'ค่ายมือถือ' แนะลูกค้าเน้นใช้บริการช่องทางดิจิทัล-แอพ ยันให้บริการ 24 ชม.
ค่ายมือถือแนะใช้บริการผ่านแอพ และ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ได้ตลอด 24 ชม.หลังศูนย์บริการในห้างฯ กรุงเทพฯ และปริมลฑล ปิดหลายแห่ง
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แจ้งปิดศูนย์บริการชั่วคราว ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 12 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ตามประกาศกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ลูกค้าดีแทคยังคงสามารถใช้บริการจากจุดให้บริการอัติโนมัติได้ที่บริเวณที่ตั้งร้านค้า ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อร้านที่ปิดให้บริการชั่วคราวได้ที่เว็บไซต์ของดีแทค https://www.dtac.co.th/md-info/close-shop.php ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 2) ที่สั่งปิดห้างสรรพสินค้า ตลาด ทั่วกรุงเทพฯ เป็นเวลา 22 วัน เพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ลูกค้าจะได้รับบริการจากดีแทค ทางออนไลน์ทุกช่องทาง โดยดีแทค แอพพลิเคชัน พร้อมให้ลูกค้าใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเช็คค่าใช้บริการ ชำระค่าบริการ เปลี่ยนโปรโมชันแพ็กเกจ สมัครโปรเสริม โดยดาวน์โหลดดีแทค แอพ ได้จาก Google play Store สำหรับมือถือแอนดรอยด์ หรือ apple store สำหรับดาวน์โหลดแอปบน iPhone และอุปกรณ์ iOS
ลูกค้าสามารถเลือกซื้อมือถือและสินค้าพร้อมบริการจัดส่งฟรี ผ่านดีแทค ออนไลน์ สโตร์ ที่ https://www.dtac.co.th/device/ดีแทค Call Center พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ผ่านช่องทาง คือ1. IVR 1678 ครั้งละ 3 บาท (ไม่รวม vat) ,*1806 ฟรี ( สำหรับ Platinum Blue member)2. SMS 16789 (ใช้ได้เฉพาะลูกค้าดีแทคไตรเน็ท) ค่าบริการข้อความละ 1 บาท (ไม่รวม Vat)3. Line ชื่อว่า @dtaccallcenter4. dtac online community , Facebook ad ,Twitter และ Pantip
ทั้งนี้ ดีแทคมี Call Center ที่พร้อมเต็มที่ในการให้บริการลูกค้า 4 แห่ง คือ Call Center อาคารจามจุรี สแควร์ Call Center รังสิต คลอง 5 Call Center ศรีนครินทร์ และ Call Center เชียงใหม่
นางสาวทิพยรัตน์ แก้วศรีงาม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานขาย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ขอให้ลูกค้ามั่นใจว่า ดีแทคจะไม่หยุดให้บริการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการดีแทคอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด - 19 ทั้งนี้ ดีแทคกำลังเห็นแนวโน้มการใช้งานช่องทางดิจิทัลเพิ่มสูงมากขึ้น และเรากำลังเสริมกำลังการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการการใช้งานบริการที่เพิ่มสูงขึ้น”
ด้าน ทรู มั่นใจบริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้มีการปิดห้างสรรพสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าใช้บริการหลังการขายและซื้อสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์ และ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม
• แอพพลิเคชัน True iService ที่รวบรวมทุกบริการ ทั้งทรูมูฟ เอช ทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์ หรือบริการอื่นๆจากทรู ตรวจสอบรายละเอียดการใช้บริการได้ตามรอบบิล ที่สำคัญยังชำระค่าบริการได้ทันที รวดเร็ว ทันใจ ไม่ยุ่งยาก และยังสามารถซื้อแพ็คเกจเสริม หรือ เติมเงิน ได้ด้วย
• บริการ “มะลิ” เพื่อนรู้ใจ ผ่านไลน์ทรูมูฟ เอช พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้งาน สอบถามค่าบริการ แจ้งปัญหาการใช้งาน และเปลี่ยนแพ็กเกจ เพิ่มเพื่อนง่ายๆที่ bit.ly/2xbJfMy หรือ ID Line : @truemoveh
• True ID แอปเดียวครบสุด ทุกความสนุกและสิทธิพิเศษ พร้อมเชื่อมต่อบริการทางการเงินผ่านทรูมันนี่ ทั้งเติมเงินและชำระค่าบริการ• สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ wemall.com พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้าน
• หรือเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการหลังการขายได้ที่ True Shop in Shop ในร้าน 7-Eleven ที่มีกว่า 850 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ร้านทรูช้อปภายในอาคารสำนักงานต่างๆ และสาขาทั่วไปในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึง ร้านทรูช้อปในต่างจังหวัด ยังเปิดให้บริการตามปกติ ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ทรู คอลล์เซ็นเตอร์ โทร 1242 ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ได้ประชาสัมพันธ์ ผ่านทางไลน์ถึงลูกค้า แนะนำให้ใช้บริการผ่านแอพ My AIS หรือ https://myais.ais.co.th/ ทั้งเช็คยอด จ่ายบิล เต็มเงิน ซื้อแพคเก็จ ได้ตลอด 24 ชม.
รวมไปถึง AIS Online Store ให้บริการสั่งซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้แก่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม และอุปกรณ์ IoT พร้อมบริการส่งถึงบ้าน ซึ่งจัดโปรโมชั่นพิเศษ ส่งฟรี ไม่มีขั้นต่ำ วันนี้ - 31 มีนาคม 2563
AIS Contact Center 1175 ให้บริการข้อมูล แนะนำการใช้บริการต่างๆ และแก้ปัญหาต่างๆ ให้ลูกค้า ส่วนลูกค้าองค์กร ติดต่อผ่านช่องทาง 1149 พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ บนช่องทาง Social Media
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “ในขณะนี้ เอไอเอส ได้เตรียมความพร้อมในทุกช่องทางเพื่อที่จะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและเต็มที่ที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและคนไทย ตลอดจนพนักงานทุกคน ให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปด้วยกัน จากที่หน่วยงานภาครัฐยกระดับการเฝ้าระวังโดยการปิดสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งหมายรวมถึง AIS SHOP, Serenade Club และ AIS Telewiz ในพื้นที่ซึ่งมีการประกาศปิด
โดยลูกค้าทุกท่าน สามารถตรวจสอบข้อมูล AIS Shop, Serenade Club และ AIS Telewiz ที่หยุดทำการชั่วคราวได้ทาง
http://m.ais.co.th/closedforcovid19
ขณะเดียวกัน เพื่อให้การใช้บริการต่างๆ สามารถเดินหน้าได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกค้าสามารถใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายๆ หลากหลายช่องทาง ตลอด 24 ชั่วโมง”
“พร้อมกันนี้ เรายังได้เสริมกำลังทีมงานวิศวกร และงานบริการ พร้อมสแตนบายดูแลประสิทธิภาพเครือข่ายทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งส่วนกลางและศูนย์บริหารเครือข่ายส่วนภูมิภาค เพื่อให้พร้อมแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ขอให้ลูกค้าทุกท่านเชื่อมั่นว่าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เราจะดูแลเครือข่ายและงานบริการที่ดีที่สุดตลอด 24 ชั่วโมง อย่างแน่นอน” นายปรัธนา กล่าวสรุป