เช็ค ทุกมาตรการศบค.ปรับล่าสุด รับมือโอมิครอน

เช็ค ทุกมาตรการศบค.ปรับล่าสุด รับมือโอมิครอน

ศบค.ปรับมาตรการรับโอมิครอน 69 จ. เป็นพื้นที่ควบคุมสีส้ม 8 จ.คงสีฟ้านำร่องท่องเที่ยว ไม่ห้ามเดินทาง ระงับTest&Go เพิ่มแซนด์บ็อกซ์ 3 จังหวัด ทำงานที่บ้านถึง 31 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2564 ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีการพิจารณาใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.สถานการณ์โรค ซึ่งประเทศไทยติดเชื้อใหม่ 7,526 ราย เสียชีวิต 19 คน  ติดเชื้อสะสม 2,223,918 ราย อัตราเสียชีวิต 0.98%  ผู้ที่มีอาการหนัก 547 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 148 ราย  ฉีดวัคซีนสะสมกว่า 105 ล้านเข็ม 

      “ถ้าปล่อยให้มีการติดเชื้อตามธรรมชาติโดยไม่มีมาตรการอะไร  คาดว่าปลายม.ค.นี้ ก็อาจจะทำให้มีการติดเชื้อหลายหมื่นคนต่อวัน  แต่ในส่วนของการเสียชีวิต ยังไม่พ้นเส้นสีเขียว ทำให้รู้ว่าลักษณะของโรคไม่ได้รุนแรงเหมือนเดลตา  ซึ่งคล้ายกับสถานการณ์โลกเช่นกัน”นพ.ทวีศิลป์กล่าว   

2.กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นำเสนอการปรับระดับพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรและปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค  โดยปรับให้ทั้ง 69 จังหวัดเป็นสีส้ม พื้นที่ควบคุม ส่วนอีก 8 จังหวัด เป็นสีฟ้าเป็นการนำร่องท่องเที่ยว ประกอบด้วย กทม. ภูเก็ต กาญจนบุรี  กระบี ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี และพังงา ทั้งจังหวัด ส่วนอื่นๆเป็นบางพื้นที่บางอำเภอในอีก 18 จังหวัด เริ่ม 9 ม.ค.2565

เช็ค ทุกมาตรการศบค.ปรับล่าสุด รับมือโอมิครอน

     ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยขยายทำงานที่บ้าน(Work From Home) ขอความร่วมมือขยายถึงวันที่ 31ม.ค.2565 ,สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะที่เดิมจะเปิดในวันที่ 16 ม.ค. 2565 ให้เลื่อนออกไป เนื่องจากการสอบสวนโรคช่วงปลายปีและปีใหม่ที่ผ่านมาปรากฏว่าหลายสถานบันเทิงที่ได้เปิดให้บริการ หรือปรับเป็นร้านอาหารแต่มีการจำหน่ายสุราและทำไม่ถูกต้อง ทำให้มีการแพร่กระจายเชื้อหลายแห่งทั่วประเทศ  ทั้งนี้ ให้สามาถรปรับรูปแบบได้คือขอปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบร้านอาหารได้ โดยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด /กทม.

    ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ให้บริโภคสุราในร้านอาหารได้ ขอจำกัดเวลาไม่เกิน 21.00 น. จะต้องเป็นร้านที่ผ่านSHAพลัส หรือไทย สต็อปโควิด 2 พลัสเท่านั้น  และจะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ถ้าทำไม่ถูกต้องให้สั่งปิดและสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอย่างจริงจัง

3.ในการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ให้มีการยกเลิกกลุ่มประเทศเสี่ยงเข้ามาในประเทศจากเดิมที่กำหนด 8 ประเทศห้ามเข้า และประเทศในทวีปแอฟริกาให้กักตัว เนื่องจากโอมิครอนมีหการแพร่กระจายไปหทั่วโลกแล้ว    รวมถึง เห็นชอบเพิ่ม 3 จังหวัดแซนด์บ็อกซ์ คือ จ.สุราษฎรธานี เน้นพื้นที่เกาะสมุย พะงัน เต่า จ.พังงาและกระบี่ทั้งจังหวัด ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอีก 26 จังหวัดเหมือนเดิม ส่วนอีก 5 จังหวัดที่จะเป็นพื้นที่นำร่องเที่ยวยังไม่เพิ่ม ให้เลื่อนไปก่อน  และกรณีTest&Go  ระงับการลงทะเบียนออกไป และระงับการเดินทางเข้ามาของผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้วแต่เดินทางเข้ามาหลังวันที่ 15 ม.ค.2565

เช็ค ทุกมาตรการศบค.ปรับล่าสุด รับมือโอมิครอน

     และ4.แผนการให้วัคซีนปี 2565 โดย จะมี 3 เป้าหมาย คือ ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยได้รับวัคซีนสามารภวอล์กอินเข้ารับวัคซีนได้ , ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือผู้ที่เคยติดเชื้อทุกราย  จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางที่สธ.ประกาศให้ใช้ภาหยใต้คำแนะนำที่มีผลงานทางวิชาการรับรอง  และกลุ่มผู้ที่มีอายุ 5-12 ปี  สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง โดยประมาณการในเดือนม.ค. ตั้งเป้า 9.3 ล้านคน 

 นอกจากนี้ ได้เห็นชอบให้ใช้เงินกู้ในการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นชุด เพื่อเป็นความมั่นคงทางยา โดยยานี้ใช้ในผู้ที่มีอาการไม่มาก เล็กน้อย ปานกลางและเสี่ยงเกิออาการรุนแรง  แต่ยาหลักยังอยู่ที่ยาฟาวิพิราเวียร์

       ต่อคำถามจากที่สธ.มีการยกระดับเตือนภัยโควิด19เป็นระดับ 4 จะมีมาตรการในห้ามการเดินทางหรือไม่ อย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ไม่ได้สั่ง หรือมีมติใดๆ ในการปิดกิจการ/กิจกรรมใดๆนอกจากสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึง หยุดเดินรถหรือเครื่องบิน  ในการเดินทางยังทำได้เหมือนเดิม เพียงแต่ให้ใช้คำแนะนำของสธ.เพื่อเตือนสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีความจำเป็นในการเดินทาง