จับตา ไอทีโค้งสุดท้าย ‘ช้อปดีมีคืน’ ปลุกยอด

ประเมิน มหกรรม 11.11 สมาร์ทโฟน แก็ดเจ็ท ติดอันดับสินค้าขายดีหากผู้ซื้อไม่ลืมขอใบกำกับภาษีนำมาลดหย่อน ขณะที่ประเมินภาพรวมไอทีทั้งปี 63 ยังทรงตัว การ์ทเนอร์เชื่อมูลค่าเหลือ 6.2 แสนล้านลดลงจากปี 62 

“บุญเลิศ นราไท” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต กล่าวว่า โค้งสุดท้ายของปีภาพรวมตลาดไอทีประเทศไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าช่วงหลังการคลายล็อกดาวน์ไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ที่กำลังซื้อกลับมาเติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างมากจากที่อั้นมาสักพัก 

ขณะที่ เชื่อว่า ยังมีปัจจัยบวก เช่น มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” โดยภาครัฐน่าจะมีส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ทั้งจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีแผนจะซื้อสินค้าไอทีอยู่ก่อนแล้ว และผู้ที่ไม่มีแผนจะซื้อมาก่อนแต่ต้องการใช้สิทธิดังกล่าว

ผู้จัดคอมมาร์ตเชื่อคนแห่ใช้สิทธิ

ทั้งนี้ งานคอมมาร์ตส่งท้ายปี ระหว่างวันที่ 26-29 พ.ย. 2563 เวลา 10.00- 21.00 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งจะมีสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาวางจำหน่ายจำนวนมาก พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เพื่อดันให้สินค้าขายออกไปได้เร็วที่สุด เชื่อว่า ในงานนี้บรรยากาศการซื้อขายมีโอกาสคึกคัก โดยเฉพาะคนจะใช้จ่ายผ่านมาตรการรัฐ ช้อปดีมีคืนในงานนี้มากขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าจะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 2.8 พันล้านบาท ทั้งมีส่วนที่ช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมไอทีประเทศไทยเติบโตได้มากขึ้น

เขากล่าวว่า ไอทีเป็นกลุ่มสินค้าที่อยู่ในความต้องการของผู้บริโภค จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าช่วงปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซั่นการชอปปิง ผนวกกับสถานการณ์โดยทั่วไปในไทยมีทิศทางที่ดีมากขึ้น ทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้านประชาชนสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบนิวนอร์มอลได้ดี

ขณะที่ มีผลการสำรวจโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า มีผู้บริโภค 60% จะใช้สิทธิช้อปดีมีคืน ส่วนที่ไม่ใช้สิทธิมี 40% สินค้าและบริการยอดนิยม 3 อันดับแรก อายุ 18-30 ปี อุปกรณ์ไอที 47% รับประทานอาหาร 40% ของใช้ส่วนตัว 40% อายุ 31-50 ปี รับประทานอาหาร 51% อุปกรณ์ไอที 49% ของใช้ส่วนตัว 46%

หนุนซื้อสินค้าไอทีเพิ่ม -ไอโฟน 12 แรง

“จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาดบริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด ผู้นำและศูนย์รวมอุปกรณ์ไอทีครบวงจรที่มีสาขาครอบคลุมกว่า 350 สาขาทั่วประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นของรัฐ โดยเฉพาะ ช้อปดีมีคืน มีส่วนกระตุ้นตลาดไอทีปลายปีได้บ้าง แต่ไม่ได้ถึงขนาดทำให้ตลาดฟื้นกลับมาทั้งหมด

“ผมมองว่า คนน่าจะใช้ไปกับการซื้อไอโฟน 12   แต่ภาพรวมตลาดไอที เงินมันหายไปจากระบบค่อนข้างมาก และยังไม่กลับมาเต็มที่ ตัวซัพพลายไอทีเองยังมาไม่ครบ 100% ดังนั้นมองว่า ครึ่งปีแรกตลาดไอทีโตจากวิกฤติโควิด คนเวิร์คฟรอมโฮม สถานการณ์บังคับให้ผู้คนเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต เทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอทีเข้ามามีบทบาทกับหลายคนมากขึ้น ซึ่งครึ่งปีหลังตลาดอาจเริ่มดรอปลง หรือบางส่วนยังทรงๆ แต่มาตรการกระตุ้นของรัฐเองคงช่วยได้บ้าง มองว่าตลาดไอทีปีนี้น่าจะทรงตัว และมีบางส่วนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการภาครัฐ การลงทุนไอทีของภาครัฐ บริษัทองค์กรต่างๆ” นายจักรกฤช กล่าว 

เจมาร์ทเชื่อ ช้อปดีมีคืน ปลุกตลาด

“นราธิป วิรุฬห์ชาตะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจมาร์ท โมบาย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับอานิสงส์จากโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งค้าปลีกไอที เป็นกลุ่มสินค้าที่มีผู้บริโภคออกมาจับจ่าย เพื่อนำเงินไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการใช้สิทธิในโครงการดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่า มาตรการช้อปดีมีคืน จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภค ตัดสินใจซื้อสินค้าเทคโนโลยีในช่วงปลายปีกันอย่างคึกคัก รับไฮซีซัน อีกทั้งมีสินค้าใหม่รุ่นเรือธง ทยอยออกวางจำหน่าย โดยเฉพาะไอโฟน 12 ที่จะเป็นตัวกระตุ้นได้อย่างมาก

สำหรับเจมาร์ท ได้เข้าร่วมแคมเปญ ต้อนรับมาตรการดังกล่าว เช่น การให้สิทธิประโยชน์ 5 ต่อ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่าเครื่อง เครดิตเงินคืน คะแนนบัตรเครดิตใช้แลกส่วนลด เก่าแลกใหม่รับสว่นลด ฯลฯ

ทั้งนี้ มองว่า แม้ปัจุจุบัน กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวมากนัก จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจ แต่อุปกรณ์สื่อสานยังมีความจำเป็น และเป้นที่ต้องการของผู้บริโภค ขณะเดียวกันการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ แบรนด์ชั้นนำ และการเข้ามาของสมาร์ทโฟน 5จี จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นธุรกิจ ให้คึกคักมากกว่าเดิม โดยเฉพาะไอโฟน 12

อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสการจองไอโฟน 12 ผ่านช่องทางต่างๆ เป็นไปอย่างคึกคัก หลัังจากแอ๊ปเปิ้ลได้เปิดให้เริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะค่ายมือถือต่างๆ ที่เปิดโปรฯ แข่งกันอย่างคึกคัก 

กระนั้นก็ตาม ไม่ได้มีแค่ไอโฟน 12 เท่านั้น แต่ยังมีสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ จากแบรนด์จีน รวมไปถึงแกดเจ็ทต่างๆ ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมไม่แพ้กันในการใช้มาตรการช้อปดีมีคืน เช่นเดียวกับ มหกรรม 11.11 ที่ผ่านพ้นไป เว็บอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่รายงานสินค้าที่ขายดี กลุ่มสินค้าไอที โดยเฉพาะโทรศัพท์ และแทบเล็ตเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่ขายดีมากที่สุดในมหกรรมครั้งนี้ ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ มาลดหย่อนภาษีตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของโครงการช้อปดีมีคืนได้

คาดใช้จ่ายไอทีไทยปีนี้ 6.2 แสนล.

ก่อนหน้านี้ การ์ทเนอร์ ได้ออกมา ประเมินการใช้จ่ายไอทีในไทยปีนี้ว่า จะมีการใช้จ่ายลดลงเหลิือ 6.2 แสนล้านบาท โดยคาดว่า ปี 2564 แนวโน้มตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 6.59 แสนล้านบาท หมวดบริการซอฟต์แวร์เติบโตมากสุด ขณะที่ บริการด้านการสื่อสาร มีมูลค่าใช้จ่ายปีนี้ 3.49 แสนล้านบาท ดาต้าเซ็นเตอร์มีมูลค่าใช้จ่ายปีนี้ 2.4 หมื่นล้านบาท อุปกรณ์ดีไวซ์ปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่าย1.49 แสนล้านบาท