'สรรพชัย หุวะนันทน์' ลงสมรภูมิ 5G ท้ารบเอกชน

'เราจ่ายโบนัส 5 เดือนมากสุดตั้งแต่มีก่อตั้งบริษัท'

ถูกหมายมั่นปั้นมือให้ดำเนินธุรกิจสอรับกับแผนงานของรัฐบาล ในด้านการบริการโครงสร้างพื้นฐาน คลาวด์ภาครัฐ รวมถึงเป็นผู้หาโซลูชั่นมาพัฒนาในสมาร์ทซิตี้ “กสท โทรคมนาคม” ยังมีอีกบทบาทในแง่ของการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคมกับ “ขาใหญ่” ค่ายมือถือ 3 ราย บวกกับเพื่อนบ้านอย่าง “ทีโอที”

ซึ่งหลังจากที่มีการประมูลคลื่นความถี่ 5จีไปแล้วเมื่อกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ชื่อของ กสท โทรคมนาคม ก็ถูกพูดถึงเพราะเป็นรัฐวิสาหกิจที่กล้าเคาะราคาแย่งความถี่กับ “เอไอเอส” ไปถึงเกือบ 20 รอบ วันนี้ “กรุงเทพธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “ซีอีโอ”เกี่ยวกับแผนงานต่อจากนี้

จ่ายค่าคลื่นลุยสนามเต็มตัว

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 39,651 ล้านบาท กำไรสุทธิคาดไว้ที่ 400 ล้านบาท โดยธุรกิจที่สร้างรายได้หลักจะมาจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่กว่า 30% หลังจากการที่บริษัทเข้าร่วมประมูลและได้คลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2x10 เมกะเฮิรตซ์ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในราคาประมูลรวม 36,707.42 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

โดยจะเริ่มชำระค่าคลื่นความถี่งวดแรกในปี 2564 จำนวน 3,670.74 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และทยอยจ่ายเป็นรายปีต่อไปอีก 9 ปี (ปี 2565-2573) ระยะเวลาใบอนุญาตเป็นเวลา 15 ปี นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาต

ทั้งนี้ ในปี 2563 บริษัทวางแผนที่จะลงทุนเครือข่าย 4จี/5จี เพิ่มขึ้นต่อยอดจากเสาโทรคมนาคมที่บริษัทมีอยู่แล้ส 20,000 ต้น เพื่อให้สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกพื้นที่ และพัฒนาต่อยอดเพื่อให้บริกาด้วยเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS) ซึ่งจะทำให้คลื่น 700 ที่ประมูลได้มาให้บริการได้อย่างดีเยี่ยม

สยายปีกพันธมิตรเสริมแกร่ง

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมเพื่อลดภาระการลงทุน และสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการให้ผู้ให้บริการรายอื่นเช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานทั้งในส่วนของเสาโทรคมนาคมและไฟเบอร์ (Passive Infrastructure Sharing) โดยปัจจุบันบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงไตรภาคีกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT และ edotco Group Sdn Bhd ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของมาเลเซีย

และยังหาพันธมิตรธุรกิจเพื่อให้การลงทุนอุปกรณ์ 4จี/5จี เกิดประสิทธิภาพและประหยัดสูงสุด ผ่านการแชร์ริ่ง (Active Infrastructure Sharing) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ 1 ใน 3 ราย ของไทย

"การทำ Active Infrastructure Sharing ใช้งบลงทุนอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท แต่หากร่วมกับพันธมิตรจะทำให้ประหยัดงบลงทุนลงกว่า 40% โดยจะเสนอคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ช่วงเดือน พ.ค.2563 และคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.2563 เริ่มวางโครงข่ายในไตรมาส 3/2563 ใช้เวลาประมาณ 8-10 เดือน และจะเริ่มให้บริการได้กลางปีหน้า”

158323670653

โชว์เป๋าตุงรับทรัพย์งบปี62

ส่วนผลการเนินงานปี 2562 ที่ผ่านมา เขา ระบุว่า บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 87,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปี 2561 ที่มีรายได้อยู่ที่ 63,445 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 48,865 ล้านบาท ลดลง 6.6% จากปี 2561 ที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 52,336 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 38,668 ล้านบาท (ก่อน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ตรวจสอบ) เพิ่มขึ้น 248% จากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,109 ล้านบาท

“คาดว่าจะสามารถจ่ายโบนัสจากผลการดำเนินงานงวดปี 2562 ให้แก่พนักงานได้อย่างน้อยจำนวน 5 เดือน ซึ่งเป็นจำนวนโบนัสสูงสุดที่พนักงาน กสทฯ เคยได้รับตั้งแต่แปรรูปมาเป็นมหาชน” พ.อ.สรรพชัย กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการควบรวมกิจการระหว่างกสทฯและบมจ.ทีโอที เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ เอ็นที ในวันนี้ (4 มี.ค.) จะมีการประชุมคณะทำงานใหญ่ 3 คณะ ได้แก่ ด้านกฎหมาย ด้านบุคลากร และด้านการเงิน ซึ่งตามแผนงานต้องแล้วเสร็จใน 6 เดือน