ประชาชนยื่น 13,000 รายชื่อ คัดค้านไม่เอาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม
เครือข่ายประชาชนรวมตัวกันยื่นกว่า 13,000 รายชื่อ คัดค้านร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่ม ไม่เอาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนทุกรูปแบบ
เครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่ม นำรายชื่อประชาชนกว่า 13,000 รายชื่อ ที่เรียกร้องผ่านแคมเปญออนไลน์บนเว็บไซต์ Change.org
มามอบให้ นายกรัฐมนตรี เเละ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนว่า "พวกเราคัดค้านและไม่เอาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนทุกรูปแบบ"
สุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง ผู้แทนเครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมภาคประชาชน กล่าวว่า เครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมภาคประชาชนมีความเห็นว่า รัฐบาลไทยต้องยืนยันหลักความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
“เปิดโอกาสให้บุคคลทุกคนสามารถรวมตัวกันและจัดตั้งสมาคมได้ ให้การประกันสิทธิในการเข้าถึงทรัพยากร สิทธิในการดำเนินงาน ต้องปราศจากการแทรกแซงที่ไม่เหมาะสมของรัฐ ทั้งนี้เพื่อความเป็นอิสระและความมีประสิทธิภาพในการสมาคม
เครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมภาคประชาชนเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวประกอบด้วย บทบัญญัติที่จำกัดสิทธิในเสรีภาพการสมาคมและสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจำกัดสิทธิ นั้นส่งผลกระทบต่อความสามารถขององค์กรในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริม คุ้มครองและรับรองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
รวมถึง สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในประเทศไทย พร้อมทั้งกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางขององค์กรไม่แสวงหากำไรระหว่างประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ที่ผ่านมา เครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมภาคประชาชนและองค์กรภาคประชาสังคมทั่วประเทศ ได้จัดเวทีเสวนา ประชุม ออกแถลงการณ์ พร้อมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร มาแล้วอย่างน้อย 10 ครั้ง ซึ่งไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด
อีกทั้งกระบวนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังเดินหน้าจัดทำต่อไป ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาประชาชน ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2565 ถึง 25 มีนาคม พ.ศ.2565
โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้รับผิดชอบ เครือข่ายฯเห็นว่า กระบวนการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว ไม่มีความชอบธรรม ในแง่การเข้าถึงประชาชนกว้างขวางอย่างเพียงพอ”
เครือข่ายฯจึงได้จัดให้มีการรณรงค์รวบรวบรายชื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์ไม่แสวงหากำไร ผ่านช่องทางเว็บไซต์ Change.org มีผู้ร่วมลงรายชื่อคัดค้านมากกว่า 13,000 รายชื่อ โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้
1.ยกเลิกกระบวนการร่างและผลักดันพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ....โดยทันที
2.เรียกร้องให้ทุกขั้นตอนในการร่างกฎหมายมีการสร้างระบบและพื้นที่รับฟังความคิดเห็น อย่างโปร่งใส เข้าถึงได้ และไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งประเมินผลกระทบต่อสาธารณะและองค์กรประชาชนซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงอย่างแท้จริง
3.ประกันว่าสิทธิในการสมาคมรวมทั้งการเข้าถึงทรัพยากร สิทธิในการดำเนินงาน ต้องสอดคล้องกับพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของประเทศไทย และปราศจากการแทรกแซงที่ไม่ได้สัดส่วนของรัฐ เพื่อความเป็นอิสระและประสิทธิภาพในการสมาคม
ทั้งนี้ เครือข่ายคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมภาคประชาชนเป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคมด้านต่างๆ ได้แก่ เครือข่ายองค์กรผู้สูงอายุ เครือข่ายองค์กรคนพิการ เครือข่ายด้านเด็กและครอบครัว เครือข่ายเยาวชน เครือข่ายผู้หญิง
เครือข่ายความหลากหลายทางเพศ เครือข่ายองค์กรผู้บริโภค เครือข่ายชุมชนเมืองและสลัมสี่ภาค เครือข่ายแรงงานนอกระบบ เครือข่ายแรงงานในระบบ เครือข่ายด้านสุขภาพ เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร
เครือข่ายชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง เครือข่ายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เครือข่ายองค์กรระหว่างประเทศ เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชน 5 ภาค เครือข่ายวิชาการด้านสังคม และคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช)
รวมจำนวน 1,867 องค์กร ที่รวมตัวกันเพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์ไม่แสวงหากำไร