มบส.ปั้นนักสื่อสารสร้างสรรค์ สร้างผลงานให้มหาวิทยาลัย
มบส.เดินหน้าปั้นนักศึกษาออกเป็นนักสื่อสารสร้างสรรค์ สร้างผลงานเขียนข่าว ทำคลิป เผยแพร่ภาพลักษณ์ให้มหาวิทยาลัย พร้อมจับมือสื่อมวลชนติดอาวุธให้นักศึกษา
ผศ.ดร.พิษณุ บางเขียว รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) กล่าวถึงโครงการพัฒนาระบบการสื่อสารสู่การเป็น Smart University ประจำปีงบประมาณ 2565 ครั้งที่ 1 หรือ “กิจกรรมการสร้างองค์ความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์”ให้แก่นักศึกษา เพื่อเป็นนักสื่อสารสร้างสรรค์ มบส. ว่
ในยุคปัจจุบันนักศึกษามีเครื่องมือสื่อสารอยู่กับตัวตลอด คือ สมาร์ทโฟน เพราะฉะนั้นถ้ามหาวิทยาลัยต้องการให้นักศึกษาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของทางมหาวิทยาลัย
โดยผ่านเครื่องมือสื่อสารที่มีอยู่ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับมหาวิทยาลัย และการให้ความรู้เรื่องการเป็นนักสื่อสารหรือนักข่าวก็น่าจะทำได้ เพราะตอนนี้เราก็ทราบกันดีว่าทุกคนสามารถเป็นนักข่าวได้
ดังนั้น การจัดอบรมให้แก่นักศึกษาก็น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวนักศึกษาและมหาวิทยาลัย ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้มีการจัดอบรมครั้งที่ 1 เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเป็นผู้สื่อข่าวให้แก่นักศึกษาไปแล้ว โดยผ่านระบบออนไลน์
นักศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมการอบรมเป็นจำนวนมากพอสมควร และหลังจากการอบรมเราก็จะต้องมีการติดตามและประเมินผลว่ามหาวิทยาลัยจะได้ประโยชน์อะไรจากการอบรมให้แก่นักศึกษาในครั้งนี้บ้าง และจะต้องมีการขยายผลต่อไป
ผศ.ดร.พิษณุ กล่าวต่อไปว่า มหาวิทยาลัยจัดอบรมให้นักศึกษา 1 วัน โดยช่วงเช้าได้เชิญวิทยากรจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า เพื่อมาให้ความรู้เกี่ยวกับคอนเทนต์ การเขียนข่าว การจับประเด็นข่าวที่จะนำเสนอและเทคนิคต่าง ๆ
เพราะเรื่องการประชาสัมพันธ์และการส่งข่าวนั้นถ้าเป็นข่าวปกติทั่วไปจะมีสื่อกระแสหลักที่อาจจะมีทั้งข่าวที่เป็นไปในเชิงบวกหรือลบก็ได้ แต่ในส่วนของนักศึกษาที่เป็นกระบอกเสียงที่จะทำให้มหาวิทยาลัยเป็นที่รู้จักคงจะต้องเน้นข่าวเชิงบวกและข่าวสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัย
ส่วนช่วงบ่ายเป็นวิทยากรจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่มาให้ความรู้ทางด้านเทคนิคต่าง ๆในการทำคลิป การตัดต่อ โดยเฉพาะการถ่ายคลิปในสมาร์ทโฟนเพื่อส่งข่าว ทั้งนี้ เชื่อว่านักศึกษาทุกคนมีสมาร์ทโฟนและเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้ในการเสนอข่าวได้ด้วย
ถ้าให้ความรู้ทางด้านเทคนิค การทำคอนเทนต์ การจับประเด็น การทำคลิป การตัดต่อภาพ เชื่อว่านักศึกษาก็น่าจะได้ประโยชน์มาก เพราะได้รับความรู้จากผู้สื่อข่าว ที่ได้ออกไปทำงานและมีประสบการณ์การตรงในภาคสนาม
“การเป็นนักข่าวเป็นได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกคนเป็นนักข่าวได้ แต่ที่สำคัญมากก่อนจะนำเสนอข่าวจะต้องมีการสังเคราะห์และกลั่นกรองให้ดี ที่เน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัย” ผศ.ดร.พิษณุ กล่าว
ปัจจุบัน เด็กของเราที่อยู่ต่างจังหวัดก็มีเยอะ และช่วงนี้มาเจอสถานการณ์โควิด ทำให้การเรียนการสอน เน้นออนไลน์ ถ้าเด็กอยู่ในท้องถิ่นหรือพื้นที่และเห็นว่ามีอะไรที่เป็นเรื่องที่น่าสนใจสามารถเชื่อมโยงกับการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องได้ ก็สามารถสื่อสารออกมาเป็นข่าว ซึ่งก็จะช่วยมหาวิทยาลัยได้มาก
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นอาจจะให้เด็กที่เข้าไปร่วมกิจกรรมโดยตรงกับมหาวิทยาลัย อย่างเช่น การลงพื้นที่ชุมชนของมหาวิทยาลัย จะให้เด็กเหล่านี้ได้ทำข่าวเพื่อนำมาลงเผยแพร่ในโซเซียลต่าง ๆของมหาวิทยาลัยก่อน
ถ้ามั่นใจว่าเด็กทำข่าวได้แล้วก็อาจจะให้ส่งข่าวไปตามสื่อต่างๆได้ เห็นว่าถ้าใน 1 คณะหรือสาขามีคนเขียนข่าวและส่งข่าวได้ 1-2 คนก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว และจะเกิดประโยชน์กับมหาวิทยาลัยอย่างมาก
น.ส.ฟ้ารุ่ง ศรีแดง หรือ มายด์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน คณะวิทยาการจัดการ มบส. กล่าวว่า มายด์เข้าอบรมทั้งวันทำให้ได้รับความรู้และประสบการณ์อย่างมากในการเขียนข่าว และน่าจะนำมาใช้ในการเรียนได้ด้วย เพราะมายด์เรียนทางด้านสื่อสารมวลชนอยู่แล้ว
ในการอบรมทำให้รู้เทคนิคการเขียนข่าว การจับประเด็น การผลิตสื่อต่าง ๆว่าจะทำอย่างไรให้น่าสนใจ ตรงกลุ่มเป้าหมาย และที่ประทับใจวิทยากรมีอุดมคติที่ดีมากที่ว่าการนำเสนอข่าวจะต้องทำให้สังคมดีขึ้นด้วย และต้องมีการกลั่นกรองข่าวทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดการปั่นป่วนในสังคม
ด้านนายภูรินทร์ อัศวธีระเกียรติ์ หรือ ปลาย นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน คณะวิทยาการจัดการ มบส. กล่าวว่า โครงการนี้ดีมากทำให้ปลายและเพื่อน ๆ ได้รับความรู้จากพี่นักข่าวที่มีประสบการณ์ตรงในการทำข่าว หรือลงทำข่าวภาคสนาม
สามารถนำความรู้จากการอบรมมาใช้ประโยชน์ในการเรียน และในอนาคตได้ด้วย เช่น การเขียนข่าว การจับประเด็น เทคนิคที่น่าสนใจ การตัดต่อ การทำคลิปให้กลุ่มเป้าหมายสนใจ