อัปเดต "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 3,128 จับตา นครศรีฯ ชลบุรี ปากน้ำ

เกาะติดเช็คอัปเดตล่าสุด "โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. ยอด 3,128 ราย จับตา นครศรีธรรมราช ชลบุรี ปากน้ำสมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา นครปฐม ร้อยเอ็ด นนทบุรี พัทลุง

อัปเดตต่อเนื่อง เกาะติดสถานการณ์ โควิดวันนี้ 26 มี.ค. 65 เกาะติดความคืบหน้า 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบอัปเดต 10 จังหวัด อันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด

รายงานวันนี้ ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 26 มีนาคม 2565 ตรวจสอบ 10 จังหวัดอันดับ

$อัปเดต \"โควิดวันนี้\" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 3,128 จับตา นครศรีฯ ชลบุรี ปากน้ำ$

26/03/2565 กรุงเทพมหานคร หรือ กทม. ยอดติดเชื้อโควิดสูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ ตามด้วย นครศรีธรรมราช ชลบุรี ปากน้ำสมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา นครปฐม ร้อยเอ็ด นนทบุรี พัทลุง

ฉีดวัคซีนโควิด จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 25 มี.ค. 2565)

รวม 128,399,428 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 25 มีนาคม 2565

ยอดฉีดทั่วประเทศ 297,875 โดส

เข็มที่ 1 : 94,484 ราย

เข็มที่ 2 : 29,324 ราย

เข็มที่ 3 : 174,067 ราย

----------------------------

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 55,223,092 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 50,213,882 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 22,962,454 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
$อัปเดต \"โควิดวันนี้\" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 3,128 จับตา นครศรีฯ ชลบุรี ปากน้ำ$
$อัปเดต \"โควิดวันนี้\" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 3,128 จับตา นครศรีฯ ชลบุรี ปากน้ำ$

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 เวลา 11.30 น.

สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ

ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565

ผู้ป่วยรายใหม่ 26,234 ราย

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,279,829 ราย

หายป่วยแล้ว 1,059,790 ราย

เสียชีวิตสะสม 3,017 ราย

----------------------------

ข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563

ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,503,264 ราย

หายป่วยแล้ว 3,228,284 ราย

เสียชีวิตสะสม 24,715 ราย

ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 - 25 มีนาคม 2565

มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 128,399,428 โดส

----------------------------

วันที่ 25 มีนาคม 2565 มีผู้รับการฉีดวัคซีน

เข็มที่ 1 จำนวน 94,484 ราย

เข็มที่ 2 จำนวน 29,324 ราย

เข็มที่ 3 จำนวน 174,067 ราย

ที่มา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

ศูนย์ข้อมูลCOVID19

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อรวม 479,965,820 ราย

อาการรุนแรง 59,728 ราย

รักษาหายแล้ว 414,172,160 ราย

เสียชีวิต 6,142,930 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด (รวมย้อนหลัง 7 วัน)

1. เกาหลีใต้ จำนวน 2,504,623 ราย

2. เยอรมนี จำนวน 1,593,890 ราย

3. เวียตนาม จำนวน 948,713 ราย

4. ฝรั่งเศส จำนวน 822,109 ราย

5. สหราชอาณาจักร จำนวน 550,744 ราย

ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 14 จำนวน 173,861 ราย

ข้อมูลจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19

ศูนย์ข้อมูลCOVID19

สธ. เผยความคืบหน้า “เจอ แจก จบ” ดูแลผู้ป่วยโควิด

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในระดับสูงคงตัว ทำให้ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ และผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยสามารถเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน (OPSI) หรือ “เจอ แจก จบ” ได้ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1-24 มีนาคม 2565 ทั่วประเทศมีสถานพยาบาลเข้าร่วม 901 แห่ง สามารถให้บริการ OPSI ได้วันละ 1 แสนราย มีผู้ป่วยเข้ารับบริการสะสม 656,856 ราย เฉลี่ยวันละ 27,369 ราย เฉพาะพื้นที่ กทม. ให้บริการผู้ป่วยได้วันละ 1 หมื่นราย มีผู้ป่วยเข้ารับบริการสะสม 65,305 ราย เฉลี่ยวันละ 2,839 ราย ซึ่งจากการประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วยที่รับบริการ พบว่า 92% พึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุด ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์มีความพึงพอใจสูงมาก เนื่องจากช่วยลดภาระงานและการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และได้ผลในการรักษาไม่ต่างจากระบบ Home Isolation ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะขยายบริการในโรงพยาบาลต่างๆ ให้มากขึ้นทั่วประเทศ

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ขอให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและผู้ที่ครบกำหนดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากหากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ และขอให้เข้มมาตรการ VUCA โดยเฉพาะจังหวัดที่จะจัดงานเทศกาลสงกรานต์ มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือมีผู้ร่วมกิจกรรมเดินทางมาจากต่างจังหวัดจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดเป็นวงกว้างหรือแพร่โรคไปยังกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงวัย เด็กเล็ก และกลุ่มเปราะบาง

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข