ส่องไฮไลท์เด็ด 'Samsung S21' พร้อมเปิดราคาในไทยเริ่ม 27,000 บาท
ครั้งแรกของการรวมที่สุดแห่งประสบการณ์การเชื่อมต่อบน 'กาแลคซี่ ดีไวซ์' เปิดราคาไทย Samsung Galaxy S21, S21 และ S21 Ultra เริ่มต้น 27,900 บาท พร้อมใช้ 5G ได้ทุกรุ่น
ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ประเดิมต้นปีอย่างยิ่งใหญ่ในงาน Galaxy Unpacked 2021 เปิดตัวสมาร์ทดีไวซ์ใหม่ล่าสุด ระดับแฟลกชิป อย่าง Galaxy S21 Series 5G รวมถึงเติมเต็มอีโคซิสเต็มด้วยหูฟังเอียร์บัดไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด Galaxy Buds Pro อุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะ Galaxy SmartTag และประสบการณ์การเชื่อมต่อเทคโนโลยีอัจฉริยะทั้งในบ้านและในรถ เพื่อตอบสนองเทรนด์ความต้องการแห่งอนาคต
สำหรับ ราคา Samsung Galaxy S21 ในไทย มีดังนี้
- Galaxy S21 Ultra 5G เปิดตัวมาใน 2 สีสุดคลาสสิก ได้แก่ Phantom Black และ Phantom Silver ในราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท
- Galaxy S21+ 5G มาใน 3 เฉดสีสุดโมเดิร์น นำโดย Phantom Violet, Phantom Black และ Phantom Silver ในราคาเริ่มต้นที่ 33,900 บาท
- Galaxy S21 5G มาใน 3 สี ได้แก่ Phantom Pink, Phantom Gray และ Phantom Violet ในราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท
โดยซัมซุง จะเริ่มทยอยส่งมอบเครื่องให้ลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 18 ม.ค. ก่อนเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มกราคม 2564
สำหรับงาน Galaxy Unpacked 2021 เมื่อคืนที่ผ่านมา เริ่มงานด้วย "ทีเอ็ม โรห์" ประธานและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้ขึ้นมากล่าวถึงวิสัยทัศน์ของซัมซุงในปีนี้ ระบุว่า
"จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกคน เนื่องจากทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การสังสรรค์ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็ได้เข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้คนได้อย่างเต็มที่ ต่อให้อยู่ไกลกันแค่ไหนก็สามารถเชื่อมต่อกันได้ จึงเห็นได้ว่าตอนนี้โลกกำลังเข้าสู่ยุคของการเชื่อมต่อแบบอัจฉริยะอย่างแท้จริง ในปีนี้ซัมซุงจึงได้ตั้งใจพาทุกคนก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ผ่านการสร้างอีโคซิสเต็มที่ไร้รอยต่อให้ทุกวันของผู้ใช้กลายเป็นวันที่น่าจดจำ ดังนั้นซัมซุงจึงมีการจับมือพาร์ทเนอร์ระดับโลก อาทิ Google, Microsoft, Netflix, Spotify และอื่นๆเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานบนแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงยังได้พัฒนาสมาร์ทดีไวซ์ที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมให้พวกเขาทำทุกสิ่งที่ชื่นชอบได้อย่างมีอิสระและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น"
จากนั้น เรียกน้ำย่อยด้วยการเปิดตัว Galaxy Buds Pro หูฟังเอียร์บัดไร้สายที่มาพร้อมคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดจากซัมซุง โดดเด่นด้วยดีไซน์ระดับพรีเมี่ยมที่พัฒนามาเพื่อให้ผู้ใช้สวมใส่ได้สบายในเวลาที่ยาวนานมากขึ้น
โหมด Ambient Sound ที่ปรับการใช้งานให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของผู้ใส่ได้ถึง 4 ระดับ สูงสุด +20dB อีกทั้งเก็บรายละเอียดของเสียงได้ดียิ่งขึ้น
มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิมเมื่อสลับการใช้งานจากสมาร์ทโฟนไปยังแท็บเล็ตผ่านฟีเจอร์ Auto Switch ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมนวัตกรรม Active Noise Cancelling ครั้งแรกที่สลับโหมดฟังเสียงรอบข้างด้วยเสียงพูด โดยไม่ต้องสัมผัส อีกทั้งยังสามารถลดระดับเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุดถึง 99 เปอร์เซ็นต์
ให้เสียงสนทนาคมชัดในทุกสถานการณ์ด้วย ไมโครโฟน 3 ตัว, Voice Pickup Unit (VPU) และเทคโนโลยีกรองเสียงลม (Wind Shield)
เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อของเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ จึงนำมาสู่การเปิดตัวอีกหนึ่งดีไวซ์ใหม่ล่าสุด Galaxy SmartTag อุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะชิ้นใหม่ที่ช่วยในการระบุตำแหน่งผ่านการเชื่อมต่อของบลูทูธ ช่วยให้สามารถค้นหาสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพียงแขวนไว้กับสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นกุญแจบ้าน กุญแจรถ กระเป๋า หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง พร้อมพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นสำหรับอัลตร้าไวด์แบนด์ (UWB) บน SmartTag+ ให้ค้นหาได้ไกลยิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล
เข้าสู่ไฮไลท์สำคัญกับการเปิดตัว Galaxy S21 5G และ Galaxy S21+ 5G แฟลกชิปรุ่นล่าสุด ที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคลได้ดีกว่าเดิม
Galaxy S21 series 5G มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม บางเบา นำเสนอจอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED 2X Infinity-O 120Hz พร้อมอัตราการปรับรีเฟรชเรทโดยอัตโนมัติตามประเภทของเนื้อหา โดย Galaxy S21 5G มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว ในขณะที่ Galaxy S21+ 5G โดดเด่นด้วยจอใหญ่เต็มตาขนาด 6.7 นิ้ว
สร้างความแตกต่างด้วยการดีไซน์กล้องหลังโฉมใหม่สไตล์ 'คอนทัวร์ คัท (Contour cut)' สุดไอคอนิกที่ผสานเข้ากับกรอบโลหะเพรียวบางบนวัสดุผิวด้านแบบ Haze Finish บริเวณด้านหลัง สะท้อนความเรียบหรู อีกทั้งยังมีหลายสีใหม่ให้เลือก รวมถึงสี Phantom Violet อันเป็นเอกลักษณ์
ให้ภาพที่ดีที่สุดกับฟีเจอร์ใหม่ Director's View กับการแสดงมุมมองได้หลากหลายเลนส์ก่อนถ่ายจริง เพื่อให้ผู้ใช้เลือกเปลี่ยนเลนส์ได้ง่ายๆ ว่าจะถ่ายซูม หรือมุมกว้าง Vlogger View ที่สามารถบันทึกภาพจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน รวมถึงการแสดงภาพตัวอย่าง ด้วย Live Thumbnails เพื่อนำเสนอมุมมองผ่านเลนส์อื่นๆ การซูมภาพ หรือการเปลี่ยนเป็นภาพมุมกว้างได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
กล้องสามเลนส์ระดับโปรที่ทำงานร่วมกับ AI ให้ผลลัพธ์ของภาพที่คมชัดมากกว่าเดิม ด้วย Zoom Lock ใหม่ที่ให้ AI กำหนดจุดโฟกัสให้อยู่ตรงกลางเฟรม เพื่อลดผลกระทบจากอาการมือสั่นเมื่อบันทึกภาพด้วยการซูม 30 เท่า
วิเคราะห์ได้แม่นยำยิ่งขึ้นในโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode) กล้องจะใช้ระบบการวิเคราะห์แบบ 3 มิติเพื่อแยกวัตถุออกจากพื้นหลัง รวมถึงยังมีตัวเลือกสำหรับการจัดแสงในสตูดิโอเสมือนจริง (Virtual studio) และเอฟเฟกต์พื้นหลังจาก AI เพื่อให้วัตถุโดดเด่นขึ้นมา
มาพร้อมกับ One UI 3.0 ใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดสรรการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างอิสระ พร้อมแบ่งวิดเจดการแจ้งเตือนออกเป็นหมวดหมู่ที่สังเกตได้ง่าย สามารถใช้งานร่วมกับพีซี รวมถึงปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับหน้าจอแบบอัตโนมัติ
ความจุแบตเตอรี่ที่มากขึ้นเพื่อให้เหล่าเกมเมอร์และสายซีรีส์ได้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดย 4,000 mAh สำหรับ Galaxy S21 5G และ 4,800 mAh สำหรับ Galaxy S21+ 5G
เพิ่มระบบความปลอดภัยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย Samsung Knox Vault ให้ผู้ใช้สามารถลบข้อมูล Metadata ของตำแหน่งที่อยู่ออกจากรูปภาพก่อนทำการแชร์ได้ และด้วยฟังก์ชัน Private Share ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดรายชื่อบุคคลที่จะเข้าถึงเนื้อหา พร้อมทั้งระยะเวลาในการเข้าใช้งาน เพื่อการแบ่งปันเนื้อหาได้อย่างไร้กังวล
เรียกเสียงฮือฮาขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว Galaxy S21 Ultra 5G แฟลกชิปที่พร้อมมอบประสบการณ์ความเป็นที่สุดในทุกด้าน
ถูกออกแบบให้ทนทานยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass Victus ซึ่งนับเป็น Gorilla Glass ที่แข็งแรงที่สุด โดย Galaxy S21 Ultra 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Phantom Black และ Phantom Silver บนวัสดุผิวด้านแบบ Haze Finish สุดคลาสสิก
หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ครั้งแรกกับการมอบประสบการณ์ การแสดงผลที่ลื่นไหลจากอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และจอแสดงผล Quad HD+ พร้อมกัน โดยอัตรารีเฟรชเรทของหน้าจอนั้น ยังสามารถปรับระดับที่ 10Hz ถึง 120Hz ตามเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ
กล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงเซ็นเซอร์แบบโปรเวอร์ชั่นใหม่ขนาด 108MP ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์กล้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนซัมซุง ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพ 12 bit HDR ด้วยสีสันที่คมชัดมากขึ้นถึง 64 เท่า และช่วงไดนามิกกว้างขึ้นกว่า 3 เท่ารวมถึงการบันทึกไฟล์ Raw 12-bits[3] มาตรฐาน DSLR ไม่เสียรายละเอียดความคมชัด
ครั้งแรกกับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่ 60fps ได้จากทุกกล้อง ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
มาพร้อมกับ Space Zoom 100x ที่ขับเคลื่อนโดยระบบเลนส์เทเลแบบคู่ (Dual-tele) ตัวแรกของซัมซุง ซึ่งแบ่งเป็นออพทิคอล (Optical) 3x จำนวน 1 กล้อง และออพทิคอล 10x จำนวน 1 กล้อง โดยทั้งคู่ติดตั้ง Pixel (2PD) AF ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน
เซ็นเซอร์ Bright Night เวอร์ชั่นใหม่ ลดจุดรบกวนของภาพ (Noise reduction) และเทคโนโลยี Nona-binning 12MP ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพภายในห้องที่มีแสงน้อย หรือทิวทัศน์ในเวลากลางคืนได้ดียิ่งขึ้น
ครั้งแรกของ Galaxy S series ที่รองรับปากกาอัจฉริยะ S Pen ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาดภาพ จดโน้ต แต่งภาพ และเซ็นเอกสารได้ไม่ต่างจาก Galaxy Note หรือ Galaxy Tab อีกทั้งยังรองรับ S Pen Pro ที่รองรับ Air Action ได้อีกด้วย
สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ Wi-Fi 6E[4] ซึ่งจะมอบแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ที่มากกว่า และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม
ขั้นกว่าของการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาดบนกาแลคซี่ อีโคซิสเต็ม
เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสมาร์ทโฮม (Smart Home) อย่างง่ายดายด้วยการทำงานร่วมกับ Google Nest ในการเชื่อมต่อกับ Google Assistant เพื่อเป็นตัวกลางในการเข้าควบควบคุมอุปกรณ์ IOT ต่างๆภายในบ้าน
ให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Galaxy S21 series 5G เพื่อควบคุมสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ที่อยู่ในบ้านได้ตรงจากรถของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิในบ้าน เปิดปิดประตูไฟฟ้า ความสว่างของบ้าน เครื่องซักผ้า รวมถึงหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เพียงแค่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับรถยนต์ที่รองรับ Android Auto ผ่านแอปพลิเคชัน SmartThings
สุดท้ายนี้ ซัมซุง เผยว่า ยังมีการดำเนินงานสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการเปิดตัว Generation17 ที่ผสานพลังของสมาร์ทโฟนกาแลคซี่เข้ากับแพลตฟอร์ม UNDP เพื่อบรรลุเป้าหมาย 17 ประการบน Samsung Global Goals ในการขจัดขจัดความหิวโหย ต่อสู้กับความไม่เสมอภาค และทำให้โลกกลับมาสะอาดอีกครั้ง โดยผู้ใช้งานแอปพลิเคชันสามารถมีส่วมร่วมในการเคลื่อนไหวระดับโลกนี้ เนื่องจากบริษัทอยากสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่สดใสกว่าเดิม