จีนเร่งหาแฮคเกอร์'ไวท์แฮต'

ฉีหู่ 360 เทคโนโลยี เตรียมจัดงานแข่งขันแฮคเกอร์ปีหน้า เพื่อสร้างทีม"ไวท์แฮต"ป้องกันการโจมตีของผู้ไม่หวังดี
จำนวนแฮคเกอร์ป้องกันระบบจากการโจมตี หรือ"ไวท์แฮต" ที่ไม่สัมพันธ์กับการอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตจีน ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้จีน มีความเสี่ยงอย่างมาก ที่จะถูกโจมตีจากแฮคเกอร์ทั่วทุกมุมโลก
ประธานบริษัทไอที ฉีหู่ 360 เทคโนโลยี "โจว หงอี" บอกว่า จีนจำเป็นต้องสร้างทีมไวท์แฮต ที่มีฝีมือระดับโลกไว้คอยป้องกันการโจมตีของแฮคเกอร์ผู้ไม่หวังดี บริษัทของเขาเตรียมจัดงานแข่งขันแฮคเกอร์ในปีหน้า โดยมีนักศึกษาทั่วจีนเข้าร่วม เพื่อเฟ้นหา ไวท์แฮต ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงาน เนื่องจากจำนวนบุคลากรด้านนี้ ไม่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต
หวิน เสี่ยวชุน หัวหน้าวิศวกร ศูนย์ร่วมมือทางเทคนิคระบบคอมพิวเตอร์ฉุกเฉินแห่งชาติจีน บอกว่า จำนวนไวท์แฮต ไม่เพียงพอต่อความต้องการในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ส่วนคนที่มีฝีมือก็ถูกบริษัทต่างชาติคว้าตัวไปร่วมงานด้วย ทำให้ตลาดในประเทศยิ่งขาดแคลน ส่วนบางคนก็ต้องผันตัวไปเป็นแฮคเกอร์ใต้ดินเพื่อหาเงินเพิ่ม
เขาบอกอีกว่า ความมั่นคงไซเบอร์ของจีนที่อ่อนแอ อาจเป็นผลเสียกับความปลอดภัยของข้อมูลทางการจีนในระยะยาวองค์กรดังกล่าว ระบุว่า เว็บไซต์ที่ถูกเจาะระบบบ่อยที่สุดคือเว็บไซต์รัฐบาล และสถาบันการเงิน โดยการโจมตีถึง 85% มาจากแฮคเกอร์นอกประเทศ
เช่นเดียวกับพนักงานด้านความปลอดภัยไอที ของบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองหางโจว ที่บอกว่า คนที่มีความรู้ด้านระบบคอมพิวเตอร์ของจีนมีแค่ 2 ทางเลือก คือ ลงไปเป็นแฮคเกอร์ใต้ดิน หรือทำงานกับบริษัทอินเทอร์เน็ตดัง ที่มีความต้องการจากลูกค้าจำนวนมาก
ส่วนคนวงในก็ให้ข้อมูลตรงกันว่า สาเหตุหลักที่ทำให้หลายคนผันตัวเป็นแฮคเกอร์ มาจากการลงทุนในอุตสาหกรรมความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่ต่ำ
รายงานของบริษัทวิจัยอุตสาหรรม ไอดีซี เผยว่า การลงทุนภาคความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตคิดเป็นแค่ 1% จากการลงทุนด้านไอทีทั้งหมดในปี 2555 ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่าง สหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ที่มีการลงทุนถึง 9%
การลงทุนด้านความมั่นคงไซเบอร์ที่ต่ำถึงเพียงนี้ อาจทำให้จีนต้องตามหาไวท์แฮตอย่างอลหม่าน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับระบบในอีกไม่กี่ข้างหน้า
เฟรด โคเฮน นักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จากสหรัฐ ผู้ประดิษฐ์ซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัส กล่าวว่า การโจมตีเว็บไซต์เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ชาวไซเบอร์ทุกคนควรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัย
ขณะที่ เหมียว เว่ย รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน บอกว่า ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ กลายเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของชาติ เช่นเดียวกับภาคเศรษฐกิจของจีน ที่ต้องการระบบอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย ดังนั้นงานของรัฐบาลคือการสร้างความมั่นใจว่า อินเทอร์เน็ตปลอดภัยที่จะใช้งาน