'ทรูมันนี่' เขย่าพีโลน รุกปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0%
‘ทรู มันนี่’ ควง ‘แอสเซนด์ นาโน’ บุกสมรภูมิสินเชื่อรายย่อยยุคดิจิทัล เปิด “Micro Credit บริการยืมก่อน คืนทีหลัง” ครั้งแรกในไทย เจาะฐานลูกค้าทรูมูฟ เอช รายเดือน 8.6 ล้านราย และผู้ถือบัตรทรูการ์ด ก่อนขยายสู่ลูกค้ากลุ่มอื่น ปลุกเทรนด์อีวอลเล็ตบูม
จัดวงเงินสูงสุดไม่เกิน “หมื่นบาท” ผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน ดอกเบี้ยเดือนแรก 0% จากนั้นคิดดอกเบี้ยปกติ 24% ต่อปี เผยยอดใช้จ่ายผ่านทรูวอลเล็ตยังโตต่อเนื่อง ปี 62 ทะลุ 1.6 แสนล้านบาท ปีนี้หวังเห็นตัวเลขโตเพิ่ม 50%
วิกฤติโควิดส่งผลให้สมรภูมิอีวอลเล็ต หรือการใช้จ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้เล่นเบอร์หนึ่งของตลาดอีวอลเล็ต ในไทยอย่าง ‘ทรูมันนี่’ ประเมินไว้ว่า ตั้งแต่ช่วงโควิดเห็นการเติบโตผู้ใช้อีวอลเล็ตเพิ่มขึ้น 16-17% เมื่อเทียบช่วงเวลาปกติ ล่าสุดทรูมันนี่ ต่อยอดความแรงอีกขั้นด้วยการลุย ‘บริการสินเชื่อ’ อย่างเต็มตัว ด้วยจุดแข็งจากพาร์ทเนอร์หลักอย่าง แอนท์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เครืออาลีบาบา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งฟินเทครายใหญ่ของโลก
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทรูมันนี่ และแอสเซนด์นาโน ได้ผนึกกำลังกลุ่มทรู ให้บริการ “Micro Credit” เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้ลูกค้าทรู จุดประสงค์ คือ การให้ข้อเสนอวงเงินเพิ่มสภาพคล่อง เพื่อใช้จ่ายชีวิตประจำวันแบบนิว นอร์มอล แก่ผู้ถือบัตรทรูการ์ด ทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ ทรูแบล็ค ทรูเรด ทรูบลู ทรูกรีน และทรูไวท์ ที่เป็นลูกค้าทรูมูฟเอชแบบรายเดือน และมีประวัติการชำระค่าบริการดี ไม่มียอดคงค้าง เป็นไปตามพันธกิจของบริษัท ที่มุ่งช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินที่ทันสมัยต่อเนื่อง ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ลดขั้นตอนและเงื่อนไขการให้บริการ
วงเงิน4เท่าของยอดบิลไม่เกิน “หมื่นบาท”
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้สิทธิพิเศษเป็นวงเงินให้ยืมก่อน คืนทีหลัง สามารถนำเงินที่ได้รับการอนุมัติไปใช้จ่ายผ่านแอพ ทรูมันนี่วอลเล็ต วงเงินสูงสุดถึง 4 เท่าของยอดบิลรายเดือน (ไม่เกิน 10,000 บาท) และเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุด 3 เดือน การสมัคร ใช้บัตรประชาชนติดต่อที่ทรู ช็อป ทุกสาขาทั่วประเทศ รู้ผลอนุมัติทันที โดยโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% ในเดือนแรก จัดให้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์ด้านการเงินให้แก่ลูกค้าทรูมูฟ เอช แบบรายเดือน โดยเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการใช้งานแอพพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ต ซึ่งจากการทดลองเปิดให้บริการตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมาได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี เป็นการต่อยอดจากฐานลูกค้าทรูมูฟ เอช รายเดือนกว่า 8.6 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม แต่ละประเภทของบัตรทรูการ์ด ที่ลูกค้ากลุ่มทรูมูฟ เอชรายเดือนถือ จะได้วงเงินที่แตกต่างกันไป เช่น ทรูแบล็ค และทรูเรด จะได้วงเงินกู้สูงสุด 4 เท่า ส่วนทรูบลู ได้ 3 เท่า ทรูกรีน 2 เท่า และทรูไวท์การ์ดได้ 1 เท่า บัตรทรูการ์ดแต่ละประเภท จะคำนวณจากยอดบิลใช้จ่ายรายเดือนของทรูมูฟ เอช
นายธัญญพงศ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นบริษัทยังไม่มีแผนขยายวงเงิน แต่หากได้รับการตอบรับที่ดีก็อาจจะพิจารณาเพิ่มเติม ส่วนความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินในอนาคตนั้นยังไม่มีแผนนี้ โดยบริการยืมก่อนคืนทีหลัง เป็นนวัตกรรมสินเชื่อที่ให้บริการโดย บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด ดังนั้นจึงยังไม่มีความร่วมมือกับธนาคารใด
ในส่วนของภาพรวมสินเชื่อในลักษณะ Digital Lending หรือสินเชื่อที่นำเทคโนโลยี และ Alternative Data มาใช้ จะช่วยให้การเข้าถึงบริการสินเชื่อกว้างขวางมากขึ้น เนื่องจากสินเชื่อแบบเดิมนั้นสามารถให้บริการได้เฉพาะพนักงานประจำที่มีสลิปเงินเดือนเท่านั้น แต่เทคโนโลยีและนวัตกรรมสินเชื่อ Micro Credit ของเราช่วยให้การให้สินเชื่อเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีต้นทุนที่ต่ำลง
โดย Micro Credit นั้นได้นำข้อมูลการชำระค่าบริการของลูกค้า มาประกอบกับข้อมูลด้านอื่นในการพิจารณาให้วงเงิน แทนการใช้เอกสารรายได้เหมือนสถาบันการเงินทั่วไป ในขั้นตอนการสมัคร ลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารใดๆ นอกจากบัตรประชาชนในการยืนยันตัวตน อีกทั้งกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นสมัคร การอนุมัติยอดเงิน จนถึงสามารถใช้เงินได้ เฉลี่ยอยู่เพียง 5 นาที นอกจากนี้ การชำระสินเชื่อก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอพทรูมันนี่ วอลเล็ต
นายฐานพล มานะวุฒิเวช ผู้จัดการทั่วไป ด้านการผสานสิทธิประโยชน์ลูกค้า บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กลุ่มทรู ได้เน้นการคัดสรรสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าในหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของลูกค้า
นอกเหนือจากสิทธิพิเศษส่วนของวงเงินให้ยืมก่อน คืนทีหลังแล้ว ลูกค้าทรูยังสามารถเชื่อมบัญชี ทรู มันนี่ วอลเล็ต กับบัตรทรูการ์ด เพื่อรับสิทธิการได้รับทรูพอยท์คืน สูงสุดถึง 3 เท่า สำหรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ผูกกับบัญชี ทรูมันนี่ วอลเล็ตทุก 25 บาท ทั้งนี้ เพื่อไว้แลกเป็นความสุขพิเศษอื่นๆ อีกมากมายทั่วประเทศ โดยเชื่อมั่นว่า บริการ Micro Credit และสิทธิพิเศษต่างๆ นี้ จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลได้
เล็งขยายสู่ลูกค้ากลุ่มอื่นเพิ่ม
โดยในขั้นตอนการสมัครบริการดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารใดๆ นอกจากบัตรประชาชนในการยืนยันตัวตน อีกทั้งกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นสมัคร การอนุมัติยอดเงิน จนถึงสามารถใช้เงินได้ เฉลี่ยอยู่เพียง 5 นาทีเท่านั้น
ขณะที่ ช่วงแรกจะให้บริการแก่ลูกค้าทรูมูฟ เอชแบบรายเดือน จากนั้นจึงจะขยายไปยังลูกค้าทรูกลุ่มอื่นๆ รวมถึงลูกค้าทั่วไปในอนาคต ซึ่งสำหรับดอกเบี้ยโปรโมชั่น 0% จะจำกัดเฉพาะเดือนแรกของทุกการเบิกใช้สินเชื่อภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยปกติของบริษัทฯ อยู่ที่ 24% ต่อปี
คาดใช้จ่ายผ่านวอลเล็ตเพิ่มขึ้น 50% ปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ทรูมันนี่ วอลเล็ต ระบุว่า มูลค่าใช้จ่ายผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ต ในประเทศไทย สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานแอคทีฟ 14 ล้านราย ขณะที่ คาดการณ์ว่า ปีนี้การใช้จ่ายผ่านอีวอลเล็ต จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรือ 50% ทั้งจำนวนยูสเซอร์ และจำนวนโวลุ่มเพย์เม้นท์
นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการ ทรู มันนี่ วอลเล็ต กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หลังโควิดอัตราเติบโตการใช้อีวอลเล็ตในไทยยังคงเติบโตขึ้นอีก เพราะจะกลายเป็นนิวนอร์มอลวิถีชีวิตคน ขณะที่ปัจจุบันคนเริ่มทยอยกลับไปทำงานจากมาตรการคลายล็อกของภาครัฐ การใช้อีวอลเลตก็ยังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคงเป็นเทรนด์ที่จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ เมื่อไตรมาสแรกที่ผ่านมา โวลุ่มการใช้จ่ายรวมผ่าน ทรู มันนี่ วอลเล็ต โตขึ้นมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉลี่ยผู้ใช้มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 2,000 บาท ใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งที่ 250-300 บาท หมวดที่มียอดจำนวนครั้งการจ่ายมากที่สุด ได้แก่ เติมเน็ต ซื้อดิจิทัลคอนเทนท์ ซื้อไอเท็มเกมในกูเกิล เพลย์ สโตร์ และแอพ สโตร์ รวมไปถึงในเซเว่น อีเลฟเว่น ขณะที่ หมวดที่มียอดจำนวนเงินบาทมากที่สุด ได้แก่ จ่ายบิล และรีเทล เพย์เมนท์
ทรู มันนี่ วอลเล็ต ถือเป็นบริการเรือธงของ แอสเซนด์ มันนี่ เป็นพาร์ทเนอร์บริษัทแอนท์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ครองผู้นำในตลาดอีวอลเล็ตในไทย ด้วยจุดให้บริการชำระมากกว่า 200,000 จุด ครอบคลุมทั่วประเทส และเป็นผู้นำอีวอลเล็ตระดับภูมิภาคด้วยบริการที่ครอบคลุุม 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา พม่า และไทย โดยถ้าเทียบในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวี ไทยนำโดยทรู มันนี่ วอลเล็ตยังเป็นเบอร์ 1”
