กังหันน้ำ ภูมิปัญญาท้องถิ่น

กังหันพลังงานน้ำไหล สิ่งประดิษฐ์ช่วยลดค่าไฟจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่นำทรัพยากรและวัสดุในพื้นที่มาต่อยอดให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ศรัญญา ทองทับ รายงาน
การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ ที่เกิดจากสภาวะโลกร้อน ได้ถูกรับรู้ลงไปถึงระดับชุมชนในปัจจุบัน ประกอบกับการสื่อสารต่างๆ ที่ลงไปในหมู่บ้าน รวมถึงรายจ่ายครัวเรือนที่สูงขึ้นเหล่านี้ กระตุ้นให้เกิดการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิต
ปัจจุบันในท้องถิ่นต่างๆ จึงมีการคิดค้นนวัตกรรม โดยนำทรัพยากรและวัสดุในพื้นที่มาพัฒนาและต่อยอด ให้เหมาะสมกับการใช้งาน นายสุโขทัย รักชาติ ชาวศรีชมพู อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เป็นอีกคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาคิดค้นนวัตกรรมพลังงานทดแทนพื้นบ้าน ที่เรียกกันว่า “กังหันพลังงานน้ำไหล”
ต้นทางของความคิดครั้งนี้ มาจากการสะสมประสบการณ์ชีวิตจากการดิ้นรนทำมาหากิน เพื่ออยู่รอดเป็นพื้นฐานที่นำมาสู่การพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ขึ้นชิ้นนี้ขึ้น เพื่อลดต้นทุน จากลูกเรือหาปลาใน จ.นครศรีธรรมราช 10 ปี มาทำงานในบ่อกุ้งอีก 10 ปี ผันมาออกเรือหาปลาเอง และก่อนที่เรือจะล่มเพราะมรสุม ขาดทุนไปกว่า 300,000 บาท
กระทั่งต้องกลับบ้านที่ จ.บึงกาฬ และนำเงินที่เหลืออยู่ มาทำไร่นาสวนผสมในที่ดินของตนเอง 20 ไร่ ทำนา 4 ไร่ ปลูกพืชผักผลไม้ อาทิ เงาะ มะพร้าว กล้วย ขนุน จำปาดะ อ้อย สับปะรด ไผ่ จำนวน 5 ไร่ ยางพารา 10 ไร่ และขุดบ่อเลี้ยงปลา รวมถึงปลูกต้นยางนาอีก 1 ไร่
นายสุโขทัย เล่าว่า ที่ทำได้อย่างนี้เพราะในผืนดินของตนเองมีลำห้วยไหลผ่าน ทำให้มีน้ำใช้ทำการเกษตรตลอดทั้งปี พืชพันธุ์จึงเจริญงอกงาม สร้างความมั่นคงในการทำเกษตร แต่ต่อมาต้องการต่อไฟฟ้าเข้ามาใช้ในสวน ด้วยความที่มีเงินไม่มากพอ จึงคิดอ่านหาวิธีทำที่จะเสียเงินน้อยที่สุด
จึงเป็นที่มาในการต่อยอดคิดประดิษฐ์ขึ้น เป็น "กังหันพลังงานน้ำไหล” เป็นเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงาน โดยปั่นน้ำจากลำห้วยใกล้บ้านที่มีน้ำไหลตลอดปี ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า ต้นรากของเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าชิ้นนี้ มาจากเครื่องปั่นน้ำในนากุ้ง แต่ปรับปรุงโดยใช้พลังน้ำไหลจากลำห้วยไหลผ่านใบพัดไปหมุนไดนาโมจนเกิดเป็นพลังงานไฟฟ้า
ส่วนวัสดุที่ใช้มาจากเศษเหล็กเหลือใช้ที่มีอยู่ สิ่งประดิษฐ์นี้มีด้วยกัน 3 เครื่อง ขนาด 5 แรงม้า 15 แรงม้า และ 40 แรงม้า ตอนนี้ลงทุนทั้งหมดไปร่วม 1 แสนบาท“ที่พัฒนาจนออกมาเป็นรูปเป็นร่างและใช้งานได้จริงขนาดนี้ มาจากคนในครอบครัวช่วยกันคิดและทำขึ้น ทั้งภรรยา ลูก และญาติพี่น้อง"เมื่อได้เริ่มต้นคิด และลงมือทำ จึงตามมาด้วยสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ
นายสุโขทัย เล่าว่า ยังประดิษฐ์รถจักรยานยนต์สะเทินน้ำสะเทินบกไปพร้อมกันด้วย โดยใช้วัสดุจากถังน้ำมัน และจักรยานยนต์เป็นส่วนประกอบ ทำให้วิ่งได้ทั้งบนบก และในน้ำ หากมีน้ำท่วมก็ยังปั่นใช้งานได้ ทั้งนี้ สิ่งที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมานั้นไม่ได้มุ่งในเชิงพาณิชย์ แต่ต้องการทำเป็นต้นแบบให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ และไปทำใช้เอง เพราะทำได้ง่าย โดยสามารถนำเศษวัสดุเหลือใช้มาทำประโยชน์ และใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดคุณค่าสูงสุด
ที่สำคัญในยามที่เศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ เกษตรกรต้องหาทางลดต้นทุนเท่าที่จะทำได้ ซึ่งค่าไฟฟ้าก็เป็นรายจ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการหาทางปั่นไฟฟ้าใช้เอง จะช่วยลดรายจ่ายทั้งจากการทำเกษตรและรายจ่ายของครัวเรือน ประมาณ 400 บาทต่อเดือน
ขณะนี้สิ่งที่พัฒนาขึ้นมานั้น ได้เผยแพร่ให้ชุมชนใกล้เคียง และนำไปจัดแสดงหลายแห่งแล้ว ทั้งในงานประจำปีของจังหวัด และที่ จ.นครศรีธรรมราช และส่งเข้าประกวดรางวัลลูกโลกสีเขียว ปี 2556 ด้วยมีสิ่งหนึ่งที่เขาต้องการฝากไปยังหน่วยงานรัฐ และเอกชน คือ การเข้ามาสนับสนุนงบประมาณ เพื่อกระตุ้นให้ชาวบ้านผลิตใช้เอง และต่อยอดคิดค้นไปยังสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นคง และยั่งยืนในการดำเนินชีวิตในชุมชนท้องถิ่น