อว.เปิดตัว 2 โครงการ 8,600 ล้านบาทแก้วิกฤตบัณฑิตตกงานกว่า 5 แสนคน
โครงการ “ยุวชนสร้างชาติ” สร้างงานสร้างอาชีพรับบัณฑิตตกงาน รุ่นแรก 50,000 คนไปเป็น “บัณฑิตอาสา” ทำงานร่วมกับชาวบ้าน 1 ปีให้เงินเดือน 15,000 บาท และรับนักศึกษาชั้นปี 3-4 ไปเป็น "อาสาประชารัฐ" ทำงานกับชาวบ้าน 1 ภาคการศึกษาแถมค่าเบี้ยเลี้ยง 5 พันบาท
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษาฯ จะจัดทำโครงการ ยุวชนสร้างชาติ เพื่อลดหรือชะลออัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของประเทศและการมีงานทำของประชาชน
ปัจจุบันจากการสำรวจพบว่า มี บัณฑิตตกงานมากถึง 370,000 คน และ ในเดือน มี.ค.2563 หรือในอีก 4 เดือนข้างหน้า จะมีบัณฑิตกำลังจะจบจากมหาวิทยาลัยอีก 3 แสนคน ซึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะตกงาน ทำให้มีบัณฑิตกำลังจะตกงานรวมกว่า 5 แสนคน
ดังนั้น รัฐบาลจึงมอบให้กระทรวงการอุดมฯ จัดทำโครงการ ยุวชนสร้างชาติ ซึ่งจะมี 3 โครงการย่อย ประกอบด้วย บัณฑิตอาสา อาสาประชารัฐและกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าว โดยจะใช้งบประมาณ จำนวน 8,600 ล้านบาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้ว ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการในเดือน ธ.ค.นี้ และเชื่อว่าโครงการ ยุวชนสร้างชาติ จะช่วยลดอัตราการว่างงานของบัณฑิตใหม่ในสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ ที่สำคัญจะก่อให้เกิดอาชีพใหม่ด้วย
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า โครงการ ยุวชนสร้างชาติ มีเป้าหมายคือเยาวชนวัยหนุ่มสาวในรั้วมหาวิทยาลัยและบัณฑิตจบใหม่ โดยวิธีการแก้ปัญหาจะผ่าน 3 โครงการย่อย คือ
1.โครงการ บัณฑิตอาสา เพื่อช่วยบัณฑิตตกงาน ใช้งบประมาณ จำนวน 8 พันล้านบาท รับจำนวนกว่า 50,000 คน เพื่อให้ลงไปพัฒนาพื้นที่ในชุมชนร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ โดยจะรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี ระยะเวลา 12 เดือน โดยจะได้เงินเดือน 10,000 - 15,000 บาท สามารถสมัครได้ที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทั้งนี้ โครงการ บัณฑิตอาสา จะมีหลักการคล้ายๆ กับโครงการบัณฑิตอาสาของอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ส่งนักศึกษาที่จบมหาวิทยาลัยไปทำงานพัฒนาชนบท
2. โครงการอาสาประชารัฐ งบประมาณ จำนวน 500 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักศึกษา ปี 3 – 4 จำนวน 10,00 คน ใช้ระยะเวลาทำงาน 4 – 5 เดือนหรือ 1 ภาคเรียน ให้ไปโครงงานร่วมกับชาวบ้านและสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ทั้งหมด โดยจะมีค่าเบี้ยเลี้ยงให้คนละ 5 พันบาท
และ 3. โครงการกองทุนยุววิสาหกิจเริ่มต้น งบประมาณ จำนวน 100 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายจะเป็นนิสิตนักศึกษาร่วมกับบุคลากรมหาวิทยาลัย ใช้ระยะเวลา 3 – 5 ปี เพื่อให้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทดลองจัดตั้งสตาร์ทอัพ พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ให้เกิดเป็นนวัตกรรมทางธุรกิจ นวัตกรรมสังคมและนวัตกรรมสร้างสรรค์
โครงการ ยุวชนสร้างชาติ จะสามารถช่วยลดจำนวนบัณฑิตตกงานได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเริ่ม โครงการ อาสาประชารัฐ ก่อนในเดือน ธ.ค.นี้ นำร่องในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยให้นักศึกษา 500 คน จัดกลุ่มทำงานเป็นทีม 8-10 คน มาจากรวมตัวของหลากหลายคณะ นำความรู้ที่เรียนมาไปทำงานร่วมกับชาวบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนในมิติต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านความยากจน ความเหลื่อมลํ้า และปัญหาคุณภาพชีวิต
โดยนักศึกษาเหล่านี้ จะต้องพักอาศัยในชุมชนที่ทำโครงการ เป็นเวลา 4-5 เดือน คิดเป็น 1 ภาคเรียน เรียนรู้ร่วมกับชุมชน มีการทำงานกับชุมชนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามหลักวิชาการ มีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีม และมีความร่วมมือกับหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวง อว. รวมถึงหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ซึ่งนักศึกษาสามารถเทียบโอนหน่วยกิตการลงพื้นที่ได้เทียบเท่ากับที่เข้าเรียนในชั้นเรียนทั้งหมด
จากนั้นจะเริ่มโครงการ บัณฑิตอาสา ในทั่วประเทศซึ่งจะต้องไปขึ้นทะเบียนกับสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่และทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 8 – 10 คน แต่ละกลุ่มจะได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่ชุมชน 1 ชุมชนและต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขสำคัญคือสมาชิกในกลุ่มทุกคนจะต้องพำนักอาศัยในชุมชนนั้นเป็นระยะเวลา 1 ปีเพื่อเรียนรู้ร่วมกับชาวบ้านและทำโครงงานตามที่ได้รับมอบหมาย