‘ทรูมันนี่’ ตั้งเป้าขายกองทุนฯ ผ่านแอพ มูลค่าลงทุนแตะ 1.5 หมื่นล.
ตั้งเป้า ปี 64 ผู้ใช้บริการทะลุ 6 แสนราย มูลค่าการลงทุนแตะ 1.5 หมื่นล.
ทั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “ลงทุนง่าย ๆ ใครก็ทำได้บนทรูมันนี่ วอลเล็ต” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทรูมันนี่เป็นประจำกว่า 15 ล้านรายที่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลงทุน ให้มาเริ่มลงทุนเป็นครั้งแรก โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งรายเก่าและใหม่ให้เปิดบัญชีได้ไม่น้อยกว่า 600,000 รายและสร้างมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 15,000 ล้านบาท ภายในปี 2564
สำหรับในช่วงแรก ทรูมันนี่ได้นำเสนอกองทุนรวมมากกว่า 600 กองทุน จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำในประเทศไทย 10 แห่ง ได้แก่ บลจ.พรินซิเพิล, บลจ.ทาลิส, บลจ.แลนด์ แอนเฮ้าส์, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.กรุงศรี, บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. วรรณ จำกัด, บลจ.เกียรตินาคินภัทร จำกัด, บลจ. วี จำกัด และ บลจ. ทหารไทย
พร้อมกันนี้ เชื่อมเทคโนโลยีอี-วอลเล็ต เข้ากับบริการ “FundConnext” ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถศึกษาการลงทุน ติดตามหนังสือชี้ชวนการลงทุน คำแนะนำต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงซื้อ หรือ ขายกองทุนผ่านหน้าแดชบอร์ดในแอพพลิเคชั่นได้แบบเรียลไทม์
ปัจจุบัน ในไทยมีผู้ที่เคยสัมผัสกับการลงทุนเพียง 4% ของจำนวนประชากร ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่มีความจริงจังต่อการลงทุนโดยหวังผลตอบแทนหรือลดหย่อนภาษี ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทคือคนที่ยังไม่มีประสบการณ์การลงทุนมาก่อน ระยะ 3 ปีจากนี้หวังว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนบัญชีการลงทุนในตลาดทุนไทยไปถึง 20 ล้านบัญชี จากปัจจุบันมีประมาณ 6 ล้านบัญชี
ทรูมันนี่เป็นผู้ให้บริการอีวอลเล็ตรายใหญ่ที่สุดในตลาดไทย มีส่วนแบ่งการตลาดราว 70-75% แต่ละเดือนมีผู้ใช้งานเป็นประจำกว่า 15 ล้านราย โดยเฉลี่ยต่อคนมีการใช้งานมากกว่า 10 ครั้ง การใช้งานหลักๆ จะเป็นออนไลน์เพย์เมนท์ แอพสโตร์ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 และชำระค่าบริการในเครือทรู ขณะที่พันธมิตรร้านค้ามีอยู่มากกว่า 2 แสนจุด ใน 3 ปีหวังว่าจะมีคนไทยสัดส่วน 50% เข้ามาใช้บริการ หรือจำนวนลูกค้าแตะ 30 ล้านราย
นางสาวณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวเสริมว่า ครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินไปสู่การลงทุนในกองทุนรวม เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการลงทุน
สำหรับจุดต่างการให้บริการ มาพร้อมกับความง่ายในการใช้งาน เข้าถึงได้ง่าย ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล สามารถเปิดบัญชีเพื่อเริ่มลงทุนได้ง่ายๆ ผ่านแอพโดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ที่สำคัญมีอิสระในการซื้อกองทุนได้แบบไม่จำกัดค่าย เริ่มต้นเพียงหนึ่งบาทก็ลงทุนได้ ตอบโจทย์ได้ทั้งนักลงทุนรายเก่าและรายใหม่
อย่างไรก็ตาม จากปัจจุบันร่วมมือกับ 10 บลจ. อนาคตมีแผนเพิ่มจำนวนพันธมิตรให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าภายในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าจะสามารถร่วมมือกับทุกบลจ.ที่มีอยู่ในประเทศไทย
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเชื่อมต่ออีวอลเล็ตเข้ากับโลกการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้และเครื่องมืออย่างเต็มที่