3 จังหวัด "กรุงเทพ-นครศรี-ชลบุรี" น่าห่วง ยอดพุ่งหลักพันรายต่อเนื่อง

วันนี้  (18 มี.ค.2565) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 24,996 ราย แบ่งเป็น

• ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากในประเทศ 24,792 ราย
• ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 31 ราย
• ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 173 ราย
• ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 84 คน

ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่ม.ค.2565 จำนวน  1,130,534 ราย

ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน ม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 2,548คน ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม  24,246คน

• รักษาอยู่ในรพ. กว่า 2.4 แสนราย

ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่  240,139 ราย กลุ่มคนไข้อาการหนักที่มีอาการปอดอักเสบที่น่าวิตก 1,432ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 521 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 22,292 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่เดือนม.ค.2565 จำนวน  921,090 ราย

รายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ 84 ราย พบว่า เป็นเพศชาย 44 ราย หญิง 40 ราย เป็นชาวไทย 81 ราย  เมียนมา  2 ราย คูเวต 1 ราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 69 ราย คิดเป็น 82% และโรคเรื้อรัง 13 ราย คิดเป็น 16% รวม 98 %

 

• 3 จังหวัดน่าห่วงพบผู้ติดเชื้อหลักพันราย

10 อันดับจังหวัด ผู้ติดเชื้อสูงสุด มีดังนี้

1. กทม. 2,880 ราย
2. นครศรีธรรมราช 1,637ราย
3. ชลบุรี 1,191 ราย
4. สมุทรสาคร  969 ราย 
5. สมุทรปราการ 907 ราย
6. ฉะเชิงเทรา 629 ราย 
7. นครปฐม 587 ราย
8. สงขลา 572 ราย
9. ราชบุรี 571 ราย
10. บุรีรัมย์ 557 ราย

จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ปอดอักเสบกำลังรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 10 อันดับแรก ได้แก่

• กทม. 191 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 32.80%
• สมุทรปราการ 83 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 45.00%
• นครราชสีมา 53 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 25.20 %  
• กาญจนบุรี 52 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 28.20%  
• นครศรีธรรมราช 47 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 15.60%
• บุรีรัมย์  42 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 10.20 %

• สุราษฎร์ธานี 41  ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 48.20%
• นนทบุรี  39 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 41.00%  
• สงขลา 37 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 42.10%  
• ระยอง 34 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 10.80%

 

• ยอดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ทะลุ 22 ล้านราย

ทั้งนี้ หลังจากประเทศไทยเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ สามารถเข้าทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ 1- 19  มี.ค.2565 สะสม  163,568คน  ติดเชื้อ 1,131 ราย อัตราการติดเชื้อ 0.69%  แบ่งเป็น

- Test&Go  เดินทางเข้าไทย  144,413 คน

• ติดเชื้อ 746 ราย 0.52 %

- Sandbox  16,415 คน

• ติดเชื้อ  325 ราย 1.98 %  

- Quarantine 2,740 คน

• ติดเชื้อ 60 ราย 2.19 %

ยอดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย

ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564-19 มี.ค.2565 สะสมทั้งหมด 127,290,646โดส  แบ่งเป็น

• เข็มที่ 1 สะสม 54,858,078 ราย คิดเป็น 78.9 % ของประชากร
• เข็มที่ 2 สะสม 50,104,688ราย  คิดเป็น 72.0 %ของประชากร
• เข็มที่3 สะสม 22,327,880ราย คิดเป็น 32 .1% ของประชากร  

• โควิดระลอกม.ค.65 ผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้น

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่าน blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ระบุว่า โควิด ระลอกมกราคม 2565 อยู่ในลักษณะชะลอตัว แต่มีจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลถึงจำนวนผู้เสียชีวิต ซึ่งจะขยับตัวเพิ่มขึ้นต่อไป

ส่วนจำนวนผู้ที่รักษาตัวอยู่ในระบบยังคงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และยังคงมีเตียงสำรองเหลือเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางถึงอาการหนักอย่างเพียงพอ

โดยผู้ที่ติดเชื้อเข้าข่ายคือ จากการตรวจ ATK และไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงจึงไม่มีอาการ จะเข้าสู่ระบบการรักษาที่เรียกว่าผู้ป่วยนอกหรือ เจอแจกจบ ซึ่งระบบสาธารณสุขมีศักยภาพรองรับได้มาก

• โควิดสายพันธุ์ของโลกและไทย เป็นสายพันธุ์ย่อยที่2 ของโอมิครอน

ไวรัสก่อโรคโควิดที่เป็นสายพันธุ์หลักของโลกและของประเทศไทยในขณะนี้ เป็นสายพันธุ์ย่อยที่สองของ โอมิครอน คือ BA.2 ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่า BA.1 อยู่ 40%

จึงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก และยืดระยะเวลาของการถึงจุดสูงสุดและระยะเวลาของขาลงออกไป

ในส่วนของต่างประเทศ เกาหลีใต้ เวียดนามกำลังประสบปัญหาผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประเทศจีนก็เริ่มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และพบผู้เสียชีวิตเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี

อย่างไรก็ตามจีนยังคงใช้นโยบาย Zero Covid ซึ่งจะทำการล็อกดาวน์เข้มข้นต่อประชาชนครั้งละนับล้านคนเหมือนเดิม ซึ่งได้ผลมาโดยตลอด