‘เนทติเซนท์’ ชูคลาวด์ รับมือชัตดาวน์เมือง
‘เนทติเซนท์’ แนะยุทธวิธีรับมือชัตดาวน์เมืองด้วยเทคโนโลยี พลิกวิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาสปฏิรูปซอฟต์แวร์องค์กร ชี้ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นทางรอดธุรกิจ “คลาวด์“ เปิดทางทำงานได้ไม่สะดุด ทุกที่ ทุกเวลา
“เวิร์คฟรอมโฮมไม่ได้เป็นเพียงการรับมือผลกระทบจากโควิด -19 เท่านั้น แต่ยังถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การทำงานแห่งอนาคต มากกว่านั้นการปฏิรูประบบซอฟต์แวร์ครั้งนี้ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปในตัว รวมถึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เตรียมความพร้อมสำหรับรับมือวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต”
เนทติเซนท์ขอนำเสนอแนวทางการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในเบื้องต้นเพื่อให้แต่ละองค์กรมีความพร้อมสามารถรับมือกับวิกฤติในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.ระบบโทรศัพท์ปรับจากระบบอนาล็อกเป็นระบบไอพีโฟน(IP PBX) 2.แพลตฟอร์มในการทำเอกสารออนไลน์ (Online Document Software) 3.กำหนดแพลตฟอร์มแชทออนไลน์ที่จะใช้ในองค์กรร่วมกัน ซึ่งอาจต้องศึกษาถึงคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป สามารถเลือกตามความเหมาะสมและความคุ้นชินในการทำงานของพนักงานเป็นหลัก
ขณะที่ 4.แพลตฟอร์มสำหรับการประชุมทางไกล หรือ วีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ 5.แพลตฟอร์มสำหรับใช้ในการแชร์ไฟล์งาน 6.ระบบบริหารโครงการ (Project management system) 7.จัดเตรียมระบบบริหารทรัพยากรบุคคลผ่านคลาวด์ (HR Cloud system ) แทนการสแกนลายนิ้วมือหรือการตอกบัตรในที่ทำงาน
นอกจากนี้ 8.ระบบซีซีทีวี คลาวด์ หรือ กล้องวงจรปิดในองค์กรที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้ เพื่อใช้สำหรับตรวจสอบภายในสำนักงานกรณีต้องให้พนักงานทำงานที่บ้านทั้งหมด 9.ระบบอนุมัติการทำงานต่างๆ (Workflow Approval Process) และ 10.ปรับองค์กรเข้าสู่ระบบคลาวด์อีอาร์พีและอินวอยซ์ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์(e-Tax Invoice)