เส้นใยเพื่อการนอน

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

โอยาสุมิ (Oyasumi) แบรนด์เครื่องนอนที่พัฒนาเพื่อเป็นเพื่อนคู่เตียงของคนไทยด้วยจุดเด่นความนุ่มของเส้นใย เกิดจากประสบการณ์ของ “อดิศักดิ์ เลิศทนงศักดิ์” ที่คลุกคลีอยู่กับเส้นใยผ้าของธุรกิจครอบครัวตั้งแต่เกิดถึงโต เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจสร้างธุรกิจของตัวเอง ย่อมไม่พ้นวิถีของ เส้นใย ผ้าและสิ่งทอ

ไอเดียแปลงความคุ้นเคยให้เป็นผลิตภัณฑ์ เริ่มเมื่อเขาปิ๊งเส้นใยนำเข้าจากญี่ปุ่นซึ่งมีความนุ่มมากเป็นพิเศษ เหมาะกับการผลิตเป็นหมอนป้อนโรงแรมและรีสอร์ท

::คู่เตียงเคียงหมอน

อดิศักดิ์ กล่าวว่า เวลาไปพักตามโรงแรมหรือรีสอร์ท จะพบว่า เตียงนอน หมอนผ้าห่ม มีความหนานุ่ม ให้ความรู้สึกสบาย ต่างจากเครื่องนอนที่บ้าน กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเครื่องนอนที่หนานุ่มให้ความรู้สึกสบาย และส่งขายให้กับรีสอร์ทต่างๆ ในลักษณะการรับจ้างผลิต (OEM) กระทั่งได้รับการตอบรับที่ดี

เมื่อสร้างแบรนด์โอยาสุมิจึงมีการจับมือกับทางญี่ปุ่นในการพัฒนาเส้นใยให้นุ่มขึ้นอีก และมีประสิทธิภาพในการกันไรฝุ่น 100% ต่อมาก็เป็นการพัฒนาเส้นใยเพื่อสนองพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มที่ชอบนอนดูทีวี ทำให้หมอนต้องใช้เส้นใยที่แข็งขึ้น

“หมอนใบเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เราจึงต้องพัฒนาสินค้าให้หลากหลาย” อดิศักดิ์ชี้

จุดแข็งของโอยาสุมิเป็นเรื่องของวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์คุณภาพระดับไฮเอนด์ ในขณะที่การผลิตแบบทำเองขายเอง ทำให้สามารถกำหนดราคาได้ในระดับกลาง ช่วยให้ตลาดตอบรับได้ง่ายโดยวางกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริโภคระดับกลางค่อนไปทางสูง และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง

อดิศักดิ์เล่าถึงการตลาดในช่วงเริ่มต้นแบรนด์ว่า ไม่ได้เริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังนัก และอาศัยการขยายผ่านลูกค้า OEM ที่มีอยู่เดิม แต่ความยากของผู้ผลิตแบบรับจ้างผลิตนั้น คือ เราเคยอยู่กับที่ โดยลูกค้าเป็นฝ่ายเดินมาหาเราและมีดีมานด์ต่าง ๆ เป็นโจทย์มาให้เราสร้างสินค้า ในขณะที่การทำแบรนด์ของตนเอง เหนื่อยเพิ่มเป็น 4 เท่า เราต้องสร้างคน สร้างตลาด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ กำไรที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น เขาจึงทำ 2 ตลาดไปพร้อมๆ กัน โดยที่แบ่งแยกผลิตภัณฑ์ชัดเจน ไม่แย่งลูกค้ากันเอง

ปัจจุบัน มีหมอนทั้งหมด12 รุ่น แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันทั้งในด้านของรูปทรง ขนาด หรือเส้นใย ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยไฟเบอร์ เส้นใยขนแกะเทียม และเส้นใยขนห่านเทียมที่ทั้งหมดนำเข้าจากญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบหมอน U & I ซึ่งเป็นหมอนรูปตัวยูและตัวไอพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับท่านอน 8 ท่าและรองรับสรีระต้นคอได้ทั้งหมดลดความเสี่ยงของอาการปวดคอได้

::นุ่มจริงไม่เสริมซิลิโคน

“มูลค่าตลาดอุปกรณ์เครื่องนอนแม้จะประเมินมูลค่าไม่ได้แน่ชัด แต่เชื่อว่าผู้บริโภคใช้เงินไปกับเครื่องนอนไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาทต่อปี ซึ่งแบ่งออกเป็นตลาดโรงแรมและรีสอร์ท 50% ตลาดรีเทลอีก 50% ในขณะที่แบรนด์เครื่องนอนไทยเกิดใหม่น้อยมาก ดังนั้น คู่แข่งรายใหม่ไม่มี จะมีก็แต่คู่แข่งรายเก่าที่มีช่องทางจำหน่ายและฐานลูกค้าอยู่แล้ว

โอยาสุมิเน้นเรื่องของคุณภาพเป็นอาวุธที่จะแข่งและชิงส่วนแบ่งตลาด โดยตั้งเป้าเพียง 10% ของมูลค่าตลาดรวม ทั้งนี้ 3 ปีที่ผ่านมา โอยาสุมิเติบโต30-40% ทุกปี ในอัตราเฉลี่ยที่มั่นคง เนื่องจากมีแผนการตลาดในการเปิดตัวสินค้าใหม่ 2-3 รุ่นต่อปี ทำให้กลุ่มลูกค้ามีการซื้อซ้ำและบอกต่อ

ธุรกิจที่ดูเหมือนจะไปได้ดีก็ต้องเผชิญบททดสอบอีกครั้งเมื่อถูกตลาดเส้นใยจีนที่เข้ามาในไทยมากขึ้น และนำเสนอเรื่องของสัมผัสแรกที่นุ่ม แต่แท้จริงเป็นการใส่ซิลิโคนเสริมลงไปในเส้นใย ทำให้สัมผัสนุ่มจริง เด้งจริง แต่นอนไม่สบาย อายุการใช้งานน้อย อดิศักดิ์กล่าวว่า เราเน้นแก้ปัญหาด้วยการนำเสนอข้อมูล พร้อมทั้งให้ลูกค้าทดสอบสินค้าด้วยการนอนจริง และมีบริการหลังการขาย

อนาคตของโอยาสุมิ อดิศักดิ์มีแผนที่จะทำเป็นหมอนเฉพาะบุคคล ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากทำแบบไหน เส้นใยอะไร ความนุ่มเท่าไหร่ สีอะไร ส่วนในแง่ของการตลาด ภายใน 2 ปี จะเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่จากเดิมที่มีแค่ออนไลน์และการออกงานแฟร์ แต่จะไม่มีการเปิดหน้าร้านอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจในคุณภาพสินค้า ที่จะชักจูงให้ผู้ซื้อตามมาเอง โดยเฉพาะยุคไอที การเปิดหน้าร้านอาจจะกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาโดยไม่จำเป็นด้วยซ้ำ

** ติดตามภาพเคลื่อนไหวผ่าน iSnap หรือ http://youtu.be/fLoMCkjhuwY