เอคเซนเชอร์ชู “คลาวด์” โมเดลสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
เปิดรายงานล่าสุด ระบุว่าองค์กรที่เลือกใช้คลาวด์เป็นโมเดลปฏิบัติการใหม่เพื่อช่วยให้บริษัทปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาล
เอคเซนเชอร์ เปิดรายงานล่าสุดหัวข้อ “Ever-ready for Every Opportunity: How to Unleash Competitiveness on the Cloud Continuum” ระบุว่าองค์กรที่เลือกใช้คลาวด์เป็นโมเดลปฏิบัติการใหม่เพื่อช่วยให้บริษัทปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง จะสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้อย่างมหาศาลและเกิดประโยชน์มากกว่าการช่วยลดต้นทุน โดยเลือกใช้คลาวด์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และผสานกันหลายรูปแบบ ทั้งคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว และเอดจ์
ปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบันองค์กรส่วนใหญ่ใช้คลาวด์หลายรูปแบบผสมกันไป แต่มี การทำงานประสานกันน้อยมาก ทำให้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ในภาพรวม อย่างไรก็ตาม มีบางองค์กรที่วางแผนดีและสามารถใช้ประโยชน์จากคลาวด์ได้อย่างเต็มที่
โดยมองว่าคลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่ต่อเนื่องกันเป็นห่วงโซ่ สามารถขยายไปยังจุดต่างๆ และมีสถานะความเป็นเจ้าของต่างกัน ควบคู่ไปกับการใช้ 5จีแบบคลาวด์เฟิร์ส และเครือข่ายที่กำหนดได้ด้วยซอฟต์แวร์ (software-defined networks) จึงสามารถรองรับความต้องการของธุรกิจที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา
รายงานฉบับนี้ได้เผยให้เห็นว่า ในขณะที่องค์กรวางแผนย้ายระบบงานกว่า 2 ใน 3 ขึ้นไปบนคลาวด์ แต่ในช่วง 3 – 5 ปีข้างหน้า จะมีงานโดยเฉลี่ยเพียงครึ่งเดียวที่ใช้ศักยภาพของคลาวด์ได้เต็มที่ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเปลี่ยนงานประจำในแต่ละวัน งานที่ต้องใช้ความรู้ และการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นให้ทันสมัย เพื่อรองรับความต้องการด้านต่างๆ ของธุรกิจ
คลาวด์เฟิร์สสู่ความได้เปรียบ
เอคเซนเชอร์ ให้นิยามองค์กรที่ล้ำหน้าในเส้นทางคลาวด์ว่าเป็น Continuum Competitors หรือผู้นำที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยเอคเซนเชอร์ได้ศึกษาวิธีการใช้คลาวด์ของผู้นำที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องเหล่านี้ พบ 4 แนวทางการใช้คลาวด์สู่ชัยชนะที่เหนือกว่า ซึ่งองค์กรต่างๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้
1. กำหนดจุดมุ่งหมายขององค์กรในการใช้คลาวด์ องค์กรจะต้องพัฒนากลยุทธ์ขึ้นมาก่อน โดยมีวิสัยทัศน์ที่ระบุค่านิยมหลักและเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นในอนาคตไว้ชัดเจน ระบุจุดที่อ่อนไหวในการแข่งขัน และจัดกลุ่มความสามารถของบริษัทในปัจจุบันเทียบกับเป้าหมายที่อยากจะไปในอนาคต องค์กรจะต้องพัฒนากลยุทธ์โดยพิจารณาด้วยว่าจะใช้คลาวด์อย่างต่อเนื่องเพื่อไปถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างไร
2. วางแนวทางการใช้คลาวด์ให้รองรับเทคโนโลยีอื่นๆ และนำไปต่อยอดได้ องค์กรจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีมาใช้และช่วยเปลี่ยนมิติในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากเทคโนโลยี ให้ก้าวไปควบคู่กันได้ ความยืดหยุ่นคล่องตัว (agility) เป็นแนวคิดที่สำคัญที่สุด องค์กรสามารถนำคลาวด์มาใช้ในด้านแอปพลิชั่นแบบคลาวด์เฟิร์ส การยกระดับบุคลากรที่มีความสามารถ
เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดี
3. เร่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ผู้นำอย่างต่อเนื่องจะให้ความสำคัญกับการลงทุนด้าน “ประสบการณ์” มากที่สุด พวกเขาใช้การออกแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ผสานเข้ากับเทคโนโลยีบนคลาวด์อย่างเอดจ์คอมพิวติ้ง เพื่อคิดใหม่ในด้านประสบการณ์ ผลักดันให้องค์กรเข้าไปอยู่ในจุดที่ใกล้ชิดกับลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน เพื่อจะมีส่วนร่วมกันได้มากขึ้น และการจะทำเช่นนี้ได้ จะต้องปลูกฝังกรอบแนวคิดการมุ่งเน้นเรื่องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นทั้งองค์กร ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการ ประสบการณ์ของพนักงาน และรูปแบบการจัดส่งสินค้า
4. ให้คำมั่นเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง การจะเป็นผู้นำได้ ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ กำหนดระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม และส่งเสริมวัฒนธรรมที่เน้นความคล่องตัวและการเติบโต และองค์กรจำเป็นต้องให้ “ทุกคนมีส่วนร่วม” ทุกคนในองค์กรต้องได้รับรู้ถึงศักยภาพและแนวปฏิบัติที่ดีในการใช้คลาวด์ที่มีศักยภาพพัฒนาไปอยู่เสมอ
รายงานของเอคเซนเชอร์ในฉบับดังกล่าว ที่ออกมาในขณะที่องค์กรต่างๆ ถูกบีบคั้นจากสถานการณ์โควิดให้ต้องส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า ให้บริการในรูปแบบใหม่และเป็นแบบเสมือนจริง
อีกทั้ง งานวิจัยก่อนหน้านี้ของเอคเซนเชอร์ก็ยังพบว่า องค์กรที่สามารถปรับขนาดของนวัตกรรมเทคโนโลยีได้ในช่วงโควิด-19 จะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตเร็วกว่าองค์กรที่นำนวัตกรรมเทคโนโลยีไปใช้ช้า ถึง 5 เท่า