สรุปดราม่า ‘M-Flow’ เก็บค่าผ่านทางด้วย ‘AI’ มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร ?
สรุปดราม่า "M-Flow" หลัง "กรมทางหลวง" เริ่มใช้ระบบการ "จัดเก็บค่าผ่านทาง" ด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ ด้วยเทคโนโลยี "AI" แบบไม่มีไม้กั้น แต่กลับพบปัญหารถติดหนัก และมีคนเข้าขับเข้าช่องผ่านทางแบบไม่ได้ลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์
หลังจากที่ "กรมทางหลวง" เปิดระบบ "M-Flow" หรือ "มอเตอร์เวย์ไร้ไม้กั้น" ที่ให้ประชาชนลงทะเบียน แล้วจึงเรียกเก็บเงินหรือตัดเงินในบัตรเดบิตหรือเครดิตภายหลัง โดยใช้เทคโนโลยี "AI" อยู่เบื้องหลัง
เริ่มเปิดใช้งานจริง 4 ด่านนำร่อง บนถนนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ด่านธัญบุรี 1 ด่านธัญบุรี 2 ด่านทับช้าง 1 และด่านทับช้าง 2 เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าหลังจากที่มีการเปิดใช้งานจริงกลับมีดราม่าเรื่องการใช้งานหลายเรื่อง
- สรุปดราม่าการใช้ "M-Flow"
1. ปัญหารถติดหนัก
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจการใช้งานที่ด่านทับช้าง 2 ที่ในช่วงแรกจะเปิดช่องทางสำหรับ M-flow 2 ช่องทางขวา และจะเปิดเต็มระบบ 4 ช่องทางระยะต่อไป ส่วนช่องทางอัตโนมัติ m-pass เหลือเพียง 2 ช่องทาง
ทำให้ในช่วงเวลาเร่งด่วนมีปริมาณรถติดสะสมที่หน้าด่านเก็บเงินค่อนข้างมากเนื่องจากผู้ใช้ที่ไม่ได้ใช้ M-flow ต้องเบี่ยงเข้าช่องทางด้านซ้ายที่เป็นเงินสดและช่องอัตโนมัติ m-pass ส่วนช่องทาง M-Flow ยังมีผู้ใช้งานไม่มากนัก และยังมีรถเข้าช่องทางผิดทำให้รถชะลอตัวเป็นระยะ
2. มีกลุ่มคนเข้าทาง M-Flow แบบไม่ได้มีการลงทะเบียนมาก่อน
เมื่อมีการเปิดใช้ช่อง M-Flow ที่ไม่มีไม้กั้น ซึ่งให้ใช้ได้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกแล้วเท่านั้น ทว่าอาจมีหลายคนที่เข้าใจผิด หรือบางคนที่ตั้งใจขับผ่านเพื่อไม่ให้เสียค่าผ่านทาง
โดยในกรณีนี้กรมทางหลวง แจ้งเตือน "ปรับ 10 เท่า" สำหรับผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก แต่ใช้ช่องทาง M-Flow หรือ มอเตอร์เวย์ไร้ไม้กั้น บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ด่านธัญบุรี 1, ด่านธัญบุรี 2, ด่านทับช้าง 1 และ ด่านทับช้าง 2 ในวันที่ 15 ก.พ. 65 ช่วงเวลา 22.00 น.-00.00 น. โดยจะต้องมาตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระที่ www.mflowthai.com
โดยจะต้องเลือกเมนู "วิ่งช่องผ่านทาง M-Flow แต่ไม่ใช่สมาชิก" ก่อนเวลา 00.00 น. ของวันที่ 17 ก.พ. 65 ทั้งนี้ หากเลยกำหนดไปแล้ว จะต้องชำระค่าธรรมเนียมและค่าปรับตามกฎหมาย 10 เท่า (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1586 กด 1)
- แท้จริงแล้ว "M-Flow" ทำมาเพื่อแก้ปัญหาอะไร ?
M-Flow เป็นระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Free Flow) ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อแก้ไข "ปัญหาการจราจรติดขัดบนทางด่วน" และ "มอเตอร์เวย์"
โดยการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Video Tolling แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม.
- M-Flow ดีอย่างไร ?
- ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ ด้วยความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ
- ช่วยระบายรถได้ 2,000-2,500 คัน/ชม./ช่องทาง เร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือทางพิเศษ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป
- ชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หลังการใช้บริการ หรือ ระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้งหรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชันของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ
- ปัญหาที่พบ
จากการทดลองใช้ "M-Flow" ที่ผ่านมาและมีปัญหาดราม่าเกิดขึ้น ทั้งประเด็นรถติดและการใช้งานที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของประชาชน ไพฑูรย์ พงษ์ชวลิต รองอธิบดีกรมทางหลวง ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ กรุงเทพธุรกิจ Biz Insight (วันที่ 17 ก.พ. 65) เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า
"ขอออกตัวว่าช่วงที่มีการเปลี่ยนถ่าย เพื่อปรับเปลี่ยนสู่ระบบให้ดีขึ้น ก็ย่อมมีอุปสรรคบ้าง ประชาชนยังมีความสับสนว่าใช้ช่องทางไหน ซึ่งตอนนี้เรามีการประชาสัมพันธ์ ทั้ง Tik Tok ใบปลิว มีป้ายแจ้งเตือนตลอดทั้ง 2 ข้างทาง ในช่วงแรกที่มีคนลงทะเบียน M-Flow ยังไม่ได้มากถึง 40-50% ก็อาจจะทำให้คนไปใช้ช่องทางเดิมซึ่งมีพื้นที่น้อยลงเพราะแบ่งไปเป็นช่อง M-Flow แล้ว จึงมีติดบ้างในช่วงพีค แต่เวลาปกติไม่ติด ก็ขอประชาสัมพันธ์ให้มาใช้เยอะๆ แล้วรถจะไม่ติดเลย"
-------------------
อ้างอิง: mflowthai, กรุงเทพธุรกิจ, กรุงเทพธุรกิจ Biz Insight