"สปสช." เผย "สายด่วน 1330" โทรไม่ติด/ไม่มีคนรับเหลือ 0%
สปสช. เผย "สายด่วน 1330" สายโทรไม่ติด/ไม่มีคนรับเหลือ 0% ตั้งแต่ 12 มี.ค. หลังระดมความช่วยเหลือภาครัฐ เอกชน พร้อมปรับระบบเน้นคัดกรองอาการ หากเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงและเป็นผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง จะลงทะเบียนเข้าระบบรักษาที่บ้าน หากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงแนะนำรักษา เจอ แจก จบ
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ของ สายด่วน 1330 ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบปัญหาประชาชนโทรไม่ติด/ไม่มีคนรับสาย (Abandon Call) เนื่องจากมีปริมาณการโทรเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก สูงสุดถึงกว่า 70,000 สายต่อวัน ทำให้ประชาชนที่ต้องการโทรเข้ามาติดต่อเกี่ยวกับสิทธิบัตรทอง สอบถามข้อมูล หรือ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องการลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation บางส่วนไม่สามารถโทรเข้ามา โดยระบุว่าขณะนี้ปริมาณ Abandon Call ได้ลดลงเหลือ 0% แล้ว
นพ.จเด็จ กล่าวว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ Abandon Call ทยอยเพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนเกิน 20% ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. และมีจุดพีคที่ 57.49% ในวันที่ 26 ก.พ. สาเหตุนอกจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นแล้ว กว่า 50% ที่โทรเข้ามา มาจากผู้ที่ลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation แล้วแต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับจากหน่วยบริการจึงเกิดความกังวลและโทรกลับเข้ามาเพื่อสอบถามความคืบหน้า
อย่างไรก็ดี สปสช. ได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยวิธีต่างๆ เช่น เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่จิตอาสาในการตอบโทรศัพท์ รับการสนับสนุน Call Center จากหน่วยงานอื่นๆเข้ามาช่วยรับสาย ประชาสัมพันธ์ให้แจ้งข้อมูลผ่านช่องทาง Non-voive เช่น ไลน์ออฟฟิเชียล @nhso
รวมถึงนโยบายใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขที่ปรับเป็นการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านหรือ เจอ แจก จบ ดังนั้น สถานการณ์สาย Abandon Call จึงมีสัดส่วนลดลงเรื่อยๆ มาอยู่ในระดับต่ำกว่า 20% ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. และเหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา
นพ.จเด็จ กล่าวว่า การลดจำนวน Abandon Call ต้องขอขอบคุณความร่วมมือร่วมใจจากหลายภาคส่วนที่สนับสนุนทั้งบุคลากรและ capacity มาช่วยสายด่วน 1330 อาทิ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี, พระพุทธบาท และสระบุรี ฝ่ายทหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และกลุ่มจิตอาสากลุ่มต่างๆ ที่ช่วยตอบโทรศัพท์และตอบไลน์แชท จนลด Abandon Call เหลือ 0% สามารถให้บริการประชาชนและตอบสนองผู้ติดเชื้อโควิดได้อย่างทันสถานการณ์
เลขาธิการ สปสช. กล่าวต่อว่า จากการปรับแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อใหม่แนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้งแนวทางผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านหรือ เจอ แจก จบ และการปรับ UCEP โควิด เป็น UCEP Plus คือ ให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มสีเหลืองและสีแดง เข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินที่ใช้สิทธิ UCEP หรือรักษาเจ็บป่วยฉุกเฉินได้ทุกที่ สำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่เป็นกลุ่มไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย เข้ารักษาตามแนวทางเจอ แจก จบนั้น
ปรับบทบาท สายด่วน สปสช.1330
ขณะนี้ สปสช. ได้ปรับบทบาท สายด่วน 1330 ไม่ได้รับลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) สำหรับผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาแล้ว แต่จะทำหน้าที่คัดกรองอาการ หากเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงคือ กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, หัวใจและหลอดเลือด, ไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 90 กก., มะเร็ง, เบาหวาน และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง
กรณีเป็นสิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือสิทธิ สปสช. และสิทธิองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สปสช.จะลงทะเบียนเพื่อจับคู่สถานพยาบาลเข้าระบบการรักษาที่บ้านต่อไป ส่วนสิทธิอื่นติดต่อสายด่วนของแต่ละสิทธิหรือสถานพยาบาลประจำของตน กรณีไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงแนะนำให้ไปรักษาที่สถานพยาบาลตามสิทธิรักษาของท่าน เพื่อเข้ารักษาตามแนวทาง เจอ แจก จบ ต่อไป โดยการใช้สิทธิมีดังนี้
สิทธิบัตรทอง 30 บาท (สปสช.)
นอกจากไปที่สถานพยาบาลประจำที่ท่านลงทะเบียนไว้ ยังไปที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ (ไม่ใช้ใบส่งตัว) หน่วยบริการปฐมภูมิ เช่น สถานีอนามัย, รพ.สต., หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาล, ศูนย์สุขภาพชุมชน ศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึง คลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น
สิทธิประกันสังคม
ไปรักษา รพ.ที่ลงทะเบียนไว้ รวมถึงสถานพยาบาลรัฐและเอกชนในระบบประกันสังคมทุกแห่ง สอบถามเพิ่มเติมสายด่วนประกันสังคม 1506
สิทธิข้าราชการ
ไปรักษาได้ที่สถานพยาบาลรัฐทุกแห่ง ติดต่อสายด่วนกรมบัญชีกลาง 02-270-6400 วันและเวลาราชการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso