แรงทะลุเป้า เงินลงทุนวิจัยไทยทะยานแตะ 1.5 แสนล้าน
เงินลงทุน R&D แตะ 1 % จีดีพี เอกชนทุ่มทุนวิจัยพัฒนาเกินคาดกว่า 120,000 ล้านบาท สวทน. ไม่หวั่นความต้องการบุคลากรใน 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต พุ่งสูง 107,045 ตำแหน่ง เชื่อกระทรวงใหม่ตอบโจทย์ทุกมิติ ทั้งป้อนกำลังคนและดันลงทุน R&D แตะ 1.5 % ในปี 64
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เปิดเผยผลการสำรวจข้อมูลการวิจัยและพัฒนาและกิจกรรมนวัตกรรมของภาคเอกชน รอบปีสำรวจ 2561 แตะ 1 % ของจีดีพี เร็วกว่าที่ตั้งเป้าเผยอานิสงส์จากการตื่นตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผนวกกับมาตรการกระตุ้นของรัฐ อาทิ โครงการนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) การให้ทุนสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs/Startup และการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการ ด้านเอกชนทุ่มทุนวิจัยพัฒนาถึง 123,942 ล้านบาท ยานยนต์ อาหาร ปิโตรเลียมนำโด่ง เร่งปรับปรุงผลิตภัณฑ์เอาใจผู้บริโภค เลขาธิการ สวทน. คาดตั้งกระทรวงใหม่ ช่วยดันลงทุน R&D ทะยานสู่ 1.5 % ของจีดีพีได้ภายในปี 64
ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ เลขาธิการ สวทน. เปิดเผยถึงตัวเลขการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งภาครัฐ และเอกชนว่า ในรอบปีสำรวจรอบ 2561 การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มสูงถึง 155,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากรอบสำรวจปีก่อนหน้า โดยหากเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี คิดเป็นร้อยละ 1 ต่อจีดีพี ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และแตะร้อยละ 1 ของจีดีพี เร็วกว่าที่คาดหนึ่งปี ทั้งนี้ ตัวเลขการลงทุนดังกล่าวแบ่งเป็นการลงทุนของภาคเอกชน 123,942 ล้านบาท และการลงทุนของภาครัฐ 31,201 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนโดยประมาณร้อยละ 80 และร้อยละ 20 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชน พบว่า มีการลงทุนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.80 ต่อจีดีพี โดยเพิ่มจากรอบสำรวจปีก่อนหน้า ที่ภาคเอกชนมีการลงทุน 82,701 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.57 ต่อจีดีพี สอดคล้องกับตัวเลขจำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศ (FTE) ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 21.0 ต่อ ประชากร 10,000 คน
ทั้งนี้ การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมการผลิตที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการวิจัยและพัฒนาสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการลงทุนสูงถึง 18,855 ล้านบาท อุตสาหกรรมอาหาร มีการลงทุน 16,203 ล้านบาท และอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ที่มีการลงทุน 11,721 ล้านบาท
ด้านผลสำรวจภาคบริการที่มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาสูงสุด คือ บริการทางการเงินและประกันภัย มีการลงทุน สูงถึง 6,007 ล้านบาท มาจากการวิจัยและพัฒนาปรับปรุงการบริการใหม่ การพัฒนา Fintech เพื่อนำมาใช้พัฒนาการบริการด้านการเงินให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการ รองลงมาคือ กลุ่มบริการด้านธุรกิจอื่น ๆ (การบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์และสอบเทียบมาตรฐาน) ที่ลงทุนด้วยเม็ดเงิน 4,724 ล้านบาท
สำหรับภาคค้าปลีกค้าส่งที่ลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาสูงสุด คือ ห้าง ร้านสะดวกซื้อ และร้านของชำ โดยมีการลงทุน 10,192 ล้านบาท รองลงมา กลุ่มธุรกิจค้าส่ง ตัวแทนจำหน่าย มีการลงทุน 7,995 ล้านบาท