โควิดยอดพุ่ง แนวโน้มผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อช่วยหายใจช่วงขาขึ้น
ศบค.เผยโควิดสัปดาห์นี้ แนวโน้มผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น ส่งผลผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยขายใจอยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่อัตราการครองเตียงผู้ป่วยปอดอักเสบ พบสงขลามีผู้ป่วยครองเตียงมากสุด 60 กว่า% ขณะที่ภาพรวมการครองเตียงทั้งประเทศ อยู่1 ใน3 ของเตียงทั้งหมด
วันนี้ ( 31 มี.ค.2565) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่าสำหรับสถานการณ์ทั่วโลกวันนี้ พบผู้ติดเชื้อ 1,573,443 คน มีผู้เสียชีวิต 4,239 คน คิดเป็น1.27% และผู้ติดเชื้อสะสมราย 7 วัน อยู่ที่ 10 ล้านกว่าคน
- ไทยอยู่อันดับที่ 13 ติดโควิดมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
โดย ประเทศที่พบผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ได้แก่ เกาหลีใต้ 2,347,709 คน รองลงมาได้แก่ เยอรมนี 1,534,170 คน ฝรั่งเศส 957,856 คน เวียดนาม 693,535 คน สหราชอาณาจักร 499,427 คน
ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 13 มีผู้ติดเชื้อสะสมราย 7 วัน อยู่ที่ 176,831 คน ซึ่งขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในอันดับที่ 14 โดยอยู่ในอันดับที่สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ลาว และเมียนมาร์
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ได้กลายเป็นไวรัสสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาแล้ว รายงานระบุว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยนี้ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเอง ซึ่งมาจากความสามารถในการแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม
นอกจากนี้ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 คิดเป็น 54.9% ของยอดผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่ในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 มี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 39% ในสัปดาห์ก่อนหน้า และ 27.8% ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า
ทั้งนี้ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยBA.2 คาดว่าจะสามารถแพร่ระบาดได้มากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 ประมาณ 30%
- พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 27,560 ราย แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากในประเทศ 27,298 ราย ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 61 รายและผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 54 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ ตั้งแต่ม.ค.2565 จำนวน 1,404,912 ราย ส่วนผู้ที่มีการตรวจ ATK พบผู้ติดเชื้อ 16,079 ราย
ผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 85 คน ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนม.ค.2565 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 3,432คน ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 25,130 คน
ทั้งนี้ เมื่อดูยอดผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ พบว่าในเดือนมี.ค.ตั้งแต่วันที่ 1-30 มี.ค.2565 จำนวน 262,311 คน โดยมีผู้ติดเชื้อ 1,522 ราย หรือ 0.59% โดยเฉลี่ยผู้ที่ติดเชื้อต่อวันประมาณ 40-50 ราย
- แนวโน้มผู้ป่วยปอดอักเสบ-ใส่ท่อหายใจพุ่งสูง
ผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ 246,770 ราย กลุ่มคนไข้อาการหนักที่มีอาการปอดอักเสบที่น่าวิตก 1,808 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจอีก 713 ราย ยอดผู้ที่หายป่วยกลับบ้านแล้ว 25,077 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่เดือนม.ค.2565 จำนวน 1,187,953ราย
รายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ 85 ราย พบว่า เป็นเพศชาย 51 ราย หญิง 34 ราย เป็นชาวไทย 84 ราย อเมริกา 1 ราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 69 ราย คิดเป็น 81% และโรคเรื้อรัง 18 ราย คิดเป็น 18% รวม 99 %
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก็พบว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจก็มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเช่นเดียวกัน ผู้ป่วยเสียชีวิต มีแนวโน้มในช่วงขาขึ้น ดังนั้น มาตรการต่างๆ ต้องเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชนต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัด และการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการแอดมิดในรพ.
- สงขลามีผู้ป่วยอาการหนักครองเตียงสูงสุด 65.70%
สำหรับ จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ปอดอักเสบกำลังรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 10 อันดับแรก ได้แก่
- กทม. 200 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 36.10 %
- นครราชสีมา 110 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 33.10%
- สมุทรปราการ 81ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 47.10%
- สงขลา 68 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 65.70%
- กาญจนบุรี 56 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 39.80%
- นนทบุรี 52 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 47.30%
- ชลบุรี 48 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 38.10%
- ระยอง 48 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 10.90%
- สุราษฎร์ธานี 47 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 50.90%
- นครศรีธรรมราช 45 ราย ครองเตียง ระดับ 2-3 ในสัดส่วน 17.60%
- ภาพรวมอัตราการครองเตียงทั่วประเทศ
ส่วนอัตราการครองเตียงรวมทั่วประเทศ เพิ่มสูงขึ้น จากเดิม 24-25% หรือ 1 ใน 4ของจำนวนเตียงทั้งประเทศ แต่ขณะนี้อยู่ที่ 29.5 % เป็น 1 ใน3ของจำนวนเตียงทั้งประเทศ ขอย้ำมาตรการส่วนบุคคล ขอให้ใส่หน้ากาตลอดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง
ยอดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย วันที่ 30 มี.ค.2565 พบว่า ฉีดวัคซีนสะสม129,530,202 โดส เข็ม1 จำนวน 55,503,178 โดส ครอบคลุม 79.80% เข็ม2 จำนวน 50,301,591 โดส ครอบคลุม 72.32% เข็ม 3 จำนวน 21,562,353 โดส ครอบคลุม 31.00% เข็ม 4 จำนวน 2,151,969 โดส ครอบคลุม 3.09%