ห่วงประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวังการจมน้ำ ไฟดูด และสัตว์มีพิษกัดต่อย

ห่วงประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ระมัดระวังการจมน้ำ ไฟดูด และสัตว์มีพิษกัดต่อย

กรมควบคุมโรค เตือนในช่วงมีฝนตก ระวังการจมน้ำ ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต และสัตว์มีพิษกัดต่อย  แนะวิธีป้องกันจมน้ำ ให้ยึด 4 ห้ามและ 4 ให้ ย้ำติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด 

วันนี้ ( 22 สิงหาคม 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยลักษณะอากาศฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย อาจทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ในบางพื้นที่มีน้ำท่วมสูง หรือน้ำท่วมฉับพลัน

กรมควบคุมโรคมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังภัยสุขภาพที่อาจทำให้เกิดอันตรายและได้รับบาดเจ็บ เช่น การจมน้ำ ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต และสัตว์มีพิษกัดต่อย เป็นต้น

ที่น่าห่วงคือ การจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา จากสถานการณ์การจมน้ำในช่วงอุทกภัยเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา พบการจมน้ำเสียชีวิตถึง 82 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไปมากที่สุด (ร้อยละ 34.1) รองลงมาคือ 45-59 ปี (ร้อยละ 29.3) เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ร้อยละ 14.6 อายุต่ำสุดคือ 2 ปี เป็นเพศชาย ร้อยละ 74 เพศหญิง ร้อยละ 26 กลุ่มผู้ใหญ่

 

  • ย้ำ 4 ห้าม 4 ให้ ป้องกันจมน้ำในช่วงน้ำท่วม

สาเหตุหลักที่พบ คือ พลัดตก ลื่น  เรือล่ม/พลัดตกเรือ ออกหาปลา ส่วนกลุ่มเด็ก สาเหตุหลักที่พบ คือ การเล่นน้ำในพื้นที่น้ำท่วม (เล่นกันเองเป็นกลุ่ม)  รองลงมาคือ เดินลุยน้ำและถูกน้ำพัด และพลัดตก ลื่น  โดยการดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนเกี่ยวข้องถึง ร้อยละ 13.4

ทั้งนี้ สาเหตุที่มีสุราเกี่ยวข้องและจมน้ำมากที่สุดคือ เรือล่ม/พลัดตกเรือ เล่นน้ำ จุดเกิดเหตุพบมากที่สุด คือ บ้าน/บริเวณรอบบ้าน รองลงมาคือในทุ่งนาที่มีน้ำท่วม ส่วนการเสียชีวิตที่พบรองลงมาคือ ไฟฟ้าดูด ไฟฟ้า สาเหตุ เกิดจากเข้าไปตัดไฟในบ้าน  น้ำท่วมขังบ้านพัก  ขับรถไถ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง

คำแนะนำเพื่อป้องกันการจมน้ำในช่วงน้ำท่วม ขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก “4 ห้าม 4 ให้” โดย 4 ห้าม ได้แก่

1.ห้ามหาปลาในช่วงน้ำไหลหลาก  

2.ห้ามดื่มสุราแล้วลงเล่นน้ำ เนื่องจากจะเสี่ยงเกิดตะคริวได้สูง รวมทั้งหากเมาสุรา    จะทำให้เสียการทรงตัว และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  

3.ห้ามเดินผ่านหรือขับรถฝ่ากระแสน้ำท่วม เพราะระดับน้ำเพียง 6 นิ้ว จะทำให้รถเสียหลักและล้มได้ 

 4.ห้ามเด็กเล็กลงเล่นน้ำ อาจพลัดตกหรือถูกน้ำพัดได้ 

สำหรับ 4 ให้ ได้แก่

1.ให้อพยพไปยังพื้นที่สูง ให้รีบออกจากพื้นที่ในกรณีเกิดน้ำท่วม  

2.ให้สวมเสื้อชูชีพ หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝาและผูกเชือก  

3.ให้เดินทางเป็นกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือกันเวลาฉุกเฉิน 

4.ให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร สภาพอากาศตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด 

 

  • ป้องกันไฟฟ้าดูด และสัตว์มีพิษกัดต่อย 

นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต ในช่วงน้ำท่วมก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติดังนี้

1.สับคัทเอาท์เพื่อตัดกระแสไฟ  

2.ย้ายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และปลั๊กไฟขึ้นที่สูง  

3.อย่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะร่างกายเปียกหรือยืนแช่น้ำอยู่  

4.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำเข้าใกล้ปลั๊กไฟ สายไฟ เสาไฟ หากเกิดไฟฟ้ารั่ว จะมีกระแสไฟกระจายเป็นวงกว้างไม่ต่ำกว่า 3 เมตร อาจทำให้ถูกไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ ขอแนะนำการป้องกันสัตว์มีพิษกัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ที่อาจหนีน้ำมาหลบซ่อนอาศัยอยู่ตามบ้านและมุมมืดต่างๆ คือ

1.สอดส่องและสังเกตมุมอับของบ้านเป็นประจำ  

2.สำรวจเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนสวมใส่ทุกครั้ง  

3.หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรแต่งตัวให้มิดชิด และสวมรองเท้าบูททุกครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน      กรมควบคุมโรค โทร.1422