'ลาซาด้า' โชว์ความแข็งแกร่ง 'โลจิสติกส์' รับออเดอร์เพิ่ม 35% จาก 11.11
ลาซาด้าโชว์ความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ ลาซาด้าโชว์ความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์ แสดงศักยภาพรับมือออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 35% จากมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11
ลาซาด้า ประเทศไทย แสดงศักยภาพด้านโลจิสติกส์ในมหกรรมชอปปิงแห่งปี 11.11 Biggest One-Day Sale สามารถจัดการออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 35% ส่งมอบสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึงคลังสินค้าในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คลังสินค้าเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบกึ่งอัตโนมัติ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถจัดการสินค้าและจัดส่งได้เร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ราบรื่นให้กับผู้บริโภค
นายแจ็ค จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เมื่ออีคอมเมิร์ซกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและเป็นความคุ้นเคยในการจับจ่ายของผู้บริโภค เหล่านักช้อปจึงคาดหวังว่าจะได้พบกับบริการและประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีมากยิ่งขึ้น การจัดการด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการชนะใจผู้บริโภค โดยศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าของเราเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร สร้างขึ้นจากความตั้งใจในการให้บริการและเสริมศักยภาพให้กับคู่ค้าที่เป็นแบรนด์ต่างๆ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจในประเทศ เพื่อให้พวกเขามีความสามารถในการแข่งขันและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
ศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์โลจิสติกส์ TPARK บางพลี 3 ในจังหวัดสมุทรปราการ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 24,000 ตารางเมตร และเป็นสถานที่จัดเก็บสินค้าจากแบรนด์ต่างๆ ถึง 700 แบรนด์ที่มีจำหน่ายบน LazMall รวมถึงสินค้าอีก 50,000 รายการสินค้าจากหลากหลายหมวดหมู่ ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ถ่ายภาพ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงโทรศัพท์สมาร์ตโฟน และเครื่องประดับ
โดยนำเอาเทคโนโลยีจาก อาลีบาบา มาประยุกต์ใช้ เช่น ระบบการจัดการคลังสินค้า Dabao (Dabao Warehouse Management System) สำหรับควบคุมสินค้าคงคลัง ระบุตำแหน่งสินค้าเมื่อได้รับคำสั่งซื้อ ช่วยเสริมศักยภาพการจัดการคลังสินค้า โดยผสมผสานเข้ากับระบบการจัดการแรงงาน (Workforce Management System) ซึ่งประกอบด้วยพนักงานที่มีความสามารถและผ่านการอบรมทักษะมาแล้ว โดยพนักงานเหล่านี้สามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาและยกระดับบริการการจัดการพัสดุของลาซาด้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ศูนย์บริการจัดการคลังสินค้ายังมีบริการเสริมอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขายแต่ละราย เช่น การให้บริการเช่าพื้นที่เก็บสินค้า บริการบรรจุสินค้า บริการรับและบรรจุสินค้า การคืนสินค้า การร้องเรียนสำหรับสินค้าที่เสียหายหรือสูญหาย และบริการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าให้กับบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่มีบริการในส่วนนี้ ซึ่งบริการเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถจัดการกับสินค้าในคลังและการจัดส่งจากร้านค้าไปยังลูกค้าที่อยู่ปลายทางได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถทุ่มเทให้กับการยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งให้กับผู้ซื้อและเพิ่มยอดขายได้อย่างเต็มที่
“โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในแผนระยะยาวสำหรับการสร้างความสำเร็จในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา” นายแจ็คกล่าว
“ด้วยการลงทุนและสร้างระบบที่ครบวงจรของเราเอง รวมถึงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำให้เราสามารถดำเนินงานสอดคล้องกับความตั้งใจของประเทศไทยในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล และช่วยบ่มเพาะผู้ประกอบการไทยให้ประสบความสำเร็จในอีคอมเมิร์ซอีโคซิสเต็มอีกด้วย”