‘คณะแพทย์ มช.-ซิสโก้’ พันธกิจ ติดปีก ’ดิจิทัล เฮลธ์แคร์’

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ใน “วงการแพทย์” เพื่อพัฒนาไปสู่ “สมาร์ท เฮลธ์แคร์” เป็นความท้าทายที่เหล่าองค์กรและบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญ แม้วันนี้ยังไม่อาจกล่าวได้ว่างานที่เริ่มลงมือทำมีพัฒนาการถึงขั้นสร้างจุดเปลี่ยน ทว่านับเป็นจุดเริ่มต้นที่พอจะทำให้เกิดความหวังว่า “โอกาสการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม” กำลังขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นตามลำดับ...

ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยว่า ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (เอ็มโอยู) กับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ “โครงการร่วมพัฒนานวัตกรรมด้านสาธารณสุขและเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Med Tech Co-innovation)” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ทางวิชาการ และสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาสาธารณสุขอย่างยั่งยืน 

โดยความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ สร้างความเป็นเลิศด้านการบริการทางการแพทย์ พร้อมยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลเฮลธ์แคร์ (Digital Healthcare Experience) ให้กับผู้ใช้บริการและบุคลากรการแพทย์ ในรูปแบบโรงพยาบาลดิจิทัล (Digital Hospital User Experience) เบื้องต้นจะร่วมกันทำโครงการนำร่องจำนวน 5 โครงการภายในเดือนก.พ.ปี 2564 และคาดว่าจะสามารถนำมาใช้งานได้จริงภายในสิ้นปีดังกล่าว

ยกระดับบริการ ’เรียลไทม์’

สำหรับประสบการณ์ด้านดิจิทัลเฮลธ์แคร์จะมีการพัฒนาในสองระบบคือ “ระบบติดตามการจ่ายยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Drug & Medical Equipment Tracking System)” สร้างระบบจัดสรรข้อมูลด้านโลจิสติกส์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงข้อมูลและติดตามสถานะของยาและเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และสถานบริการเครือข่าย 13 แห่งในแต่ละวันแบบเรียลไทม์

พร้อมด้วย “ระบบติดตามสถานะการให้บริการทางการแพทย์ (Medical Service Status Tracking System)” โดยผู้ป่วยสามารถเรียกดูข้อมูลสถานะการให้บริการผ่านระบบเครือข่ายไร้สายและโมบายแอพพลิเคชั่นของโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นสถานะการให้บริการ คิวตรวจ รับยา จ่ายเงิน และข้อมูลด้านสุขภาพอื่นๆ รวมถึงการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผ่านระบบทางไกล (Tele-consulting)

นอกจากนี้ เร่งการพัฒนานวัตกรรม(Innovation Acceleration) ผ่านสามโครงการประกอบด้วย "โครงการพัฒนาคัดกรองผู้ป่วยวัณโรค (Tuberculosis Screening Project)” ผ่านระบบการคัดกรองผู้ป่วยเทคโนโลยีเอไอและแมชีนเลิร์นนิง ที่จะมาช่วยแพทย์วินิจฉัยความผิดปกติของภาพเอ็กซเรย์ทรวงอกเบื้องต้น

พร้อมกันนี้ "โครงการดูแลผู้ป่วยประคับประคองผ่านระบบการสื่อสารทางไกล (Tele Palliative Care)” ด้วยห้องตรวจและห้องรักษาเสมือนจริง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาโรงพยาบาล, และ "โครงการดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานโดยเจ้าหน้าที่ อสม. (Diabetes Patient Data & Communication Project)"

“เรามุ่งพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ครอบคลุมบริการของโรงพยาบาลทั้งหมด รองรับผู้ป่วยจาก 17 จังหวัดในเขตภาคเหนือ รวมถึงเป็นฐานสำหรับการวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดทางด้านการแพทย์”