ไดมอนด์เกรนส์ธัญพืชไร้แป้ง

ไดมอนด์เกรนส์ธัญพืชไร้แป้ง

เส้นทางสู่ความสำเร็จของธัญพืชกรุบกรอบแบรนด์ Diamond Grains ย้ำชัดถึงกระแสติดลมบนของผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ

สาลินีย์ ทับพิลา - รายงาน

เปิดตัวแบบกันเองๆ ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผ่านมาเพียง 4 เดือนขยายพื้นที่จำหน่ายเข้าไปโชว์ตัวในร้านค้าสุขภาพและกำลังเตรียมความพร้อมจะขึ้นห้างในเร็วๆ นี้ เส้นทางมุ่งสู่ความสำเร็จของธัญพืชกรุบกรอบแบรนด์ Diamond Grains ย้ำชัดถึงกระแสติดลมบนของผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ

ชนิสรา โททอง - วุฒิกานต์ วงศ์ดีประสิทธิ์ปิ๊งไอเดียสร้างธุรกิจร่วมกันเมื่อเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง อาศัยความเป็นคนชอบกิน พัฒนาเมนูธัญพืชสูตรอาหารเช้าและอาหารว่างเพื่อสุขภาพออกมาขาย ชูจุดแข็งเรื่องความอร่อยแบบไร้แป้ง

ความท้าทาย:กรอบไร้แป้ง

ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพที่ติดลมบนมายาวนาน ความน่าสนใจสำหรับผู้เล่นรายใหม่คือ ขนาดตลาดไม่ใหญ่ คู่แข่งน้อย และที่สำคัญคือ ไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ลงมาแข่งด้วย นี่คือโอกาสที่ “วุฒิกานต์” มองเห็น และตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานผลิตขนาดพอเพียงผลิตธัญพืชกรุบกรอบหรือที่เรียกกันว่า กราโนล่า

ชนิสราทำหน้าที่พัฒนาสูตร โดยเริ่มจากคุกกี้ธัญพืชสูตรไม่มีแป้ง ใช้ธัญพืชไม่ขัดสี 7 ชนิดอัดกรอบรวมกัน เริ่มทดลองสูตรในปี 2555 ความยากคือ ขนมที่ไม่มีแป้งจะยึดเกาะกันน้อย เนื้อสัมผัสไม่เหมือนกับขนมปัง ซึ่งมีลักษณะยืดหยุ่น เหนียว นุ่ม ไม่ขาดง่าย ทำให้การผลิตในระดับอุตสาหกรรมทำได้ยาก

“ความท้าทายของเราคือ การทำให้กรอบโดยไม่มีแป้ง ซึ่งได้ลองผิดลองถูกกว่า 1 เดือนกระทั่งพบวิธีการทำในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ทำให้กราโนล่าคงความกรอบไว้ได้แม้แช่ในนมหรือโยเกิร์ต ขณะเดียวกันก็สร้างความหลากหลายด้วย 7 รสชาติ” ชนิสรากล่าว

ทั้งสองจึงเข้ารับคำปรึกษาจากหน่วยงานวิจัยต่างๆ ถึงปัจจัยที่จำเป็นคือ เนื้อสัมผัสไม่เกาะกัน, ความหนาของแผ่นธัญพืชที่เป็นตัวแปรของความอร่อย, รสชาติ,อายุการเก็บรักษา, กลิ่น, ของเสียจากกระบวนการผลิต รวมถึงบรรจุภัณฑ์

ระยะเวลา 1 ปีใช้เวลาพัฒนาสูตรและบรรจุภัณฑ์ จากนั้นดำเนินการขอ อย. เพื่อวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า

แต่ด้วยความเสี่ยงสูง ต้องลงทุนสูง วุฒิกานต์และชนิสราจึงเปิดตัวแบรนด์อย่างไม่เป็นทางการด้วยผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่ง ซึ่งใช้วัตถุดิบแบบและกระบวนการผลิตเดียวกัน แต่เป็นที่รู้จักมากกว่านั่นคือ กราโนล่าซึ่งเป็นธัญพืชอบกรอบแบบไม่ขัดสีหลายชนิด นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง

โจทย์:อร่อยสุขภาพดี

กราโนล่าของไดมอนด์ เกรนส์ เริ่มเปิดตัวเล็กๆ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ผ่านตลาดออนไลน์บนเฟซบุ๊ค ปรากฏว่าการตอบรับดีมากด้วยรสชาติที่หลากหลายรวมถึงการขายเป็นหน่วยขนาด 6 และ 12 ถ้วย ที่หยิบใช้สะดวก จากเป้ายอดขาย 500 ถ้วยต่อเดือน เพิ่มเป็น1 พันถ้วยและขยับขึ้นเรื่อยๆ จนต้องขยายช่องทางจำหน่ายเข้าไปในร้านค้าสุขภาพ

“ในช่วงแรกกลุ่มเป้าหมายของเราคือ ผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ ต้องการอาหารเช้าหรือของว่างที่ไม่มีแป้ง น้ำตาลและไม่เพิ่มคลอเลสเตอรอล ตอนนี้ตลาดที่เราต้องการคือ กลุ่มครอบครัวที่เลือกกราโนล่าเป็นอาหารเช้าสำหรับเด็ก กลุ่มนี้จะไม่ซื้อสินค้าออนไลน์และนิยมเดินห้าง เราจึงต้องนำสินค้าเข้าห้างเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ลูกค้าเก่าหาซื้อได้ง่ายขึ้น โดยไตรมาสแรกของปีจะเข้าไปที่วิลล่ามาร์เก็ต และจะทยอยเข้าสู่โมเดิร์นเทรด ภายในปีนี้” ชนิสรากล่าว

เพื่อตอบโจทย์ใหม่จึงจำเป็นต้องปรับเรื่องของอายุการเก็บรักษาให้อยู่ได้นานขึ้น โดยไม่ใส่สารกันบูดหรือสารเคมี ทางผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีด้านบรรจุภัณฑ์ ทั้งการวิธีการบรรจุ หีบห่อใช้สีทึบขึ้น วัสดุต้องเอื้อให้ออกซิเจนผ่านง่าย ทำให้สินค้ามีอายุอยู่ได้นานกว่า 6 เดือน

ส่วนตลาดต่างประเทศ เขาตั้งใจว่าประมาณปี 2560 จะลองทำตลาดต่างประเทศ นำร่องที่ยุโรป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รับการติดต่อเข้ามาแล้ว แต่ชะลอไว้เพราะต้องการสร้างห้แบรนด์แข็งแกร่งในตลาดในประเทศก่อน

“คาดว่าปีนี้ยอดขายจะเพิ่ม 5 เท่าในไตรมาส 4 จากการขยายช่องทางจำหน่าย ขณะเดียวกันจะพัฒนาคุณภาพและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ คาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าชื่อแบรนด์จะเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากนั้นจึงจะขยายไลน์สินค้าใหม่” วุฒิกานต์กล่าว