“เครือพฤกษา”รุกธุรกิจสุขภาพ ดูแลสูงอายุ-ศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน
ไทยก้าวสู่“สังคมผู้สูงวัย” ระดับสุดยอดในปี 2575 ซึ่งมีสัดส่วนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ส่งผลให้กิจการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง เช่น เนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ มีอยู่ราว 4,000 แห่งทั่วประเทศต้องยกระดับให้ได้มาตรฐาน
“โรงพยาบาลวิมุต” โรงพยาบาลในเครือพฤกษา ให้การบริการด้านสุขภาพครบวงจรที่จะดูแลทุกคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะครบรอบ 1 ปี ในเดือนพ.ค. ที่จะถึงนี้
“นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุตโฮลดิ้ง จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ“กรุงเทพธุรกิจ”ว่าเป้าหมายเครือพฤกษาในการทำธุรกิจเฮลท์แคร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของทุกคน จะเน้นในการให้บริการและรักษาโรคใน 3 บริการหลัก
ประกอบด้วย 1.การเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ที่สามารถรักษาโรคเฉพาะทาง โรคยากได้ เทียบเท่ากับกับโรงพยาบาลชั้นแนวหน้าของไทย โดยเน้นการรักษาโรคที่ต้องการความเชี่ยวชาญ เช่น สมอง หัวใจ กระดูก รวมถึงการรักษาโรคเรื้อรังที่ต้องการดูแลระยะยาว อย่าง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือดสูง ซึ่งมีเตียงรองรับประมาณ 240 เตียง
2.จัดตั้งศูนย์สุขภาพ เป็นสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน โดยปัจจุบันจัดตั้งศูนย์สุขภาพแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ ViMUT Health Center ที่โครงการ Pruksa Avenue ในย่านบางนา-วงแหวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบลงทุนรวม 150 ล้านบาท ขนาด 50 เตียง ศูนย์สุขภาพที่ครอบคลุมบริการหลากหลาย อาทิ ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) คาดเปิดให้บริการเดือนส.ค.2565
ส่วนอีกศูนย์ “SENERA ViMUT HEALTH SERVICE” โครงการศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ โดยตั้งอยู่ภายใต้พื้นที่โครงการ SANAR SENIOR WELLNESS ถนนคู้บอน เป็นความร่วมมือกับบริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน)
- ผุดศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน15 แห่ง
โดยจะเป็นศูนย์สุขภาพทั้งส่วนคนไข้ในการพักฟื้นฟู ทั้งหลังผ่าตัด หรือหลังการเจ็บป่วยด้วย โรคสมอง หัวใจที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด จนถึงอยู่พักยาวลักษณะ NURSING HOME ในลักษณะพึ่งพิงระดับสูง คาดว่ามีประมาณ 50 เตียง โดยเปิดให้บริการปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
3.บริการดูแลผู้สูงอายุถึงที่บ้าน โดยจะเป็นแพลตฟอร์มดูแลคนไข้ได้ถึงบ้าน ซึ่งโรงพยาบาลจะมีการรวบรวมแพทย์เฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุมารองรับ เพราะการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ไม่ใช่เพียงส่งเสริมสุขภาพ อาหารการกิน การออกกำลังกาย พัฒนาร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น แต่ต้องดูแลไปถึงจิตใจด้วย
“ผู้สูงอายุ ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะสุขภาพและโรคส่วนใหญ่ที่พวกเขาเป็น จะเป็นโรคเรื้อรัง อย่าง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเมื่อเป็นโรคเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะรักษาทานยา ไม่ไปรพ. การมีรพ. ศูนย์สุขภาพ หรือผู้ให้บริการดูแลสุขภาพถึงที่บ้านจึงมีความจำเป็นอย่างมาก” นพ.กฤตวิทย์ กล่าว
ขณะนี้จุดแรกของการเป็นรพ.วิมุต โรงพยาบาลขนาดใหญ่ รองรับผู้ป่วย 240 เตียง ทั้งผู้ป่วยรายบุคคลและลูกค้าแบบรายองค์กร เริ่มได้รับความไว้วางใจ คุ้นเคยจากผู้ใช้บริการมากขึ้น จะสร้างศูนย์สุขภาพใกล้บ้านให้แก่ทุกคนควบคู่ไปด้วย โดยตั้งเป้าไว้ 15 ศูนย์ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- แพลตฟอร์มคุณภาพชีวิตของสูงวัย
ทั้งนี้การเป็นแพลตฟอร์มการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรที่ไว้ใจได้ มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์เฉพาะทาง มีบุคลากรทางการแพทย์ มีทีมงานซึ่งจะเป็นเสมือนฮาร์ดแวร์ในการดูแลคนไข้ ขณะเดียวกันมีการนำเทคโนโลยีดิจิตอล เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เป็นซอฟต์แวร์ที่จะทำให้ทุกคนเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพที่ดี มีคุณภาพ
นพ.กฤตวิทย์ กล่าวต่อว่า รพ.วิมุต ให้บริการสุขภาพแบบ wellness ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแล ป้องกัน รักษาฟื้นฟู ในไทยสามารถแบ่งกลุ่มผู้สูงอายุได้ 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถทำกิจกรรมได้ปกติ มีคุณภาพชีวิต สุขภาพที่ดี กลุ่มนี้ต้องป้องกันโรค ต้องมีการส่งเสริมสุขภาพป้องกันความเสื่อมต่างๆ
2. กลุ่มที่ชอบอยู่บ้าน ไม่อยากไปไหนมาไหน ต้องมีการปรับปรุงบ้าน วัสดุที่ใช้ในบ้านต้องเน้นความปลอดภัย ต้องมีสัญญาณเตือนภัย และต้องมีผู้ให้บริการดูแลถึงที่บ้าน
3. กลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่ต้องพึ่งพิงผู้อื่น กลุ่มติดเตียง ต้องมีศูนย์สุขภาพ และผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่ง มีกลุ่มหมอเวชศาสตร์ครอบครัว มีแพทย์ผู้ชำนาญในการดูแลโรคผู้สูงอายุ มีแพทย์เฉพาะทาง และมีเครื่องมือที่จะช่วยให้กลุ่มผู้สูงอายุของไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- คนไทยอายุยืน-สุขภาพคุณภาพชีวิตดี
“เราต้องการให้คนไทย โดยเฉพาะผู้สูงอายุอายุยืน และมีคุณภาพชีวิต สุขภาพที่ดี ใช้ชีวิตได้ปกติ การป้องกันความเสื่อม และการดูแลอย่างทั่วถึงจึงจำเป็นอย่างมาก การบริการ จะรองรับดูแลผู้สูงอายุในทุกมิติ อีกทั้งจะเน้นการให้บริการคนไทยเป็นหลัก เพราะการบริการอย่าง การเปิดศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน ก็เพื่อทำให้ทุกคนได้เข้าถึงการป้องกัน ดูแล รักษาสุขภาพ” นพ.กฤตวิทย์ กล่าว
เป้าหมายต่อไปของ รพ.วิมุต จะเน้นการดูแลสุขภาพทั้งคนไทยต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมารพ.ได้รับความไว้วางในจากกระทรวงต่างประเทศในการฉีดวัคซีนโควิด-19ให้แก่ชาวต่างชาติ รวมถึงมีความสัมพันธ์กับสถานทูตหลายแห่ง เช่น ประเทศตะวันตก ซึ่งรพ.พร้อมให้บริการทั้งโรคยาก ซับซ้อน และโรคทั่วไป แก่ผู้มารับบริการทุกกลุ่ม
โดยในปี 2565 โรงพยาบาลมีแผนจะสร้างความตระหนักรู้ให้ทุกคนคนตื่นตัวในเรื่องการดูแลสุขภาพ และรับรู้เกี่ยวกับโรงพยาบาล มากขึ้น รวมถึงจะขยายโครงข่ายต่างๆ ได้ตามเป้าหมาย และด้วยความที่ “รพ.วิมุต” เป็นส่วนหนึ่งของพฤกษา ทำที่อยู่อาศัยด้วยใจ มาเติมกับความสามารถเอาสุขภาพไปถึงบ้าน มีการให้บริการดูแลสุขภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวัย และจุดบริการ 3 แห่ง จะสอดคล้องเป็นเนื้อเดียวกัน
- 4 ธุรกิจผู้สูงอายุที่น่าสนใจ
สมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ระบุว่า ตลาดกิจการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงของไทยมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตของสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 150% จาก 3 -5 ปีก่อน ซึ่งปัจจุบันมีสถานบริการมากถึง 4,000 แห่งทั่วประเทศ
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าเม็ดเงินในตลาดสินค้าและบริการของผู้สูงอายุ ครอบคลุมรายได้ของสินค้าและบริการทุกหมวด คาดว่าจะอยู่ที่ 9.2-9.3 แสนล้านบาทในปี 2575 ที่ไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด โดยมีธุรกิจที่น่าสนใจ ได้แก่
1) ธุรกิจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มที่มีเงินออมเพียงพอแต่มีกำลังซื้อรองลงมา ที่ราคาซื้อสิทธิ์เพื่อเข้าอยู่เมื่ออายุถึงเกณฑ์ที่โครงการกำหนดไม่เกิน 2.5 ล้านบาทต่อหน่วย
2) ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน การสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้สูงอายุดูแลตัวเองได้ ทั้งการออกแบบพื้นที่ในบ้าน ใช้ทางลาดแทนบันไดและไม่มีธรณีประตูคั่นระหว่างห้อง ควบคู่ไปกับการติดตั้งวัสดุอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ
3) ธุรกิจอาหาร อาหารเสริม และของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากจะต้องเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและเป็นไปตามหลักโภชนาการแล้ว รูปแบบอาหารยังต้องมีความเฉพาะตัว
4) ธุรกิจบริการและกิจกรรมสันทนาการสำหรับผู้สูงอายุ การจัดหาบริการแบบ home delivery จะได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมนอกสถานที่อย่างทัวร์ผู้สูงอายุที่เหมาะกับกลุ่ม YOLD ซึ่งมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง