ธรรมศาสตร์ ลุย "Metaverse" จัดตั้ง "วิทยาเขต" แห่งใหม่ในโลกเสมือน
ม.ธรรมศาสตร์ เตรียมเปิดวิทยาเขตแห่งที่ 5 ในโลก Metaverse ภายใต้ แพลตฟอร์ม T-Verse มอบประสบการณ์เรียนรู้ที่เหนือกว่าการเรียนทั้งแบบ Online และ Onsite ตอบโจทย์หน้าที่หลักของมหาวิทยาลัยในอนาคต สร้างทักษะที่จำเป็น บ่มเพาะ Startup
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ บริษัท แบรนด์เวิร์ส จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว T-Verse: Thailand Multiverse Bridge Platform แห่งแรกของไทย ณ อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐ สถาบันการศึกษา รวมถึงหน่วยงานต่างๆ กว่า 52 องค์กรในครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ของโลกอย่าง “เมตาเวิร์ส” มาพัฒนา เพื่อสร้างแพลทฟอร์มของการเชื่อมต่อ การทำธุรกิจ การศึกษา ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ บนจักรวาลของ T-Verse ซึ่งจะสนับสนุนให้ประเทศมีการพัฒนาก้าวล้ำหน้า พร้อมๆ ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
รศ.เกศินี กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 88 ปีขณะนี้ มธ. เตรียมเปิดวิทยาเขตแห่งที่ 5 ที่เรียกว่า “Thammasat Metaverse Campus” ที่จะให้บริการทางการศึกษาแก่ผู้คนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกบนแพลทฟอร์ม T-Verse ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ งานวิจัย รวมทั้งนวัตกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะเข้ามาร่วมกันสร้างแพลทฟอร์มแห่งนี้ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ร่วมกัน ในการพัฒนาศักยภาพของทุกคน
- 5 วิทยาเขตอยู่บนโลกMetaverse
รศ.ดร.สุรัตน์ ทีรฆาภิบาล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารท่าพระจันทร์และวิเทศสัมพันธ์ และประธานคณะกรรมการ Thammasat Metaverse กล่าวว่า ปัจจุบัน มธ.มี 4 วิทยาเขต คือ ท่าพระจันทร์ ศูนย์รังสิต ศูนย์ลำปาง และศูนย์พัทยา ส่วนวิทยาเขตที่ 5 นี้จะตั้งอยู่บนโลกเมตาเวิร์ส ภายใต้แพลทฟอร์ม T-Verse ซึ่งภายในThammasat Metaverse Campus จะตอบโจทย์ใน 4 ด้าน ได้แก่
1. Immersive Learning Classrooms ที่จะยกระดับประสบการณ์การเรียนการสอนรูปแบบใหม่
“เราได้เห็นข้อจำกัดจากการขาดปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในการเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่การเรียนออนไซต์แบบเดิมก็มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ในวิชาการแพทย์ จำนวนอาจารย์ใหญ่ที่มีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการศึกษาก็ลดลงอย่างน่าใจหาย เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการสอน แต่เมตาเวิร์สจะนำนึกศึกษาเข้าเรียนในโลกเสมือนจริง สามารถฝึกฝนกับร่างจำลอง ได้เรียนรู้ทักษะมากกว่าการอ่านจากหนังสือ หรือการเรียนในด้านสังคม มนุษยศาสตร์ เราก็สามารถเข้าไปทดลองทำ Social Experiment ได้โดยไม่กระทบกับผู้คนอื่น” รศ.ดร.สุรัตน์ กล่าว
2. VR Museum of History, Culture and Democracy นอกจากการเรียนวิชาการแล้ว มธ. ยังมุ่งเน้นการเรียนการสอนนอกห้องเรียน โดยจะเปิดพื้นที่การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประชาธิปไตยที่ มธ. มีมาอย่างยาวนาน ให้ทุกคนสามารถย้อนเวลาผ่านยุคสมัยเพื่อเข้าใจประวัติศาสตร์ได้มากกว่าการท่องจำ และเข้าใจบริบทต่างๆ จากประสบการณ์ที่ได้รับบนเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง หรือ Virtual Reality (VR) Technology
- สร้างทักษะที่จำเป็น บ่มเพาะ Startup
3. Next Generation Omnichannel Marketplace จากการทำงานของ มธ. ที่ได้ร่วมสนับสนุนและมีโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนต่างๆ มาเป็นเวลาหลายปี มธ.จะนำพาธุรกิจเหล่านี้สู่ขั้นถัดไป ด้วยการเพิ่มช่องทางการขายบนโลกเสมือนจริงแบบไร้รอยต่อ โดยผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผ้าซิ่น อาจนำมาขายได้ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล (NFT) เพื่อเป็นชุดมาสวมใส่อวตารของผู้ใช้งาน ขณะที่ตัวผลิตภัณฑ์จริงก็จะถูกส่งไปที่บ้านของผู้ซื้อสินค้าได้ เป็นต้น
4. 88 Sandbox Spaces เป็นการต่อยอด 88 Sandbox ที่เป็นโครงการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพให้เป็น Next Unicorn ของประเทศ โดยภายใน Thammasat Metaverse Campus ผู้เข้าร่วมจะสามารถเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับบรรดาที่ปรึกษา (Mentor) นักลงทุน (Venture Capitalist) และระหว่างสตาร์ทอัพกันเอง โดยจะมีพื้นที่สำหรับการขายงาน (Pitching) การประชุม ตลอดจนการจัดกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกันระหว่างสตาร์ทอัพ และ Mentor
- แพลตฟอร์ม T-Verse เพิ่มขีดการแข่งขันที่มั่นคง
ด้าน นายณัฐเศรษฐ์ ไตรทิพย์เจริญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนด์เวิร์ส จำกัด กล่าวว่า เมตาเวิร์สไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายมหาศาล ซึ่งหลายประเทศรวมถึงบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลกต่างกำลังกระโดดเข้ามาช่วงชิงพื้นที่และร่วมในอุตสาหกรรมนี้ จึงเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่จะร่วมก้าวไปพร้อมกัน
ด้วยความร่วมมือของภาคการศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ รวมถึงภาครัฐ เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่เข้ามาร่วมสนับสนุนและผลักดันผู้ประกอบการไทยให้เติบโต
สำหรับแพลตฟอร์ม T-Verse จะเป็นระบบเมตาเวิร์สพื้นฐานของประเทศไทยแห่งแรก ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาใช้งานและออกแบบเมตาเวิร์สที่ต้องการให้เป็น ขณะเดียวกันผู้ใช้งานยังสามารถข้ามไปมาระหว่างเมตาเวิร์สแต่ละแห่งได้ โดยใน T-Verse จะประกอบด้วยวงแวนจำนวน 13 วง พร้อมกับดาวทั้งหมด 985 ดวง และข้อดีคือข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ภายใต้เมตาเวิร์สของตนเอง ส่วนผู้คนที่เข้ามาใช้ชีวิตในโลก T-Verse จะสามารถเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ช็อปปิ้ง เรียน หรือแม้แต่เข้ามาทำงานก็ได้เช่นเดียวกัน
“ในเฟสแรกเราได้ชวนแบรนด์และหน่วยงานต่างๆ เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ และวันนี้เราอยู่ในเฟสที่ 2 คือการเปิดตัวโลก T-Verse ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ปีนี้เราจะเข้าสู่เฟสที่ 3 คือการออกเหรียญ T-Verse Coins และ Foundation ส่วนเฟสที่ 4 ในไตรมาสที่ 4 เราตั้งใจที่จะไปสู่ตลาดสากล เชื่อมต่อกับต่างประเทศ โดยเชื่อว่าพลังของทุกคนที่มาร่วมกันพัฒนาในครั้งนี้ จะเป็นหัวใจในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่มั่นคง นำพาเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่โลกดิจิทัลใบใหม่ไปด้วยกัน” นายณัฐเศรษฐ์ กล่าว