ของมันต้องมี! ฝ้ายเบเกอรี่ไต่ระดับสตาร์ทอัพ 'ขนมสุขภาพ'

เทรนด์สุขภาพกำลังมา แล้วแบรนด์ขนมเบเกอรี่เมืองเหนืออย่างฝ้ายเบเกอรี่จะไม่มีได้อย่างไร แถมยังใช้นวัตกรรมมาเสริมแกร่งให้ขนมสุขภาพทั้งอร่อย ทั้งได้ประโยชน์
กว่า 37 ปีของ “ฝ้ายเบเกอรี่” ธุรกิจขนมในพื้นที่ภาคเหนือเป็นที่รู้จักและติดอันดับท็อป แต่เทรนด์สุขภาพที่มาแรงได้ผลักดันให้ต้องมองหานวัตกรรมมาเสริมทัพ จึงขยายสู่ “ฝ้ายเฮลท์” ขนมเพื่อสุขภาพที่ใช้งานวิจัยเป็นกองหนุน
“แนวคิดที่จะนำงานวิจัยเข้ามาเสริมศักยภาพของธุรกิจเริ่มเมื่อปี 2558 จากการพัฒนาน้ำเชื่อมจากหญ้าหวาน เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับทำฝอยทองและเบเกอรี่ ตอบโจทย์ลูกค้าที่กลัวอ้วน และกลุ่มที่ควบคุมปริมาณน้ำตาล” ภก.พิสิฐ อุ่ยรุ่งโรจน์ ประธานบริษัท ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่และอาหารฝ้าย จำกัด เจ้าของแบรนด์ฝ้ายเบเกอรี่ กล่าว
ขนมอ้วนน้อยรักสุขภาพ
แน่นอนว่า ผลวิจัยในครั้งแรกไม่ตอบโจทย์ เพราะน้ำเชื่อมเพื่อสุขภาพมีความเหนียวไม่ได้มาตรฐานที่จะทำฝอยทอง จึงต้องเดินหน้าวิจัย ปรับสูตรหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งสำเร็จและเปิดตัว “ฝอยทองไร้น้ำตาล” ในปี 2559 ซึ่งผลตอบรับก็ดีเกินกว่าที่คาด วางปุ๊บหมดปั๊บแทบขาดตลาดจนต้องขยายกำลังการผลิต และประยุกต์ทำเป็นขนมหลากหลาย เช่น โรลฝอยทอง เอแคลร์ไร้น้ำตาล เป็นต้น
พิสิฐ กล่าวว่า ความสำเร็จในก้าวแรกนี้ ทำให้มองเห็นโอกาสในการขยายไลน์สินค้ากลุ่มขนมเพื่อสุขภาพ จึงเดินหน้าต่อโดยร่วมกับนักวิจัยทั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปี 2560 ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “ฝ้ายเฮลท์” (FaiHealth) ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มีจุดเด่นคือ สารสกัดจากแก่นตะวันที่มีอนนูลิน (Inulin) ซึ่งเป็นน้ำตาลเชิงซ้อน ทำให้แก่นตะวันเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง ไม่ถูกย่อยในกระเพาะอาหารและสำไส้ ทำให้เหมาะกับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพหรือต้องการควบคุมน้ำหนักและปริมาณน้ำตาล
ผลิตภัณฑ์นำร่องของฝ้ายเฮลท์ ประกอบด้วย 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ใช้แก่นตะวันและคอลลาเจน และกลุ่มที่ใช้แก่นตะวันและแพลนท์ สเตอรอล เอสเทอร์ ซึ่งเป็นสารสกัดที่พบในข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวไรย์และพืชอื่นๆ มีคุณสมบัติยับยั้งการดูดซึมคลอเลสเตอรอลจากทางเดินอาหาน นอกจากนี้ ยังต่อยอดงานวิจัยเกี่ยวกับชาเมี่ยง อาหารท้องถิ่นของภาคเหนือ โดยพัฒนาเป็นเบเกอรี่สูตรใหม่ๆ ร่วมกับ ผศ.ชาติชาย โขนงนุช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
“เราอยากจะหยิบเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างนวัตกรรมตามหลักแนวคิดที่ว่า Local Wisdom to Innovation ก็มานั่งคิดว่า อะไรที่จะทำให้นึกถึงเชียงใหม่ และทำออกมาให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของเชียงใหม่โดยเพาะในแง่สุขภาพ ก็เคาะออกมาที่ชาเมี่ยง ซึ่งเป็นพืชอนุรักษ์ของประเทศ” พิสิฐ กล่าว
เขาเลือกใช้สารสกัดจากชาเมี่ยงที่มีสารสำคัญเทียบเท่าชาเขียว ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ สารชะลอวัย คาเฟอีนที่มากกว่ากาแฟถึง 5 เท่า รวมถึงสารสำคัญที่จะช่วยดึงแคลเซียมไปเกาะกระดูกหรือฟัน มาเป็นส่วนผสมในขนมเพื่อสุขภาพ
ทุนสตาร์ทอัพจากม.เชียงใหม่
ฝ้ายเฮลท์เป็นการผสานความรู้และประสบการณ์ด้านเบเกอรี่และงานวิจัยผ่านทุนสตาร์ทอัพของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจัดสรรงบวิจัยไว้ที่ 4-5% ของรายได้รวมต่อปี ทำให้สามารถเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เบเกอรี่เพื่อสุขภาพในมือกว่า 100 สูตร และอนาคตจะมีเจลิโอ้น้ำเมี่ยง และรสชาติอื่นๆ เพิ่ม
“กลุ่มเป้าหมายของเราจะเป็นผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อรังที่ไม่ใช่โรคติดต่อหรือ NCD ทั้งโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและโรคอ้วนลงพุง ที่ต้องใส่ใจเรื่องน้ำหนัก ปริมาณน้ำตาล และไขมัน รวมถึงวัยรุ่น วัยทำงาน ที่ต้องการควบคุมอาหาร ดูแลสุขภาพ แต่ยังไม่อยากอดของหวาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ”
ช่องทางการขายหลักจะใช้โซเชียลมีเดียเป็นฐานหลักผ่านไลน์แอด (Line@) เพื่อที่จะสื่อสารข้อมูลทั้งด้านวิชาการและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ ในขณะเดียวกันก็จะออกงานแฟร์ด้านสุขภาพ รวมถึงออกบูทตามโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อพบปะลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ มุ่งเน้นใช้ข้อมูลวิชาการเพื่อความน่าเชื่อถือ
ทั้งหมดเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือธุรกิจเบเกอรี่ที่ค่อยๆ ลดลงจากแนวโน้มที่คนทั่วโลกหันมาใส่ใจสุขภาพ และมองหาอาหารหรือขนมที่ดีและอร่อยนั่นเอง