ดาราศาสตร์ ในห้องเรียน

เด็กจะเข้าใจวิชาดาราศาสตร์ได้ด้วยสื่อเรียนรู้ทำมืออย่างง่าย ไม่จำเป็นต้องพึ่งอุปกรณ์ราคาแพงเสมอไป
เหตุใดเราต้องเรียนวิชาดาราศาสตร์ เรียนไปแล้วได้อะไร นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ? เหล่านี้มักเป็นคำถามยอดฮิตสำหรับเด็กๆ ที่ต้องเรียนวิชาดาราศาสตร์ แต่จะมีครูสักกี่คนที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถสอนให้เด็กเรียนรู้ดาราศาสตร์อย่างถูกต้อง เกิดความเข้าใจ และเรียนรู้ที่จะนำไปใช้ได้
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โดยสาขาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ จึงจัด“ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศช่วงชั้นที่ 4” เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนเนื้อหาวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ จนสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการอบรมในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร คือ ดาราศาสตร์ บรรยากาศ และธรณีวิทยา
วันนี้เราพาไปดูครูเรียนรู้ในหลักสูตรดาราศาสตร์ เกี่ยวกับดาวเคราะห์ และทำกิจกรรมประดิษฐ์สื่อด้านดาราศาสตร์อย่างง่ายซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้กัน
อาจารย์สุพจน์ วุฒิโสภณ ผู้อำนวยการสาขาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ สสวท. กล่าวว่า การอบรมเข้มในครั้งนี้ เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับครู โดยครูจะได้รับความรู้ทุกอย่างที่บรรจุในหลักสูตรทั้งรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อครูได้รับความรู้นี้แล้ว ครูจะมีความมั่นใจ เมื่อเด็กถามอะไร ครูก็จะสามารถตอบคำถามได้ครอบคลุมมากขึ้น เด็กของเราก็จะมีศักยภาพมากขึ้นตามไปด้วย ไม่เพียงเท่านั้นในการอบรมครั้งนี้ เราจะคัดเลือกครูผู้นำมาเพิ่มศักยภาพต่อจนสามารถร่วมเป็นวิทยากรกับ สสวท. เพื่อขยายผลไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
ดร. สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยากรในการอบรมครั้งนี้ กล่าวว่า ดาราศาสตร์เป็นพื้นฐานความรู้ ความคิดทางวิทยาศาสตร์ ในการเข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ได้บรรจุวิชาดาราศาสตร์ไว้ในสาระการเรียนรู้พื้นฐาน ซึ่งบุคคลทุกคนที่อยู่ในสังคมต้องมีความรู้ทางด้านนี้พอสมควร โดยสามารถรับรู้ข่าวสารและเข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น อาจจะไม่จำเป็นต้องเก่ง หรือนำไปประกอบอาชีพ แต่อย่างน้อยที่สุดคือเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ นี่คือความสำคัญข้อหนึ่งของดาราศาสตร์ในการปูพื้นฐานเรื่องการเข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆ ทางธรรมชาติ อีกหนึ่งข้อที่สำคัญคือ เมื่อเกิดพิบัติภัยทางธรรมชาติต่างๆ แล้วไม่ตกใจ รู้ว่าต้องทำอะไร และทำอย่างไร
ปัจจุบันปัญหาหลักของการจัดการเรียนการสอนวิชาดาราศาสตร์ในประเทศไทย คือ บุคคลที่เรียนในเรื่องนี้หรือมีพื้นฐานทางด้านนี้น้อย จึงทำให้ครูที่รับผิดชอบในสาขาอื่นถูกดึงเข้ามาสอน ดังนั้นเราจึงต้องเพิ่มพูนความรู้ให้กับครูให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ครูสื่อสารและถ่ายทอดสู่เด็กได้
“การเรียนรู้ทางดาราศาสตร์ส่วนใหญ่ เกิดขึ้นในเวลากลางคืน ในขณะที่เด็กมีการเรียนในเวลากลางวัน เพราะฉะนั้น ประเด็นคือ ทำอย่างไรให้เด็กนำความรู้ที่ได้รับในห้องเรียนไปใช้ต่อในเวลากลางคืน เมื่อเขาไปพบสถานการณ์จริง”
อาจารย์โศภิตา จันทร์ศรี นักวิชาการสาขาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ สสวท. ในฐานะวิทยากรกล่าวว่า สื่อการสอนทางด้านดาราศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็น เพราะเราไม่สามารถที่จะทำการทดลองหรือแสดงให้เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงได้และสื่อการสอนสำเร็จรูปทั่วไปมักมีราคาสูง ครูส่วนใหญ่จึงประสบปัญหาในเรื่องนี้ ดังนั้นทางสาขาจึงพยายามที่จะออกแบบสื่อการสอนที่ครูผู้สอนสามารถสร้างขึ้นได้เองและใช้วัสดุใกล้ๆ ตัว
สื่อที่จะนำมาสอนในวันนี้ มีชื่อว่า “ทรงกลมท้องฟ้าจำลอง” เป็นการจำลองทรงกลมท้องฟ้าของเรา โดยใช้ฝาแก้วน้ำพลาสติกใสแทนทรงกลมท้องฟ้า ข้างในจะมีลูกปิงปองอยู่ตรงกลางใช้แทนโลก ส่วนแกนกลางจะใช้ตะเกียบแทนแกนหมุนของโลก และติดตุ๊กตาลงบนลูกปิงปองแทนผู้สังเกตที่ยืนอยู่บนโลก จากนั้นกำหนดเส้นศูนย์สูตรบนท้องฟ้า โดยใช้สติ๊กเกอร์ติดเป็นแนวแสดงตำแหน่งของเส้นศูนย์สูตร และเส้นสุริยวิถี โดยสื่อการสอนนี้ใช้อธิบายเกี่ยวกับแนวการขึ้น-ตก ของดวงอาทิตย์ปรากฏโดยการเคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์จะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งละติจูดของผู้สังเกต
“เมื่อครูประดิษฐ์สื่อได้แล้ว สิ่งสำคัญคือ ครูจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้สื่อ รู้ว่าสื่อนี้มีประโยชน์อย่างไร แล้วสามารถอธิบายอะไรได้บ้าง”อาจารย์โศภิตา กล่าว
อาจารย์เพ็ญจันทร์ ถือสัตย์ โรงเรียนนารีนุกูล จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ตนเองไม่ได้จบด้านดาราศาสตร์มาโดยตรง จึงประสบปัญหาในเรื่องของเนื้อหา มีข้อสงสัยหลายประการ แต่เมื่อเข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิได้ตอบคำถาม ให้คำแนะนำ และถ่ายทอดความรู้อย่างเต็มที่ ทำให้เรามีความรู้มากขึ้น และมั่นใจในการถ่ายทอดสู่เด็กๆ ได้มากขึ้นด้วย
อาจารย์วิทยา อินโท โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม กรุงเทพฯ กล่าวว่า เนื้อหาด้านดาราศาสตร์เป็นเนื้อหาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าครูไม่ไปค้นคว้าเพิ่มเติมก็จะทำให้ล้าหลังได้ ดังนั้นการเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ จึงเป็นการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มพูนความรู้สำหรับครูผู้สอนหลักสูตรนี้ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ว่าหลักการสอนดาราศาสตร์ที่ดีควรเป็นอย่างไร แก่นสำคัญของหลักสูตรมีอะไรบ้าง และจะประดิษฐ์สื่อการสอนง่ายๆ ได้อย่างไร
อาจารย์จรัสศรี ไชยกุล โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์ จ.สตูล กล่าวว่า จากการที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลนักเรียนโอลิมปิกในการแข่งขันระดับชาติ ทำให้ไม่มั่นใจว่า ตนเองจะมีศักยภาพเพียงพอในการถ่ายทอดเนื้อหาด้านดาราศาสตร์ให้กับเด็ก ดังนั้นการอบรมในครั้งนี้ ทำให้มีเนื้อหาความรู้ที่แน่นขึ้น มั่นใจมากขึ้น จนสามารถส่งเสริมและผลักดันให้นักเรียนก้าวไปสู่การแข่งขันระดับชาติ และนานาชาติต่อไป
นายสุพจน์ วุฒิโสภณ กล่าวต่อว่า โครงการนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาครูผู้สอนหลักสูตรโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ในประเทศไทย ซึ่งโครงการต่อไป สสวท. จะสร้างศูนย์ดาราศาสตร์ตามโรงเรียนทั่วประเทศ โดยทำเป็นโมเดลต้นแบบ เพื่อให้โรงเรียนอื่นๆ ได้มาศึกษา ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนับสนุนด้านการเรียนการสอนด้านดาราศาสตร์แล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายด้านดาราศาสตร์ระหว่างโรงเรียนมากยิ่งขึ้น และเราคาดหวังว่า ในอนาคตจะสามารถปิดช่องโหว่ปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอนหลักสูตรดาราศาสตร์ และจะมีครูด้านดาราศาสตร์ที่มีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้นทุกปี
ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ต่างๆ อาทิ ฝนดาวตก ดาวหาง อุกกาบาต ข้างขึ้น ข้างแรม จันทรุปราคา สุริยุปราคา ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง การเกิดกลางวัน กลางคืน ปรากฏการณ์จันทร์ยิ้ม หรือแม้กระทั่งเรื่องของฤดูกาล ล้วนเป็นสิ่งที่ใกล้ตัว ที่ส่งผลกระทบต่อตัวเราโดยตรง จึงนับได้ว่า “ดาราศาสตร์” เป็นวิชาแห่งมวลมนุษยชาติ ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นให้เราเรียนรู้เพื่อเกิดความเข้าใจต่อสิ่งต่างๆ ที่เราเฝ้ามองเห็น ค้นหา และหาคำตอบให้กับตัวเอง อีกด้านหนึ่งนั้นยังช่วยต่อเติมจินตนาการให้กว้างไกล นำไปสู่การเรียนรู้ต่อยอดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เหตุใดเด็กและเยาวชนไทยต้องเรียนวิชาดาราศาสตร์
สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานของสาขาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ สสวท.ได้ที่เว็บไซต์ http://www.ipst.ac.th/index.php