'ท่องเที่ยวเพศทางเลือก' เพศไหนก็เที่ยวได้! โมเดลอีโคซิสเต็มสีรุ้ง รับท่องเที่ยวปี 64
แพลตฟอร์มดิจิทัล THAI LGBT CONNECT โดยผู้ประกอบการบริการนำเที่ยว ที่ตั้งเข็มทิศโฟกัสลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างชัดเจน หลังจากได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์สืบเนื่องวิกฤติโควิด-19 มุ่งสร้างประสบการณ์และการรับรู้ใหม่ หวังพลิกฟื้นบิซิเนสใหม่รับท่องเที่ยว 64
แพลตฟอร์มดิจิทัล THAI LGBT CONNECT ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ได้รับการส่งเสริมจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ในโครงการ Challenge Project by DIProm ที่มุ่งพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีทีมนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเชิงลึก เพื่อให้โมเดลธุรกิจใหม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนวิกฤติที่ภาคอุตสาหกรรมเผชิญ เป็นโอกาสในการพัฒนาขีดความสามารถอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ มาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการให้ดีพร้อมทันทีใน 90 วัน
เจาะเซกเมนต์ใหม่หลังวิกฤติ
ศกุณภัทร มโนกนกพานิช กรรมการผู้จัดการ หจก. เอเชี่ยน พลัส ทราเวล แอนด์ เซอร์วิส ระบุว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ธุรกิจไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ จึงต้องมองหาช่องทางอื่นๆ ทดแทน และด้วยบริบทของการเป็น LGBT หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศ จึงได้รับการติดต่ออย่างต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือกให้นำเที่ยวเป็นกลุ่มเล็กๆ
กระทั่งรู้สึกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ภักดีต่อแบรนด์ เมื่อมาเที่ยวแล้วก็กลับมาเที่ยวซ้ำ ต้องการสัมผัสเอกลักษณ์ความเป็นไทย หรือ Thainess โดยไม่จำเป็นต้องปักธงสีรุ้งในสถานที่ท่องเที่ยว แต่ให้คงเอกลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว และต้องการการปฏิบัติที่เท่าเทียม ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก
ต่อมาได้ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการส่งเสริมจาก กสอ. ในการปรับโมเดลธุรกิจให้เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผ่านการเขียน Business Model Canvas (BMC) แผนธุรกิจใหม่จากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ พร้อมคำแนะในการการจัดทำแพลตฟอร์ม THAI LGBT CONNECT เครื่องมือเพื่อการนำเที่ยว เชื่อมโยงกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศ ฐานข้อมูลสินค้าและบริการในทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเพศทางเลือก (LGBT) ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ รายแรกของไทย
“เราปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่ของบริษัทเกือบทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับ “ความปกติรูปแบบใหม่” หรือนิว นอร์มอล เพราะในอดีตบริษัทเน้นแต่ให้บริการนำเที่ยวแบบออฟไลน์ (B2B) และเป็นตัวแทนธุรกิจนำเที่ยวสำหรับบริษัทท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยการทำการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันไป” ศกุณภัทร กล่าว
ปัญหาที่พบ คือนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย แล้วไม่กล้าเปิดเผยตัวตน ทำให้ไม่มีจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ชัดเจน อีกทั้งในเรื่องของการขาดทักษะความรู้ในการให้บริการท่องเที่ยวกลุ่ม LGBT ที่แม้ว่าประเทศไทยจะให้การยอมรับ แต่เมื่อค้นหาคำว่า LGBT Travel ผ่านออนไลน์กลับไม่พบบริษัททัวร์ในไทยที่ทำเกี่ยวกับ LGBT เป็นกิจจะลักษณะ และภาพที่เจอคือ ภาพตามสถานบันเทิง
THAI LGBT CONNECT คือเครื่องมือ หรือ web-platform โดยมีเว็บไซต์ www.thailgbtconnect.com รวบรวมฐานข้อมูลสินค้าและบริการในทุกรูปแบบ ประกอบด้วย 1.ข้อมูลการด้านการท่องเที่ยว 2.เว็บไซต์บริการนำเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกสถานที่ ช่วงเวลาสำหรับการท่องเที่ยวได้ตามความต้องการ มีฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ เที่ยวแบบธรรมชาติ แอดเวนเจอร์ และการท่องเที่ยวแบบวัฒนธรรม
และ 3.บริการด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ที่จะรวบรวมสินค้าชุมชน เพื่อเป็นตลาดออนไลน์ หรือ E-Market Platform สำหรับนักท่องเที่ยว และ กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ หรือกรณีที่ยังไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวก็จะเป็นสินค้าในความสนใจ อาทิ สปา ศัลยกรรม
เมื่อโครงการนี้สำเร็จ THAI LGBT CONNECT จะกลายเป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเพื่อกลุ่ม LGBT รายแรกของไทย
“ส่วนอัตราค่าบริการนำเที่ยวเหมือนกับตลาดทัวร์ทั่วไป แต่สิ่งที่แตกต่างคือ “ประสบการณ์” และ “การยอมรับซึ่งกันและกัน” เหมือนเวลากลุ่มผู้ชายสนทนาพูดคุยกันเรื่องกีฬาฟุตบอล หรือ กลุ่มผู้หญิงที่พูดคุยกันเรื่องเครื่องสำอาง ซึ่งวันนี้คนที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนกัน เมื่อไรก็ตามที่มาเจอกัน จะทำให้การเดินทางของเขามี experience มากขึ้น คาดว่าแพลตฟอร์มดังกล่าว จะสร้างรายได้ให้กับสินค้าชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้ปีละกว่า 20 ล้านบาท” ศกุณภัทร กล่าว
สู่ความเท่าเทียมที่ลงตัว
ส่วนประโยชน์ทางด้านธุรกิจ ที่คาดว่าจะได้รับจากแพลตฟอร์มดังกล่าว คือ การเพิ่มช่องทางในการโปรโมทธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดไปสู่ตลาดทั่วไทย และทั่วโลก เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยตรงให้กับผู้ประกอบการในจังหวัด อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวมให้เพิ่มขึ้นในพื้นที่ และเกิดการจ้างงานคนในพื้นที่เพิ่มขึ้น
ส่วนผลกระทบทางสังคม คือการสร้างภาพลักษณ์อันดีของกลุ่มหลากหลายทางเพศในประเทศไทย ในเชิงความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยว สร้างความน่าเชื่อถือและการได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวในการเลือกใช้บริการ เพราะฉะนั้นหากทำให้ THAI LGBT CONNECT กลายเป็นจุดศูนย์กลางที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการท่องเที่ยว แต่จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในทุกมิติ ดังนั้น หากนำจุดแข็งตรงนี้มาส่งเสริมให้หลากหลายมากขึ้น จะส่งผลต่อรายรับด้านเศรษฐกิจของประเทศด้วยเช่นกัน และจะเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายของผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ