รู้จัก “บัญชีม้า” ทริคจับกลลวงมิจฉาชีพช่วงสงกรานต์
แม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ไม่อาจประมาทภัยรอบตัวได้ ทำความรู้จัก "บัญชีม้า" เครื่องมือประกอบการก่อเหตุของเหล่ามิจฉาชีพ เพื่อใช้เป็นทริคในป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้นได้
แม้เทศกาล “สงกรานต์” จะเป็นเทศกาลรื่นเริงใจของใครหลายคน แต่ก็ไม่อาจประมาทจากภัยรอบตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะภัย “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่กำลังระบาดหนักในทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม แม้เราอาจจะไม่สามารถหลบเลี่ยงการก่อกวนจากมิจฉาชีพประเภทนี้ได้ แต่เราก็สามารถรู้เท่าทันกลลวงที่คนกลุ่มนี้จะใช้ เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้น
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะพาไปรู้จักกับ “บัญชีม้า” เครื่องมือประกอบการก่อเหตุที่สำคัญของเหล่ามิจฉาชีพ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถใช้เป็นทริคเอาตัวรอดจากการตกเป็นเหยื่อได้
- บัญชีม้าคืออะไร
บัญชีม้า คือ บัญชีที่ตัวแทนในการใช้ทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโอน รับโอน หรือชำระเงิน เป็นต้น ซึ่งการมีบัญชีม้าจะสามารถช่วยปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผู้ดำเนินธุรกรรมได้
อย่างไรก็ตาม ตามปกติแล้วคนธรรมดาส่วนใหญ่มักจะไม่ได้มีการเปิดบัญชีม้าดังกล่าวกัน แต่ผู้ที่ใช้ส่วนใหญ่คือกลุ่ม “มิจฉาชีพ” เพื่อใช้ปกปิดตัวตนที่แท้จริงสำหรับก่อเหตุหรือกระทำความผิด ด้วยเหตุนี้ กลลวงมิจฉาชีพแทบจะทุกรูปแบบจึงมักมีการใช้บัญชีม้าประกอบด้วยเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น แก๊งหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังระบาดหนักในปัจจุบัน บัญชีม้าก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการก่อเหตุ โดยเมื่อมีการหลอกลวงให้คนโอนเงินได้สำเร็จ ส่วนใหญ่แล้วบัญชีที่เหยื่อโอนเงินไปนั้น มักไม่ใช่ของเจ้าตัว แต่เป็นบัญชีของบุคคลที่สามหรือบัญชีม้านั่นเอง
- จับกลลวงมิจฉาชีพด้วยบัญชีม้า
หลายครั้งมิจฉาชีพมักเข้ามาด้วยการแอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐหรือเอกชน ทำให้หลายคนตกหลุมพรางแล้วตามที่มิจฉาชีพบอกด้วยความกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีตามที่ถูกข่มขู่ อาทิ การถูกสั่งให้โอนเงินมาเพื่อตรวจสอบต่างๆ มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วจะพบว่า หน่วยงานราชการและเอกชนส่วนใหญ่มักจะมีการส่งหนังสือหรือเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาชี้แจงด้วยเสมอ หากเกิดเหตุการณ์ต้องสงสัยขึ้นกับทรัพย์สินหรือเงินของบุคคลใดก็ตาม และที่สำคัญหากต้องมีการโอนเงินหรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ บัญชีที่ใช้ก็มักเป็นบัญชีของหน่วยงาน ไม่ใช่บัญชีบัญชีส่วนบุคคล
ดังนั้น การจับสังเกตบัญชีม้า จึงสามารถใช้เป็นทริคในการจับกลลวงของมิจฉาชีพได้ เพราะถึงแม้จะมีการแอบอ้างเป็นหน่วยงานใดก็ตาม บัญชีม้าที่เหล่ามิจฉาชีพใช้กันนั้นมักจะเป็นบัญชีส่วนบุคคลเสมอ
- ความผิดทางกฎหมายของผู้เปิดบัญชีม้า
จากที่กล่าวข้างต้น ทำให้การจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของตำรวจ จึงต้องมีการระงับการรับจ้างเปิดบัญชีม้า เพื่อให้มิจฉาชีพทำงานได้ยากขึ้น
การระงับการเปิดบัญชีม้านั้น สามารถทำได้ผ่านการเอาผิดทางกฎหมาย เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดฐานฉ้อโกงบุคคลอื่น จึงเป็นความผิดที่เข้าข่าย พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกสิบปีหรือถูกปรับเงินสองแสนบาท และอายัดทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อชดใช้ความผิดที่ได้ร่วมกระทำ
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันตัวเองจากการสูญเสียกับมิจฉาชีพเหล่านี้ ทาง พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แนะนำว่า หากพลาดโอนเงินให้มิจฉาชีพแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ รีบรวบรวมหลักฐานแล้วเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจให้เร็วที่สุด เพื่ออายัดเงินที่ได้โอนไปดังกล่าว
นอกจากนี้ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้สร้างช่องทางการแจ้งความเสียหายของประชาชนผ่านเว็บไซต์ thaipoliceonline.com เมื่อตำรวจได้รับแจ้งข้อมูลแล้วจะทำการประสานกับธนาคารให้ดำเนินการอายัดเงินดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด โดยการอายัดเงินได้ไวเท่าไร นั่นหมายถึงโอกาสการได้เงินคืนและระงับความเสียหายได้มากเท่านั้น
-----------------------------------------
อ้างอิง