ช้างชนกันครั้งนี้น่าจะดีต่อหญ้าแพรก | ไสว บุญมา
สื่อใหญ่ในกรุงวอชิงตันต่างประโคมข่าวเรื่องการเปิดโปงความไม่ชอบมาพากล และความบกพร่องของสื่อสังคมทวิตเตอร์ โดยอดีตพนักงานสำคัญคนหนึ่งของบริษัท พนักงานคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เทคโนโลยีร่วมสมัย ซึ่งสื่อสังคมต่างๆ ใช้สร้างเวทีของตน
เขามีความสามารถในด้านการเจาะเข้าไปในระบบทำงานและฐานข้อมูลของเวทีเหล่านั้น และเคยคาดการณ์ไว้นานถึงอันตรายของการใช้เทคโนโลยีเปิดเวทีดังกล่าว ก่อนที่เขาจะเข้าไปทำงานให้ทวิตเตอร์ในตำแหน่งหัวหน้าผู้ดูแลด้านความปลอดภัย เขาอยู่กับบริษัทนั้นได้เพียงปีกว่าๆ ก็ถูกปลดเพราะขัดแย้งกับผู้บริหาร หลังออกมาไม่นาน
เขาเขียนรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพบเห็นในบริษัทและส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเมื่อเดือน ก.ค. แต่สื่อเพิ่งมารู้
อาจจำกันได้ว่า ย้อนไปเมื่อกลางเดือน เม.ย. อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้มีสินทรัพย์เป็นลำดับ 1 ของโลก เสนอซื้อบริษัททวิตเตอร์โดยให้ราคาสูงถึง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ผู้ถือหุ้นจำนวนมากของบริษัทนั้นกลายเป็นเศรษฐี แต่เมื่อต้นเดือน ก.ค.เขาประกาศถอนตัว แม้ทางคณะกรรมการของบริษัทจะตกลงขายให้เขาแล้วก็ตาม
อีลอน มัสก์
อีลอน มัสก์ อ้างว่าเหตุผลหลักของเขาได้แก่ บริษัทรายงานฐานข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ข้ออ้างนี้ตรงกับส่วนหนึ่งในข้อกล่าวหาสำคัญในรายงานของอดีตพนักงานดังกล่าว ทั้งที่ไม่มีข้อมูลยืนยันว่าอีลอน มัสก์ รู้เรื่องราวเกี่ยวกับรายงานนั้น
ต่อมาไม่นาน บริษัททวิตเตอร์ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลบังคับอีลอน มัสก์ ให้ซื้อบริษัทตามราคาที่ตกลงกันไว้ ศาลจะเริ่มพิจารณาคดีในเดือน ต.ค. ด้วยอำนาจของสินทรัพย์จำนวนมหาศาล ทั้ง 2 ฝ่ายคงจะจ้างทนายชั้นแนวหน้าให้ออกมาสู้กันแบบถึงพริกถึงขิง
นอกจากเรื่องการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงแล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหลายอย่าง ทั้งในระดับชาติและในระดับบุคคลอีกด้วย เช่น การยินยอมทำตามความกดดันและรับเงินของต่างชาติเพื่อขยายฐานลูกค้า การเปิดให้พนักงานถึงราวครึ่งหนึ่งเข้าถึงฐานข้อมูลของบริษัท
และความหละหลวมในการจ้างพนักงานซึ่งเปิดโอกาสให้สายลับของต่างชาติเข้าไปทำจารกรรมได้ง่าย (เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานระดับผู้จัดการฝ่ายคนหนึ่งถูกศาลตัดสินตามคำฟ้องของรัฐบาลอเมริกันว่าทำจารกรรมให้แก่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย)
ในระดับชาติซึ่งอาจไม่มีผลต่อคนทั่วไปแบบเป็นที่ประจักษ์เกี่ยวเนื่องกับเรื่องความมั่นคงและการทำลายระบอบประชาธิปไตย เช่น รัฐบาลต่างชาติที่เข้าถึงข้อมูลของบุคคล อาจใช้ข้อมูลนั้นยุยงให้เกิดความแตกแยกร้ายแรงขึ้น เพื่อทำลายความมั่นคงของประเทศที่เป็นปฏิปักษ์แก่ตนโดยเฉพาะสหรัฐเอง หรือรัฐบาลเผด็จการอาจใช้ข้อมูลเพื่อค้นหาและทำร้ายผู้เรียกร้องการปกครองแนวประชาธิปไตย ส่งผลผลให้ไม่เกิดรัฐบาลแนวนั้น
สำหรับในระดับบุคคล ความบกพร่องของระบบเก็บรักษาข้อมูลและเปิดให้การเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้สื่อสังคมถูกนำไปใช้ในทางผิดรวมทั้งโดยอาชญากร เราต่างคุ้นเคยกับการโฆษณาที่ส่งมาหาเราอยู่บ้างแล้ว
เนื่องจากผู้โฆษณาได้ข้อมูลส่วนตัวของเรามาจากการใช้สื่อสังคมของเรา ถึงแม้เราจะรำคาญอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่การโฆษณาธรรมดาจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายเกินกว่านั้น ในกรณีที่รัฐบาลเผด็จการต้องการทำร้ายเรา หรืออาชญากรต้องการหลอกลวงและกรรโชกเราเพื่อเอาทรัพย์สิน เราอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
รายงานของสื่อทุกสำนักบ่งว่า ฝ่ายบริหารและสมาชิกรัฐสภาอเมริกันจะเอาจริงเอาจังกับการสอบสวนตามคำกล่าวหาของอดีตพนักงานของทวิตเตอร์ ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ออกมาปฏิเสธอย่างแข็งขัน ขั้นต่อไปจึงจะเป็นการต่อสู้กันแบบเข้มข้นในการสืบสวนสอบสวนหาความจริง กระบวนการนี้จะนำไปสู่ความรู้ความเข้าใจในข้อบกพร่องและช่องโหว่ของสื่อสังคมต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีที่เขาใช้
เมื่อรวมกับข้อมูลที่จะได้จากคดีที่เกี่ยวกับอีลอน มัสก์ ผลออกมาน่าจะเป็นการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยของระบบและการใช้สื่อสังคม หากเป็นเช่นนั้น ผู้ใช้สื่อสังคมโดยทั่วไปย่อมจะปลอดภัยมากขึ้น