เช็ค! "จดทะเบียนสมรส" กับชาวต่างชาติอย่างไร ให้มีผลทางกฎหมายทั้ง 2 ประเทศ
ต้อนรับ "วันแห่งความรัก" 14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) เช็คข้อควรรู้ ก่อน "จดทะเบียนสมรส" กับชาวต่างชาติ ทำอย่างไรให้มีผลทางกฎหมายทั้ง 2 ประเทศ
สำหรับคนไทยที่พบรักชาวต่างประเทศและมีแผนจดทะเบียนสมรส ควรเช็คเอกสารและเงื่อนไขทางกฎหมายให้ละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่ามีผลทางกฎหมายทั้ง 2 ประเทศ โดยการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย และ จดทะเบียนภายใต้กฎหมายต่างชาติ
จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย
ณ สํานักงานเขต/ที่ว่าการอําเภอ/สํานักงานทะเบียนท้องถิ่น
เอกสารที่ใช้
- ชาวต่างชาติขอใบรับรองความเป็นโสด ที่สถานทูตชาติของคู่สมรสในประเทศไทย กรณีบางสถานทูตไม่มีสิทธิออกใบรับรอง ต้องติดต่อสํานักงานเขตในประเทศต้นทาง
- นําเอกสารดังกล่าวแปลเป็นภาษาไทย
- นําเอกสารต้นฉบับ (ภาษาต่างประเทศ) และฉบับแปล (ภาษาไทย) ยื่นรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์
- กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
- หนังสือเดินทางของชาวต่างชาติ
- คนไทยต้องมีบัตรประจําตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
- จดทะเบียนที่สํานักงานเขต/ที่ว่าการอําเภอ/สํานักงานทะเบียนท้องถิ่น
- พยาน 2 คน (ฝ่ายละ 1 คน)
- ชาวต่างชาติต้องมีล่ามมาด้วย (ล่ามและพยานอาจเป็นคนเดียวกันก็ได้)
จดทะเบียนภายใต้กฎหมายต่างชาติ
(กฎหมายประเทศคู่สมรส)
เอกสารที่ใช้
- ติดต่อสถานทูตชาติของคู่สมรสที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อขอเอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ
- นําเอกสารดังกล่าวแปลเป็นภาษาอังกฤษ
- นําเอกสารต้นฉบับ (ภาษาต่างประเทศ) และฉบับแปล (ภาษาไทย) ยื่นรับรองที่กองสัญชาติและนิติกรณ์กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ
- บัตรประจําตัวประชาชนพร้อมเอกสาร ยื่นขอหนังสือรับรองการสมรสกับสถานทูตของคู่สมรส ที่อยู่ในไทยแล้วนําไปใช้ยังต่างประเทศได้
บุคคลที่สมรสได้ตามกฎหมายไทยจะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้
- เป็นชายหรือหญิง มีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต
- กรณีคู่สมรสอายุต่ำกว่า 20 ปี บิดา - มารดา ต้องมาให้ความยินยอม
- ทั้งคู่ต้องมีสถานะโสดหรือหย่าเรียบร้อยแล้ว
- ผู้หญิงที่ยิ่งหย่าร้างหรือสามีเสียชีวิต ต้องรอให้พัน 310 วัน
จะเห็นได้ว่า การจดทะเบียนสมรสระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติ ไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากมากนัก เพียงแค่มีเอกสารที่สำคัญอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะ "ใบรับรองความเป็นโสด" เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา
สํานักงานอัยการสูงสุด แนะนำเพิ่มเติมว่า กรณีมีข้อสงสัย สามารถโทรสอบถามฝ่ายจดทะเบียนสมรส/สถานทูต เรื่องเอกสารและขั้นตอนเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และกรณีวางแผนขอวีซ่าหรือกลับต่างประเทศ แนะนําให้คัดเอกสารการจดทะเบียนสมรสเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแจ้งประเทศของคู่สมรสให้มีผลต่อกฎหมายและเงื่อนไขต่าง ๆ
ขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ในวันและเวลาราชการ หรือโทรศัพท์ 0 2142 1532, 0 2142 1533 อีเมล [email protected]