ศึก'หัวเว่ย-สหรัฐ'พ่นพิษตลาดมือถือ ‘โมบายเอ็กซ์โป’ลุ้นเงินสะพัด2.5พันล้าน

จากผลพวงกรณีพิพาททางการค้าระหว่างหัวเว่ยและสหรัฐที่พ่นพิษทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น และยังต้องรอลุ้นดูว่าโปรโมชั่นลดราคา ส่งเสริมการขายที่ผู้ค้าขนกันมาจะสามารถงัดกำลังซื้อ ทำให้เป้าหมายเงินสะพัด 2.5 พัน

โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนประเทศไทยช่วงนี้ค่อนข้างผันผวนไม่แน่นอน ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น

ชะลอตัดสิน สืบเนื่องมาจากกรณีพิพาททางการค้าระหว่างหัวเว่ยกับสหรัฐ ขณะเดียวกันมีความกังวลว่าแบรนด์จีนรายอื่นๆ จะได้รับผลกระทบจากปัญหาเดียวกันนี้ไปด้วย

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาส่งผลไม่ว่าจะเป็น ไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น เมื่อจะซื้อเครื่องใหม่จะพิจารณาตามความจำเป็นหรือเมื่อเครื่องเก่าพังเป็นหลัก

ส่วนบรรยากาศครั้งปีหลังยังประเมินได้ยาก เนื่องจากยังไม่มีความแน่นอนว่าปัญหาจะจบเมื่อใด แต่ทั้งนี้ผู้บริโภคไทยถือว่ามีกำลังซื้ออยู่ แม้ไม่ซื้อสมาร์ทโฟน ก็หันไปซื้ออุปกรณ์สำหรับเกม และแกดเจ็ทต่างๆ ด้านสถานการณ์การเมืองไม่มีผลต่อตลาด

ดึง'เกมมิ่ง-อีสปอร์ต’ปั๊มยอด

สำหรับมหกรรมโทรศัพท์มือถือ “ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป 2019" ครั้งล่าสุดซึ่งมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 30 พ.ค. - 2 มิ.ย. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา บริษัทคาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 2.5 พันล้านบาทใกล้เคียงกับงานคต้นปี รวม 4 วันมีผู้สนใจเข้างาน 7 แสนราย

ไฮไลต์ที่น่าสนใจมีทั้งโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 90% โปรแกรมผ่อนจากบัตรเครดิต 0% สูงสุด 36 เดือน เครดิตเงินคืน กิจกรรมนาทีทอง โปรโมชั่นบันเดิลเครื่องพร้อมแพ็คเกจจากค่ายมือถือ และครั้งนี้ยังมีอีกสองงานใหญ่ที่จัดพร้อมกันคือ “Thailand Game Expo by AIS eSports” มหกรรมเกมและอุปกรณ์เกมมิ่งที่ใหญ่ที่สุด ร่วมมือกับบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(เอไอเอส) และงาน “Idol Expo” ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในครั้งที่แล้ว และครั้งนี้ได้ขยายเวทีให้ใหญ่ขึ้นภายใต้ชื่องาน “Idol Expo#2 Let’s Continue”

สำหรับสินค้าที่ขายดีและเข้ามาทดแทนยอดขายสมาร์ทโฟนที่อาจลดลง คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการเล่นเกม สัดส่วนกว่า 30% ที่เหลือกระจายไปทั้งสมาร์ทโฟน แกดเจ็ท อุปกรณ์เสริม โดยที่น่าจับตามองอย่างมากคือจากนี้หัวเว่ยจะมีกลยุทธ์ดัมป์ราคามาช่วยกระตุ้นยอดขายหรือไม่

อย่างไรก็ดี มีปัจจัยบวกจากที่งานครั้งนี้อยู่ในช่วงกลางปีที่มือถือระดับกลาง และเรือธงจากหลายแบรนด์เปิดตัวไปหมดเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้เลือกเปลี่ยนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ โดยเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนที่เป็นตัวชี้วัดยังคงเน้นไปที่เรื่องกล้อง ฟีเจอร์การใช้งานที่ฉลาดกว่าเดิม ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นในราคาที่ถูกลง

"ด้วยกระแสที่กำลังมาแรงของอีสปอร์ต สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ ไอเท็มในเกมต่างๆ และโปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่แบรนด์ต่างพยายามจัดมาอย่างเต็มที่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ตลาดคึกคัก อีกด้านน่าจะมีกำลังซื้อจากกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจสินค้าแกดเจ็ทและอุปกรณ์"

'เอไอเอส'ระเบิดศึก‘เกมเอ็กซ์โป’

ด้าน ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า มหกรรม “Thailand Game Expo by AIS eSports” ครั้งนี้น่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน มากกว่านั้นมีส่วนสำคัญช่วยปูทางทำให้วงการอีสปอร์ต อีโคซิสเต็มส์ รวมถึงพันธมิตรค่ายไอทีต่างๆ เติบโต

ส่วนของเอไอเอส แผนงานจากนี้มุ่งนำเสนอเครือข่ายคุณภาพ เปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ ทำให้คอนเทนท์เข้าถึงกลุ่มคนส่วนใหญ่ พร้อมให้การศึกษาตลาด อีกก้าวสำคัญที่สร้างความคึกคักให้กับวงการอีสปอร์ตไทย 

ปัจจุบัน ในประเทศไทยมีผู้เล่นเกมเป็นประจำมากถึง 27.5 ล้านราย หรือ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 40% ของประชากรทั้งประเทศ ขณะนี้การเล่นเกมกำลังพัฒนาไปสู่อีสปอร์ตมากกว่าแค่การเล่น เม็ดเงินในตลาดอีสปอร์ตไทยมีมูลค่ากว่า 2.3 หมื่นล้านบาท แต่ละปีตลาดมีโอกาสเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก

’คอมเซเว่น’แตกแบรนด์’บานานาอีควิบ’

ณัฐนันท์ กีรติกรยศนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “บานานา อีควิบ(BaNANA E-Quip)” เพื่อรุกตลาดเกมมิ่ง โดยวางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านหลัก 5 สาขา และภายในสาขาเดิมร้าน บานาน่าอีกกว่า 20 สาขา ทั่วประเทศ ภายในปี 2562 นี้

เธอกล่าวว่า เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชอบเล่นเกม ทุกเพศ ทุกวัย ไปจนถึงการแข่งขันอีสปอร์ต แนวทางการทำตลาดผลิตภัณฑ์ รวบรวมทุกอุปกรณ์สำหรับการเล่นเกมตั้งแต่พีซี, คอมพ์ดีไอวาย, เกมมิ่งเกียร์, เครื่องเล่นเกมคอนโซลเช่น เพลย์สเตชั่น และเอ็กซ์บ็อกซ์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ บานานาอีควิบจะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อการโฟกัสตลาดเกมมิ่งอย่างจริงจังโดยเชื่อว่าสินค้ากลุ่มเกมมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงมาก

พร้อมประเมินว่า ภาพรวมตลาดไอทีประเทศไทยยังมีแนวโน้มเป็นบวก เนื่องจากเป็นช่วงเปิดภาคเรียน ขณะเดียวกันไอทีเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน