“HUAWEI Watch D” Smartwatch ตัวจริงของคนรักสุขภาพ กับฟีเจอร์วัดความดันได้
นี่คือนาฬิกา “Smartwatch” สายสุขภาพที่ครบเครื่องที่สุด ตอบโจทย์ทั้งคนรักสุขภาพทั่วไปและผู้ที่จำเป็นต้องมอนิเตอร์ร่างกายตัวเองตลอดเวลา เพราะ “HUAWEI Watch D” วัดความดันได้!
สำหรับคนรักสุขภาพ การหานาฬิกาประเภท Smartwatch สักเรือนมาประจำกาย จะช่วยให้ไม่ว่าการออกกำลังกายหรือการตรวจวัดต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพ เป็นเรื่องสะดวกง่ายดายเพราะไม่ว่าจะอยากรู้อะไรก็ดูได้ที่ข้อมือ
แต่จะมีผู้ผลิต Gadget สายสุขภาพสักกี่รายที่เอาจริงเอาจัง ทุ่มเท ทุ่มทุนสร้าง พัฒนาเทคโนโลยีที่บางคนอยากได้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีจริงๆ ในนาฬิกา “Smartwatch” ของ หัวเว่ย อย่างเช่นฟีเจอร์ตรวจวัดความดันโลหิต ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงหรือต่ำเกินไป
ปัจจุบัน สิ่งเร้าต่างๆ ทั้งความเครียด โรคภัยไข้เจ็บ ล้วนส่งเสริมให้คนเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย และมีภาวะความดันผิดปกติ แม้จะเป็นเรื่องใกล้ตัวถึงขนาดหลายคนมองเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆ แล้วภาวะความดันผิดปกติมีอันตรายถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้เลย
นับได้ว่าการมาของ HUAWEI Watch D สร้างความคึกคักให้กับวงการ “Smartwatch” ได้ไม่น้อย เพราะถึงแม้จะเปิดตัวพร้อมๆ กับอีกหลายรุ่นในไลน์อัพนาฬิกาเพื่อสุขภาพ แต่ความสามารถอันโดดเด่นทำให้หลายคนโฟกัสนาฬิกาเรือนนี้มากกว่ารุ่นอื่น
ความสามารถของ “HUAWEI Watch D” ที่ใน “Smartwatch” แบรนด์อื่นๆ ไม่มี คือ โหมด Blood pressure หรือการวัดความดันโลหิตนั่นเอง ซึ่ง “หัวเว่ย” ได้พัฒนาให้นาฬิกาที่ปกติก็ทำมาเพื่อตรวจวัดค่าต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพอยู่แล้ว ให้อัพสกิลขึ้นเป็น Blood pressure Monitors ขนาดย่อมบนข้อมือของทุกคน
พูดถึงการใช้งาน เมื่อต้องการวัดความดันโลหิต ก็กดเข้าโหมด Blood pressure หลังจากนั้น ยกแขนข้างที่สวมใส่นาฬิกาขึ้นทาบอกเป็นแนวทแยง มืออีกข้างตั้งฉากแตะกับข้อศอกของแขนที่ทาบอกอยู่ นั่งตัวตรง เท้าสองข้างแตะพื้น อยู่นิ่งๆ รอสักครู่ ระบบจะทำงาน
ถุงลมที่ติดตั้งอยู่กับสายนาฬิกาจะพองตัว โอบรัดข้อมือ คล้ายๆ กับตอนใช้เครื่อง Blood pressure Monitors รัดต้นแขน แต่สะดวกกว่า และการบีบรัดจะไม่รุนแรงเท่า เพียงอึดใจเดียวถุงลมจะพองตัวจนสุดแล้วคลายตัว เป็นอันเสร็จพิธี
ตัวเลขความดันโลหิตที่ได้ ค่อนข้างใกล้เคียงกับเครื่องวัดความดันโลหิตมาตรฐานที่ใช้ๆ กัน ในความเป็นนาฬิกา “Smartwatch” ถือว่า “HUAWEI Watch D” ทำงานได้ดีเกินคาด แถมยังไม่ได้มีแค่ตัวเลขให้ดู แต่ยังมีข้อมูลให้ดูรายละเอียดของระดับความดันโลหิตว่าเท่าไรคือปกติ เท่าไรคือสูงหรือต่ำ ช่วยให้ติดตามความดันได้ทุกที่ทุกเวลาและสะดวกรวดเร็วมากๆ
ความเอาใจใส่ในรายละเอียดของนาฬิการุ่นนี้ที่ทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป คือ อุปกรณ์เสริมที่มีให้ในแพคเกจ ทั้งสายนาฬิกาขนาด M สำหรับคนที่ข้อมือเล็ก ซึ่งสายนาฬิกาก็มาพร้อมถุงลมขนาด M ติดตั้งมาด้วยกัน รวมถึงผ้าหุ้มถุงลมสำรองของทั้งสองขนาด ฝาปิดเซ็นเซอร์เวลาถอดถุงลมออกจากสาย และสายวัดขนาดข้อมือ แต่ละอย่างชวนนึกถึงความเป็นเครื่องมือแพทย์ (ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ แต่ต้องยอมรับว่า “หัวเว่ย” จัดหนักจริงๆ)
นอกจากความสามารถพิเศษที่บอกไป ตามธรรมเนียมของนาฬิกา “Smartwatch” ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพและการออกกำลังกาย ใน “HUAWEI Watch D” ก็มาครบครัน ทั้งโหมดการออกกำลังกายต่างๆ และโหมดวัดค่าต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพ
สำหรับโหมดออกกำลังกาย “หัวเว่ย” ยังใส่มาให้จุกๆ ครอบคลุมชนิดกีฬามากมาย มีชนิดกีฬาหลากหลายทั้งที่ยอดนิยมและเฉพาะกลุ่ม แต่อาจจะยังไม่มากเท่าในรุ่นอื่นๆ เช่น HUAWEI Watch Fit 2 นาฬิการุ่นน้องที่เพิ่งรีวิวไป (อ่านย้อนหลังได้ ที่นี่ ) แต่ถามว่าเพียงพอไหม ก็นับว่าค่อนข้างพอ
สังเกตได้ว่าการใส่เมนูกีฬามาไม่เท่านาฬิการุ่นอื่นในค่าย หมายความว่า “หัวเว่ย” แบ่งกลุ่มให้ “HUAWEI Watch D” เป็นอีก Partition หนึ่ง ซึ่งเน้นเรื่องสุขภาพแบบจริงจัง โดยลดทอนเรื่องกีฬาลงเล็กน้อยเหลือ 70 ชนิดกีฬา แล้วทุ่มเทให้กับความสามารถด้านการเป็นเครื่องมือวัดค่าต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งจะเหมาะสมมากกับกลุ่มที่ต้องคอยดูค่าต่างๆ นี้ตลอดเวลา
ส่วนการวัดค่าต่างๆ นี่คือหัวใจหลักของ “HUAWEI Watch D” อยู่แล้ว นอกจาก Blood pressure ทุกค่าที่จำเป็นต่อการมอนิเตอร์สุขภาพ มีมาให้ครบๆ จบในเรือนเดียว
ยกตัวอย่าง Heart rate ตรวจวัดแบบเรียลไทม์ จะรู้เลยว่าตอนนี้หัวใจเต้นกี่ bpm ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจก็สัมพันธ์กับความดันโลหิตและบ่งบอกด้วยว่าสุขภาพเขาเราแข็งแรงแค่ไหน
ถัดมาที่ค่า SpO2 หรือค่าออกซิเจนในเลือด นี่ก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญ ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยังมีอยู่แม้จะถูกลดสถานะเป็นโรคประจำถิ่นก็ตาม ค่าออกซิเจนมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะพอช่วยระบุได้ว่าสุขภาพของคุณยังดีอยู่ (แต่ตัวเลขจากนาฬิกายังนำไปอ้างอิงทางการแพทย์ไม่ได้)
นอกจากนี้ยังมีการวัดค่าอื่นๆ เช่น การนอนหลับ ซึ่งถือว่าเป็นโหมดสำคัญและหลายคนติดการดูตัวเลขจำนวนชั่วโมงรวมถึงคุณภาพการนอนหลับของตัวเอง ใน “HUAWEI Watch D” ก็ตรวจได้อย่างละเอียดและแม่นยำมาก นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้ดียิ่งขึ้นได้
หรือจะเป็นค่าความเครียด, อุณหภูมิผิวหนัง ฯลฯ ทุกโหมดเกี่ยวกับสุขภาพ ได้ใช้และใช้ง่ายทั้งหมด
สำหรับการใช้งานในฟีเจอร์อื่นๆ ในเชิงไลฟ์สไตล์ เช่น การฟังเพลง, การอ่านข้อความ, การแจ้งเตือนต่างๆ, ดูอุณหภูมิ พยากรณ์อากาศ, นาฬิกาจับเวลา, นาฬิกาปลุก, ไฟฉาย ฯลฯ ก็มีมาให้ครบถ้วน
ความน่าสนใจอีกอย่างที่ทำให้พอเห็นปุ๊บจะรู้ทันทีเลยว่านี่คือ “HUAWEI Watch D” คือรูปร่างหน้าตา ด้วยความที่บริเวณสายนาฬิกาเป็นจุดติดตั้งถุงลมสำหรับวัดความดันโลหิต จึงจะมีขนาดค่อนข้างกว้าง ดูเผินๆ คล้ายแถบรัดข้อมือ แม้จะดูใหญ่และหนา แต่ก็ให้ความรู้สึกเท่ ดุดัน ซึ่งก็ได้รับการออกแบบให้มีเส้นยาวๆ ลากผ่าน ลดทอนความหนาและดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น พอคู่กับตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยม งานประกอบและดีไซน์พรีเมียมมาก ทำให้โดยรวมเป็น “Smartwatch” ที่ดูจริงจัง และเหมาะสมกับความเป็นนาฬิกาที่ตรวจวัดค่าต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพ
จุดเด่นอีกอย่าง คือ แบตเตอรี่อึดมาก ในการใช้งานทั่วไป ตรวจวัดค่าต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ในทุกวัน ก็ยังใช้งานได้ไม่น้อยกว่าสัปดาห์เลยทีเดียว
อีกข้อหนึ่งที่บางคนอาจสงสัยและไม่มั่นใจ คือเรื่องการกันน้ำ ต้องบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะ “HUAWEI Watch D” เป็นนาฬิกาสำหรับสุขภาพและการออกกำลังกาย อาจไม่ใช่ออกกำลังกายจ๋า แต่ก็สู้น้ำพอตัว อย่างน้อยๆ ก็ใส่วิ่งกับออกกำลังกายได้ โดนเหงื่อได้ หรือจะใส่ตอนอาบน้ำก็ยังได้ แต่อาจจะไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำหรือดำน้ำ เพราะไม่ได้ออกแบบมาให้กันน้ำในระดับนั้น
ซึ่งจุดที่จะทำให้หลายคนรู้สึกว่าไม่อยากเปียกน้ำ คือบริเวณผ้าหุ้มถุงลม กรณีที่เปียกน้ำหรือเหงื่อ จะเช็ดหรือผึ่งให้แห้งก็ได้ แต่ถ้าต้องการสวมใส่โดยไม่มีถุงลมด้วยก็ถอดออกได้ แล้วปรับสายนาฬิกาให้กระชับขึ้นอีกเล็กน้อย (มีตัวเลขระบุบนสาย) แต่อย่าลืมใช้ฝาปิดเซ็นเซอร์ที่แถมมาให้ ปิดเพื่อกันน้ำเข้าด้วย
ถามว่า “HUAWEI Watch D” เหมาะกับใคร ต้องตอบทันทีเลยว่า เหมาะกับทุกคนที่รักสุขภาพ ด้วยราคาค่าตัวที่ 14,990 บาท ถือเป็นราคาที่เซอร์ไพรส์มากๆ เพราะในการเปิดตัวที่ต่างประเทศ ราคาจะแพงกว่านี้มาก ในราคาหมื่นกลางแลกมากับความสะดวกสบายและความสามารถที่ช่วยให้การดูแลสุขภาพง่ายขึ้น ก็นับเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ