ในยุค 4.0 นี้การเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นจะกลายเป็นเรื่องปกติทั้งในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการปฎิรูปธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก
เรากำลังเข้าใกล้ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งหมายถึงยุคที่รูปแบบการใช้ชีวิต เปลี่ยนจากเดิมที่เราใช้เครือข่ายเพื่อการติดต่อสื่อสารทั่วไป กลายเป็นการที่มีเครือข่ายเป็นส่วนร่วมในการดำเนินชีวิตประจำวันในทุกๆเรื่องอย่างแยกออกเสียมิได้ ในยุค 4.0 นี้การเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นจะกลายเป็นเรื่องปกติทั้งในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการปฎิรูปธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก
“เดวิด ออกซฟอร์ด” ผู้อำนวยการบริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลกระทบนี้จะส่งผลอย่างมหาศาลต่อตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังมุ่งยกระดับมูลค่าทาง เศรษฐกิจ และขีดความสามารถแข่งขันในระดับโลก ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำในภูมิภาคนี้ โดยมีการนำแผนไทยแลนด์ 4.0 มากระตุ้นให้เกิดการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ และนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้พัฒนาประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงจากภาวะกับดักรายได้ปานกลาง
เทคโนโลยีหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างเด่นชัดในแผนไทยแลนด์ 4.0 คือ เทคโนโลยี 5จี ซึ่งสามารถก่อให้เกิดเครือข่ายสื่อสารที่ชาญฉลาดและสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนทั้งในด้านความปลอดภัยและคุณภาพชีวิต
5จี สามารถสื่อสารข้อมูลปริมาณมากได้รวดเร็ว มีความหน่วงต่ำ อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อที่หนาแน่น ซึ่งทำให้เกิดการประยุกต์ใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ ตั้งแต่การใช้งานอุปกรณ์ร่วมกับอินเทอร์เน็ต หรือไอโอที เพื่อการทำอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม เช่น อุตสาหกรรมการเกษตรไปจนถึงระบบเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตลอดจนแปลงบริการต่างๆ ของภาครัฐให้อยู่บนระบบดิจิทัลสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะก่อให้ เกิดความยั่งยืนและปลอดภัยให้แก่ทุกสังคมในประเทศ
จับตา อาชญากรรมเทคฯยุค5จี
ระบบความปลอดภัยต้องตามให้ทันการบริการของเครือข่ายสื่อสาร ยิ่งพึ่งพาเครือข่ายมากเท่าไหร่ ต้องยิ่งมั่นใจว่าเครือข่ายได้รับการป้องกันอย่างดีเท่านั้น ยุคนี้เครือข่ายต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยติดตั้งอยู่ในเครือข่ายตั้งแต่แรก ก่อนการใช้งาน ทั้งเครือข่ายจะเป็นเหมือนตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับขนาดใหญ่ คอยดูแลโครงสร้างและการให้บริการของเครือข่ายให้ปลอดภัย
ในยุค 5จี อาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนจากคอมพิวเตอร์ ไปสู่โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ไอโอที และอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ อุปกรณ์เหล่านี้ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายสื่อสารของผู้ให้บริการโทรคมนาคม จะมีจุดอ่อนใหม่เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของจำนวนอุปกรณ์ไอโอที
“หมายถึงในอนาคตอันใกล้นี้การใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านของเรา จะข้องเกี่ยวกับการใช้ซิมการ์ดในการเชื่อมต่อ ซึ่งจะทำให้เกิดจุดอ่อนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเมี่ออุปกรณ์สูญหายหรือถูกโจรกรรม”
ออกซฟอร์ด กล่าวว่า ด้วย 5จี ระบบเครือข่ายสื่อสารจะทำงานที่ซับซ้อนขึ้น การให้บริการที่หลากหลายกว่า แต่ก่อน การให้บริการเครือข่ายแบบแยกส่วน (Slicing) จะมีความแพร่หลาย ผู้ให้บริการสามารถแบ่งส่วนของเครือข่ายสื่อสารหลักให้บริการแก่ผู้ให้บริการรายอื่น หรือบริษัทหรือองค์กรต่างๆ เครือข่ายแยกส่วนนี้จะเพิ่มพื้นที่ที่อาจถูกโจมตีได้ง่าย ผู้ให้บริการต้องเพิ่มการป้องกันมากขึ้น
‘แมชีนเลิร์นนิ่ง’วิเคราะห์การคุกคาม
สิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะให้ได้มาซึ่งความปลอดภัยที่มีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับเครือข่ายแบบแยกส่วนของระบบ 5จี คือ การเข้าถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลสื่อสารตั้งแต่อุปกรณ์สื่อสารผ่านไปยังเครือข่ายสื่อสารจนถึงระบบคลาวด์ หากระบบไม่สามารถเก็บ หาความสัมพันธ์ และวิเคราะห์ข้อมูลได้ ก็อาจทำให้การคุกคามบางอย่างหลุดรอดการตรวจจับไปได้
เพราะฉะนั้นในระบบ 5จี ทั้งเครือข่ายสื่อสารจะทำตัวเป็นเสมือนเซ็นเซอร์ (ในความเป็นจริงคือทำงานเป็นกลุ่มเหมือนกับเซ็นเซอร์หลากหลายรูปแบบประกอบกัน) ที่คอยรวบรวมข้อมูลจากทุกๆเครือข่ายแยกส่วน (slice) และทุกๆอุปกรณ์ในเครือข่ายสื่อสารแล้วนำมา วิเคราะห์เพื่อให้เกิดการป้องกันที่สมบูรณ์แบบสูงสุดตลอดเวลา
ระบบปฎิบัติการความปลอดภัยของ 5จี ต้องมีความสามารถคาดการณ์และตอบสนองแบบอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าจะต้องมีการใช้แมชชีนเลิร์นนิ่ง วิเคราะห์แบบหลายมิติ ผสานกับคลังข้อมูลการคุกคามต่างๆ
การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจึงควรฝังอยู่ในระบบเครือข่ายสื่อสาร เพื่อเป็นการปกป้องข้อมูลและองค์ประกอบโครงสร้างของเครือข่ายสื่อสาร ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ การทำงานเป็นขั้นตอนโดยอัตโนมัติคือหัวใจของเรื่องนี้ เปลี่ยนการป้องกันแบบตั้งรับเดิม ให้เป็นการจัดการภัยคุกคามที่มีความแม่นยำ รวดเร็ว และปรับแต่งได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
‘5จี’ ต้องมาพร้อมซิเคียวริตี้ขั้นสูง
ผู้ให้บริการฯ ย่อมต้องการนำบริการ 5จี ไปสู่ตลาดผู้บริโภคทุกกลุ่มเพื่อให้เกิดรายได้คุ้มกับมูลค่าที่ลงทุน ไปกับระบบ ดังนั้นผู้ให้บริการฯ จำเป็นจะต้องมีการรักษาความปลอดภัยที่ทั่วถึงเพื่อป้องกันภัยคุกคาม ขั้นสูงหรือรุนแรง ระบบรักษาความปลอดภัยของ 5จี แบบใหม่จะผสมผสานและจัดการกันโดยอัตโนมัติ โดยมองทั้งเครือข่ายเป็นเหมือนเซ็นเซอร์ ข้อมูลที่อยู่ในระบบจะถูกนำมาใช้ในระดับที่สูงขึ้นกว่าที่เคย
“เราคาดหวังที่จะเห็นโครงสร้าง 5จี ที่ยืดหยุ่นในการให้บริการใหม่ๆและแข็งแกร่งมั่นคงเพื่อต้านภัยไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการเปิดให้บริการ 5จี เชิงพาณิชย์ในปีนี้” ออกซฟอร์ด ทิ้งท้าย