‘ซี’ปักธงตลาดบริการดิจิทัลไทย

‘ซี’ปักธงตลาดบริการดิจิทัลไทย

ซี เดินเกมชิงส่วนแบ่งตลาดบริการดิจิทัลในไทย ปักธงอีคอมเมิร์ซ เกม ดิจิทัลเพย์เมนท์ เผยโมเดลรายได้จากค่าโฆษณา-คอมมิชชั่นยังเป็นช่วงทดลอง จะพยายามไม่ให้ฉุดการเติบโตของตลาด มั่นใจจุดยืนแข็งแรง ไม่หวั่นคู่แข่งบิ๊กอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีน ชูไทยตลาดท็อป 2

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางธุรกิจจากนี้ยังคงปักธงกับตลาดบริการดิจิทัลในประเทศไทย ด้วยแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทั้งอีคอมเมิร์ซ ดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์(เกม) และดิจิทัลเพย์เมนท์ ผ่านช้อปปี้ การีนา และแอร์เพย์

ปีนี้จะมีการลงทุนทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นในช้อปปี้แคมเปญพิเศษตามช่วงเวลา เทศกาล 8.8, 9.9, 11.11 ส่วนการลงทุนโดยรวมจะสอดคล้องไปกับธุรกิจหลักทั้งส่วนของเกม อีสปอร์ต และจะมีการทำงานร่วมกันระหว่างช้อปปี้และแอร์เพย์มากขึ้น

เธอกล่าวว่า การสร้างจุดต่างใช้กลยุทธ์ “3Es” ซึ่งประกอบด้วย “Enlarge” ขยายสัดส่วนของฐานผู้ใช้งาน “Enable” ทำให้เกิดการใช้งานจากผู้บริโภคในวงกว้าง และ “Empower” สร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสังคม ให้ความสำคัญกับทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย อีโคซิสเต็มส์ ขณะเดียวกันเตรียมพร้อมรับมือคู่แข่งรายใหม่ๆ

อย่างไรก็ดี แม้ตัวเลขผลประกอบการของช้อปปี้ยังไม่เป็นบวก แต่มองว่ายังเป็นช่วงของการทำให้ธุรกิจแจ้งเกิดและเติบโต ต้องให้การศึกษาตลาด สร้างความเชื่อมั่น อีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจที่ต้องดูระยะยาว แต่ละตลาดมีความแตกต่าง ดังนั้นคงตอบยากว่าจุดคืนทุนจะเกิดขึ้นเมื่อใด 

"จุดยืนของบริษัทเน้นทำธุรกิจด้วยความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการท้องถิ่น สำหรับโมเดลรายได้ของช้อปปี้ที่มาจากค่าธรรมเนียมและโฆษณา ขณะนี้การเก็บค่าบริการต่างๆ ยังอยู่ในช่วงทดลองเพื่อศึกษาถึงผลตอบรับ ขอยืนยันว่าจะไม่ทำให้ตลาดชะงักหรือฉุดการเติบโต"

จากการณีที่มีคู่แข่งจากจีนเข้ามาลงทุนในไทยในหลายส่วนรวมถึงอีอีซี บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบ และเชื่อว่ายังแข่งขันได้ มองว่าหากผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ดีธุรกิจก็สามารถอยู่รอดได้ ไทยเป็นตลาดที่กำลังเติบโต ปัจจุบันติดอันดับท็อป 2 ของซีกรุ๊ป

ซีเผยว่า ในไทยมีผู้ลงทะเบียนพีซีเกมกับการีนา 35 ล้านราย โมบายเกม 40 ล้านราย ผู้ใช้งานแอร์เพย์ 7.5 ล้านราย ปีหน้าหวังทำให้ได้ถึง 10 ล้านราย มีจุดรับบริการชำระเงินมากกว่า 2 แสนจุด ยอดดาวน์โหลดช้อปปี้กว่า 30 ล้านครั้ง

กูเกิล-เทมาเส็ก คาดการณ์ไว้ว่า มูลค่าการซื้อขาย(จีเอ็มวี) บนดิจิทัลแพลตฟอร์มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2561 ไปเป็น 2.4 แสนล้านดอลลารในปี 2568

ที่น่าสนใจ Hootsuite และ วีอาร์โซเชียล เผยว่า ไทยเป็นประเทศที่ชาวเน็ตมีพฤติกรรมที่แอคทีฟติดอันดับ 3 ของโลก เฉลี่ยใช้งานต่อวันราว 9 ชั่วโมง มากกว่านั้นเป็นตลาดที่เปิดรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ รายได้จากอุตสาหกรรมเกมติดอันดับ 19 ของโลก

ขณะที่ ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค สพธอ.คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะเติบโตอีกไม่น้อยกว่า 20% นับเป็นขาขึ้นที่นอกจากโมบายคอมเมิร์ซขยายตัว เทรนด์ตลาดยังมุ่งไปที่โซเชียลคอมเมิร์ซ โดยมี 4 ธุรกิจหลักที่เป็นตัวจักรขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัลคือ อีคอมเมิร์ซ เกม การท่องเที่ยว และเดลิเวอรี