ก.แรงงาน ลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจแรงงานประมงป้องกันค้ามนุษย์ ยกไทยสู่เทียร์ 1
‘รมว.เฮ้ง’ขานรับ‘บิ๊กป้อม’ส่ง พล.ต.ต.นันทชาติ ลงภูเก็ตบูรณาตรวจแรงงานประมงป้องกันค้ามนุษย์ ยกไทยสู่เทียร์ 1 ตามมาตรฐานสากลและองค์การแรงงานระหว่างประเทศควบคู่กับการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนสังกัดกระทรวงแรงงานประจำจังหวัดภูเก็ต
เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป เรื่อง สถานการณ์ด้านแรงงานการค้ามนุษย์และแรงงานภาคประมงจังหวัดภูเก็ต ณ สำนักงานแรงงานจังหวัดภูเก็ต และหลังจากนั้น พลตำรวจตรี นันทชาติ พร้อมคณะองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) เข้าประชุมเพื่อรับฟังผลการดำเนินงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกจังหวัดภูเก็ต (PIPO) ณ ด่านตรวจประมงภูเก็ต สำนักงานศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออกภูเก็ต
จากนั้นในวันที่ 8 มีนาคม 2565 พล.ต.ต.นันทชาติ ยังได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์การตรวจบูรณาการคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล ณ ท่าเทียบเรือรัษฎา จังหวัดภูเก็ต
โดย พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ สู่ Tier 1
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและองค์การแรงงานระหว่างประเทศควบคู่กับการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing)
โดยการตรวจในครั้งนี้เป็นบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ตำรวจน้ำ และองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) ซึ่งประกอบด้วย Stella Maris มูลนิธิไอเจเอม และสำนักงานกฎหมายเอส อาร์
ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ตรงกัน และนำข้อท้าทายหรืออุปสรรคจากการออกตรวจที่พบร่วมกันมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การดำเนินการให้ความคุ้มครองแรงงานในภาคประมงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวต่อว่า ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมและคณะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อมาตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเล เยี่ยมและรับฟังรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรคด้านแรงงานในการประกอบอาชีพประมงทะเล
รวมทั้งพบปะกับลูกจ้าง นายจ้าง และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์
ในวันนี้ได้ลงตรวจเรือประมง จำนวน 4 ลำ ได้แก่ เรือ ทองเจริญทรัพย์ 2 ขนาด 111.46 ตันกรอส มีลูกเรือ 38 คน เป็นสัญชาติไทย 2 คน เมียนมา 36 คน เรือทองเจริญทรัพย์ 8 ขนาด 118.89 ตันกรอส มีลูกเรือ 41 คน เป็นสัญชาติไทย 4 คน เมียนมา 37 คน
เรือโชคกาญจนา 29 ขนาด 113.33 ตันกรอส มีลูกเรือ 34 คน เป็นสัญชาติไทย 3 คน เมียนมา 31 คน เรือนาวายุทธกิจ ขนาด 43.50 ตันกรอส มีลูกเรือ 12 คน เป็นสัญชาติไทย 2 คน เมียนมา 10 คน
ในโอกาสนี้ ยังได้เน้นย้ำ ถึงนโยบายรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายจ้าง และลูกจ้างในเรือประมงโดยเฉพาะการจัดสวัสดิการ ให้มีอาหารและน้ำดื่มที่สะอาดถูกสุขลักษณะ มีห้องน้ำ ห้องเวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในจำนวนที่เพียงพอ เพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานและระยะเวลาการใช้ชีวิตบนเรือ
รวมทั้งได้กำชับให้นายจ้างให้ความรู้แก่ลูกจ้างเกี่ยวกับสภาพการทำงาน วิธีการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อให้มีสุขภาพอนามัยที่ดีขณะใช้ชีวิตอยู่บนเรือ และตรวจเช็คความพร้อมของอุปกรณ์ความปลอดภัยบนเรือ ก่อนการทำงานอีกด้วย