'ไอทียักษ์ใหญ่' ในไทย ยกระดับมาตรการรับมือ 'โควิด-19'
ตรวจ คัดกรอง พนักงานที่มีความเสี่ยง ออกกฏใส่หน้ากากอนามัย เพิ่มการทำความสะอาด งดเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งเพื่องาน หรือส่วนตัว พร้อมเปิดให้พนักงานบางส่วนทำงานผ่านเครื่องมือออนไลน์ได้จากที่บ้าน
หัวเว่ย ใช้มาตรการสูงสุดรับมือ
รายงานข่าวจาก "หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ระบุว่า มาตรการสำคัญที่นำมาบังคับใช้ ได้แก่ การงดหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศจีนโดยไม่จำเป็น และหากเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ห้ามมิให้เข้าที่ทำงานโดยให้เฝ้าระวังอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการป่วยใด ๆ ก่อนกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง
รวมไปถึงการดูแลรักษาสุขอนามัยทั่วไปเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการล้างมือด้วยเจลฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งก่อนเข้าสำนักงานและโรงอาหาร บริการแจกหน้ากากอนามัย และการกำหนดให้พนักงานทุกคนและผู้ที่มาติดต่อ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เป็นต้น มาตรการป้องกันเหล่านี้บังคับใช้กับพนักงานทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ด้วย พนักงานและผู้มาติดต่อต้องสวมหน้ากากอนามัย โดยมีบริการแจกหน้ากากอนามัยให้ทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่สำนักงาน
จัดอบรมให้ความรู้และวิธีการป้องกันเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลพญาไท 2 ทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ทุกวัน เช่น ที่จับประตู ลิฟท์ และในส่วนที่ต้องสัมผัสบ่อย ๆ รวมไปถึงการฆ่าเชื้อโรคในอากาศในสำนักงาน โรงอาหาร ตลอดจนยานพาหนะของบริษัท นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วจะต้องทิ้งลงในถังพิเศษ
GETให้พนง.ที่มีปัญหาสุขภาพทำงานที่บ้าน
นายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอพพลิเคชั่นเก็ท (GET) กล่าวว่า มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานที่ออฟฟิศวันละ 2 ครั้ง หากพบคนที่มีความเสี่ยง จะให้พนักงานไปพบแพทย์ทันที ทั้งจัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลและหน้ากากอนามัยไว้ให้ ขณะที่ พนักงานที่ตั้งครรภ์หรือมีปัญหาสุขภาพ สามารถเลือกที่จะทำงานที่บ้านได้ เพื่อเป็นการป้องกัน
ซิสโก้-เน็ตแอพ หนุนทำงานผ่านเทคฯ
นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า ไม่สนับสนุนให้พนักงานเดินทางไปยังประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ แต่ไม่ได้มีนโยบายห้าม โดยซิสโก้สนับสนุนให้ประชุมผ่าน WebEx แทนการที่ต้องเดินการไปประชุมต่างประเทศ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมประชุมกับบุคคลภายนอกที่มีขนาดมากกว่า 40 คนถูกขอให้เลื่อนออกไป โดยให้ประชุมแบบเวอร์ชวลแทน โดยเดือนมีนาคมและเมษายนทางซิสโก้จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ผู้มาเยี่ยมชมและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในออฟฟิศจะได้รับการขอให้บันทึกข้อมูลประจำตัวในแบบฟอร์มแจ้งประวัติการเดินทางในระบบการจัดการข้อมูลผู้เยี่ยมชม ส่วนพนักงานที่เดินทางไปยังประเทศเสี่ยงจะต้องกักตัวเองและทำงานจากที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน
ด้านนายวีระ อารีรัตนศักดิ์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตแอพ ประจำประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซียและประเทศไทย กล่าวว่า ได้เริ่มต้นประกาศใช้มาตรการป้องกันที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและให้คำแนะนำแก่พนักงานเกี่ยวกับการทำงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว ซึ่งอีกหนึ่งมาตรการคือ การอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านผ่านเทคโนโลยีต่างๆ โดยอาศัย Virtual Meeting"
ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ยกเลิก Business Trip
ด้านนางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภายในองค์กรได้มีมาตรการป้องกันโรคโควิด -19 ดังนี้ ประกาศงดการเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงยกเลิก Business Trip ในต่างประเทศทั้งหมด พนักงานที่เดินทาง หรือกลับมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยง จะต้องกักตัวอยุาบ้าน 14 วัน (work from home) และวันกลับมาทำงานจะต้องมี medical clearance จากแพทย์มายืนยันด้วย
ขณะที่ มีเครื่องวัดอุณหภูมิคอยวัดพนักงาน ถ้าใครอุณหภูมิสูงเกินมาตรฐานให้กลับบ้านทันที พร้อมทั้งแจกชุดดูแลสุขภาพเบื้องต้นให้กับพนักงาน ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย+สเปรย์แอลกอฮอล์ +วิตามินซี
นูทานิคซ์ ออกมาตรการป้องพนง.
นายทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทยของนูทานิคซ์ กล่าวว่า "นูทานิคซ์ให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความปลอดภัยของพนักงาน, คู่ค้า และลูกค้า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 บริษัทได้ประกาศแนวทางรับมือ โดยมีการควบคุมกิจกรรมต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือแพร่กระจายของเชื้อ
เช่น การเดินทางของพนักงานไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรค การจัดกิจกรรม และงานสัมนาจะต้องได้รับการพิจารณาและได้รับอนุมัติจากหัวหน้างาน พนักงานที่ไปและกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะต้องปฏิบัติงานในแบบ Work From Home โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ