เรื่องประหลาดจากคำสั่งการรวบรวมข้อมูล

เรื่องประหลาดจากคำสั่งการรวบรวมข้อมูล

ตามที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วไปในโลกนี้ ก่อนที่เราจะรวบรวมข้อมูลใดๆ  เรามักจะมีพิมพ์เขียวของข้อมูลสารสนเทศว่า ถ้าเราทำกิจการนี้อยู่ เรามีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เรื่องนี้ เราทำกิจกรรมประจำในเรื่องอะไรบ้าง

แล้วเราจะต้องรู้ว่า การดำเนินการตามกลยุทธ์ และการดำเนินกิจการประจำที่ทำอยู่ในแต่ละวันนั้น เราจะต้องติดตามข้อมูลอะไรบ้าง

ที่สำคัญคือเราตอบตัวเราเองได้ก่อนว่าเราจะใช้ข้อมูลที่รวบรวมมานั้นจะใช้ทำอะไรบ้าง จะวิเคราะห์อย่างไร นำไปทบทวนเรื่องอะไร นำไปช่วยตัดสินใจในเรื่องอะไรบ้าง

ซึ่งหมายความว่าเราต้องทราบเป็นอย่างดีแล้วว่าโครงสร้างของข้อมูลที่เราต้องการรวบรวมนั้นจะเป็นอย่างไร มาตรฐานของข้อมูลเป็นอย่างไร การกำกับดูแลการรวบรวม การประมวลผล และการใช้งานข้อมูลเหล่านั้นเป็นอย่างไร

พูดจาร่วมสมัยว่าเราต้องรู้แล้วว่า Data Structure และ Data Governance เป็นอย่างไร 

แต่น่าประหลาดอย่างยิ่งว่า มีหน่วยงานหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นหน่วยงานที่อุดมไปด้วยผู้รู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบ้านเมืองหนึ่ง  ออกมาป่าวร้องให้หน่วยงานอื่นส่งข้อมูลมาให้ตนเอง  บอกแค่แกต้องส่งข้อมูลตามที่ฉันสั่ง

โดยวันที่บอกให้ทำตามสั่งก็ไม่ได้บอกด้วยว่าข้อมูลที่มาบังคับให้ส่งให้นั้นมีอะไรบ้าง หน้าตาที่ให้ส่งเป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อมูลไปแล้วจะกำกับดูแลการนำข้อมูลไปใช้งานอย่างไร จะรักษาความมั่นคงของข้อมูลอย่างไร

ไม่ต้องเป็นเซียนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ก็คงบอกได้ว่าประหลาด ไม่ว่าจะมองในมุมการบริหาร หรือมุมวิชาชีพ เพราะข้อมูลเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าของทุกองค์กร  ใครจะเอาไปใช้ก็น่าจะบอกกันสักหน่อยว่าข้อมูลฉันจะปลอดภัยแค่ไหน 

การที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้นั้น เรามักจะต้องมีระบบคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกกันในยุคสมัยนี้ว่ามี แพลตฟอร์มพร้อมที่จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลนั้นอยู่แล้ว

ข้อมูลที่ป่าวประกาศให้คนนั้นคนนี้ส่งมาให้นั้น เปรียบเสมือนนำ้ที่ไหลมาจากสารพัดทิศ จะใช้ประโยชน์จากนำ้เหล่านั้นได้ จำเป็นต้องมีเขื่อนกักเก็บนำ้สร้างเสร็จพร้อมใช้งานอยู่แล้ว 

 แปลกประหลาดมาก ๆ ที่บอกว่าให้ช่วยกันส่งนำ้มาจากสารพัดทิศเพื่อมารวมกันไว้ใช้ประโยชน์ แต่คนที่บอกให้ช่วยกันส่งนำ้มาให้นั้น ยังไม่มีเขื่อนเก็บนำ้อยู่เลย

หน่วยงานที่บอกให้คนอื่นส่งข้อมูลมาให้ตนเองนั้น ในวันที่ไปบังคับคนอื่นให้ส่งข้อมูลมาให้ ยังไม่มีแพลตฟอร์มที่ใหญ่เพียงพอสำหรับรองรับปริมาณข้อมูลที่ไปบังคับให้คนอื่นส่งมาให้ 

ไม่ต้องกล่าวถึงแอปที่จะใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สังเคราะห์สารสนเทศ ไม่ต้องคิดไปถึงแพลตฟอร์มสำหรับรองรับการใช้งาน AI ในการพยากรณ์ต่อยอดจากสารสนเทศที่ประมวลผลได้จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้

อาจเป็นที่เดียวในโลกที่บอกให้ช่วยกันผันนำ้จากสารพัดแม่นำ้ลำคลองมาให้ตน โดยที่มีแค่ตุ่มนำ้ใบเล็ก ๆ อยู่แค่ไม่กี่ใบไว้เก็บนำ้ที่ไปบอกให้คนอื่นส่งมาให้ 

ปีนี้เป็นปี 2024 เป็นปีที่บ้านเรามี Generative AI  ใช้งานกันอยู่ทั่วหน้า ถ้านำความคิดในการมีฐานข้อมูลกลาง ที่ให้หน่วยงานต่างๆ ที่วันนี้ต่างก็มีระบบสารสนเทศของตนเองใช้งานกันอยู่แล้ว

เก็บข้อมูล มาสังเคราะห์เป็นสารสนเทศกันมานานนับทศวรรษ ต้องมาบันทึกข้อมูลซำ้เข้าสู่ฐานข้อมูลกลางของหน่วยงานนั้นอีกครั้ง

ใครๆก็บอกได้ว่าเป็นแนวทางที่ผิดหลักการพื้นฐานของการดูแลคุณภาพข้อมูลในยุคนี้ เพราะการบันทึกข้อมูลเดียวกันซ้ำโดยคนทำ เพิ่มโอกาสที่จะได้ข้อมูลที่ผิดพลาด 

แค่ถาม Generative AI ก็จะได้คำตอบตรงกันว่าไม่ใช่แนวทางที่พึงกระทำ มีหนทางอื่นๆ ภายใต้เทคโนโลยีที่มีใช้ในปี 2024 อีกมากมายที่ช่วยรวบรวมข้อมูลได้ โดยไม่สร้างภาระที่ไม่สมควรให้กับผู้ที่ต้องทำตามนี้

มีอีกสารพัดวิธีการที่ทำแล้วจะไม่ทำให้บ้านนั้นเมืองนั้นดูล้าสมัย หรือดูไม่สมเหตุสมผลในการลงทุนลงแรงเรื่องนี้ 

ถ้าทำประหลาดตามที่เล่ามานี้ หน่วยงานนั้นจะได้แพลตฟอร์มใหญ่โตมโหฬารที่เป็นของเก่าราคาแพง แต่เป็นไปโดยไม่มีธรรมาภิบาลของการใช้งานข้อมูลสารสนเทศ.