และไม่ใช่จะบอกว่าจะมาตัดสินใจจากเพียงราย สองราย มันไม่ใช่ เพราะมันทั้งหมดเลย" นายอนุทิน กล่าว

ถามย้ำว่าการพิจารณาเปิดสถานบริการในวันที่ 16 ม.ค. จะมีแนวโน้มอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คงจะต้องพิจารณาให้หนักกว่านี้ ถ้าเป็นตนก็คงไม่ให้เปิด ก็จะเสนอศบค.เลื่อนออกไปก่อน ส่วนมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด -19นอกจากนี้ เช่น ชะลอเลื่อนเปิด Test & Go และอื่นๆ ก็จะเสนอตามขั้นตอนและเข้าที่ประชุมศบค.ในวันศุกร์ 7 ม.ค.นี้

  ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จะประเมินราว ๆ 1 เดือน แบ่งเป็น 2 สัปดาห์แรกเพื่อดูสถานการณ์การติดเชื้อตัวเลขจะพุ่งขึ้นเร็วหรือไม่ และ 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค.จะประเมินอัตราการเสียชีวิต ดังนั้น คงประมาณ 1 เดือน แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว 2 สัปดาห์คงประเมินและตัดสินใจได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ศบค. ที่จะเป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจ
ส่วน Test & Go ยังชะลอการเปิดออกไปก่อน ไม่อนุญาตให้เปิดลงทะเบียนเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนคนที่ลงทะเบียนตกค้างและยังไม่ได้เข้ามาจะให้เข้ามาหรือไม่ แต่ความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขนั้นไม่อยากให้เข้ามา เพราะมีโอกาสนำเชื้อเข้ามา หากจะเข้ามาให้เข้ามาแบบแซนด์บ็อกซ์( Sandbox) ซึ่งแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ตยังทำดี และมีหลายจังหวัดที่ขอเปิดเพิ่มก็จะช่วยแบ่งเบาภาระให้คนเดินทางเข้าไทยได้ มากกว่าเปิดที่เดียว

   นพ.เกีบรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ก่อนเดินทางกลับขอให้มีการตรวจคัดกรองด้วย ATK และเมื่อกลับมาถึงหากสามารถทำงานที่บ้านได้ให้ทำงานที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน แต่หากต้องเริ่มปฏิบัติงานทันทีขอให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน และในสัปดาห์แรกให้ตรวจ 2 ครั้งห่างกันอย่างน้อย 3 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวังอาการจนครบ 14 วัน และงดการรวมกลุ่มพูดคุย/รับประทานอาหาร หากเกิดการติดเชื้อในโรงงานไม่จำเป็นต้องปิดโรงงาน แต่ขอให้ใช้มาตรการ Bubble & Seal เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อออกภายนอก

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวัน เพื่อปรับมาตรการต่างๆ ให้ทันสถานการณ์ สำหรับประชาชนขอให้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด หลีกเลี่ยงการไปสถานที่เสี่ยง เช่น ร้านที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และหากพบขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่เพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรุง รวมทั้งขอให้ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง สตรีมีครรภ์ ติดต่อขอรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน เนื่องจากข้อมูลทั้งในประเทศและต่างประเทศยืนยันตรงกันว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิด 19 ลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้