ว่านสากเหล็กต้านอนุมูลอิสระ

ว่านสากเหล็กต้านอนุมูลอิสระ

วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี วิจัยฤทธิ์ของสารสกัดว่านสากเหล็กต่อการต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มทางเลือกการดูแลสุขภาพ

ว่านสากเหล็กเป็นพืชล้มลุก ลักษณะคล้ายพืชพวกปาล์ม ใบเรียงสลับติดกันที่โคนต้น แผ่นใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปหอกพับเป็นร่องๆ ตามยาวคล้ายใบปาล์ม ปลายใบเรียวแหลมโคนใบสอบแคบแผ่กว้างหุ้มลำต้น ดอกมี 6 กลีบ สีเหลืองดอกออกรวมกันแน่น เป็นช่อรูปทรงกระบอกปลายแหลม ผลแก่สีขาวถึงแดง ขยายพันธุ์ โดยการใช้เมล็ด พบแพร่กระจายในพม่า ตอนใต้ของไทย หมู่เกาะมาเลเซียและบอร์เนียว

ทุกๆส่วนของต้นว่านสากเหล็กสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย รวมทั้งมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่สำคัญโดยเฉพาะฤทธิ์ต้านการอักเสบ รักษาแผลพุพอง หนอง ลดอาการเจ็บปวด บวม นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาขัดผิว แก้ฝ้าจุดด่างดำ

ส่วนฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระนั้น ทีมวิจัยได้ทำการเปรียบเทียบการสกัดแยกสารจากใบและรากของว่านสากเหล็ก พบว่าการสกัดสารสกัดหยาบด้วยน้ำอุณหภูมิห้องจากส่วนใต้ดิน (ราก และ เหง้า) ให้อัตราร้อยละของผลผลิตสูงสุด

รองลงมาคือเอธานอลและสารสกัดหยาบด้วยเอธานอลจากส่วนเหนือดิน (ใบ และลำต้น) จากนั้นนำไปศึกษาฤทธิ์การต้านอนุมูนอิสระด้วยวิธี Frap และ DPPH พบว่าสารสกัดหยาบทั้งส่วนเหนือดินและใต้ดินมีฤทธิ์การต้านอิสระสูง โดยสารสกัดหยาบด้วยน้ำร้อนจากส่วนเหนือดิน ให้ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด

ผู้วิจัย กล่าวอีกว่า นอกจากว่านสากเหล็กจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงแล้ว ยังมีรายงานว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียกลุ่มก่อโรคทางผิวหนัง Candida albicans, Pseudomonas aeruginosa และ Stapphylococcus aureus ซึ่งมีแนวโน้มที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆได้มากมาย

ทั้งนี้ทีมวิจัยได้ทำการทดลองผลิตเป็นสบู่ และโลชั่น ด้วยการใช้สารสกัดว่านสากเหล็กเป็นส่วนผสมเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ โดยอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลการวิจัย

ผลงานวิจัยดังกล่าวค้นคว้าโดยทีมนักศึกษาได้แก่ รุ้งนภา เขียวยศ, ศิริศักดิ์ ยนต์ชัย, ขนิษฐา นาคเกลี้ยง โดยมีอาจารย์สิริภัทร ชมัฒพงษ์ พร้อมด้วย อาจารย์อรษา ชัยชุมพร จากภาควิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นที่ปรึกษาโครงการวิจัย