"สาธิต"เล็งดึงอินฟลูเอนเซอร์สร้างความ"ว้าว"กระตุ้นคนไทยอยากมีลูก

"สาธิต"เล็งดึงอินฟลูเอนเซอร์สร้างความ"ว้าว"กระตุ้นคนไทยอยากมีลูก

"สาธิต"ดันปัญหาเด็กเกิดใหม่น้อยเป็น "วาระแห่งชาติ" ระบุต้องปรับค่านิยมให้คนร้อง "ว้าว"เล็งดึง อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสุขสนุกในการเลี้ยงลูก มาเป็นต้นแบบ คาดอย่างน้อยใช้เวลา 5 ปี

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาเด็กไทยเกิดต่ำสุดในรอบ 50 ปี ว่า ขณะนี้หลายฝ่ายเห็นปัญหาเหมือนกันว่าจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหากันตั้งแต่วันนี้ โดยมีคณะกรรมการอนามัยเจริญพันธุ์ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือรัฐบาลเปลี่ยนแปลง ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเข้าใจและตระหนักดี และพยายามให้ท่านผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ในส่วนของคณะกรรมการอนามัยเจริญพันธุ์ ก็เดินหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่งทำแล้วระดับหนึ่ง แต่หากจะปรับเปลี่ยนค่านิยม ต้องทำให้ว้าวขึ้นมา เบื้องต้นได้มอบให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชิญอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสุขสนุกในการเลี้ยงลูก มาเป็นตัวอย่างการวางแผนครอบครัว ซึ่งจะมีต้นแบบในแต่ละพื้นฐานรายได้ครอบครัว หากรัฐบาลช่วยกันทั้งหมดทุกกระทรวง ก็จะค่อยๆทำให้ฐานความคิดคนเริ่มเปลี่ยน อาจจะอย่างน้อย 5 ปี

 " เรื่องการแก้ปัญหาผู้มีบุตรยากสิ่งสำคัญคือการปรับค่านิยม อาจจะไม่ใช่เรื่องของการให้เงินทั้งหมด เพราะมีตัวอย่าง เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่จ่ายเงิน 1 แสนบาทกรณีมีเด็กเกิด 1คน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย ดังนั้นประเทศไทยก็ต้องคิดให้ครอบคลุมทั้งระบบ ทั้งเรื่องของสวัสดิการ และในระยะยาวตั้งแต่เกิด ถึงจบปริญญาจะมีการส่งเสริมให้มีครอบครัว และมีลูกที่มีคุณภาพได้ มีการวางแผนครอบครัว"นายสาธิตกล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า หากเป็นวาระแห่งชาติ ต้องใช้งบประมาณเทเข้าไป ฉะนั้น ต้องช่วยกัน ในวันนี้มีเพียงชุดสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมให้คนไทยมีลูก แต่ในอนาคตที่มีเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ยังไม่กล้าพูดต้องใช้งบประมาณมากแค่ไหน แต่กล้าพูดว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งต้องใช้เงินในการแก้ไขปัญหาด้วย ซึ่งคนละครึ่ง ที่น่าจะใช้ได้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หากเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว การให้ความสำคัญในเรื่องนี้ต้องลดลง เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเรื่องประชานิยม ดังนั้น เรื่องนี้ต้องปรับเป็นนโยบายที่จำเป็น เรื่องสำคัญของประเทศชาติ อย่างเรื่องโครงสร้างประชากร หากเป็นวาระแห่งชาติแล้วก็อาจจะปรับโหมดการใช้เงินในส่วนที่รัฐให้ความสำคัญ