นวัตกรรม
มว.ผนึกพันธมิตร พัฒนานวัตกรรมรักษา 'สะเก็ดเงิน' ด้วยรังสียูวี
มว.- รพ.จุฬาฯ - ม.ศิลปากร เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมรักษาโรคผิวหนังด้วยรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ พุ่งเป้าการรักษาให้มีประสิทธิภาพลดความเสี่ยงจากการรักษาด้วยยา ลดความแออัดของจำนวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาล
ฝ่ายมาตรวิทยาอุณหภูมิและแสง สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ(มว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือกับหน่วยผิวหนัง ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกันวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบและวิธีการสอบเทียบมาตรรังสียูวีสำหรับการวัดรังสียูวีจากแสงอาทิตย์เพื่อใช้ในการประเมินประสิทธิภาพสำหรับการรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยรังสียูวีจากแสงอาทิตย์โดยมุ่งเน้นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่เกิดจากการรักษาด้วยยา ลดความแออัดของจำนวนผู้มารับการรักษาในโรงพยาบาลตลอดจนภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางผู้ป่วย
โรคผิวหนัง ถึงแม้ว่ามีความเสี่ยงต่ำที่จะก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็ก่อให้เกิดความรำคาญรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน มีผลต่อจิตใจ ความมั่นใจและบุคลิกภาพของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โรคสะเก็ดเงิน” เมื่อป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน ความรุนแรงของผื่นผิวหนังอักเสบจะเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยที่มากระทบโดยเฉพาะทุกวันนี้ที่สภาวพอากาศเต็มไปด้วยฝุ่นละออง PM2.5 อาจทำให้อาการของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินลุกลาม สร้างความทรมาน และเพิ่มความทุกข์ทางใจให้ผู้ป่วยได้
ที่ผ่านมาการรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยวิธีการฉายแสงอาทิตย์เทียมนั้นให้ผลทางการรักษาได้ดีในระดับหนึ่งแต่ยังคงมีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น โรงพยาบาลที่เปิดให้บริการรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยเครื่องฉายแสงอาทิตย์เทียมทั่วประเทศมีเพียง 30 แห่งเท่านั้น ซึ่งนั่นกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้มีคิวรักษาที่ยาวนาน จึงทำให้มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มมากขึ้นสร้างความแออัดให้กับพื้นที่ในโรงพยาบาล อีกทั้งอาจมีความเสี่ยงที่เกิดจากการรักษาหากเครื่องมือที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน ตลอดจนผู้ป่วยบางรายที่เป็นผู้มีรายได้ต่ำ ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากในการเดินทางเข้ามารักษาที่โรงพยาบาล
จากข้อจำกัดดังกล่าว ทางคณะนักวิจัย จากฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ริเริ่มงานวิจัยเพื่อทดลองใช้แสงอาทิตย์ในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Helio-therapy for anti-psoriasis treatment) ซึ่งจำเป็นต้องใช้มาตรรังสียูวี (UV meter) ในการตรวจวัดเพื่อหาค่าความรับรังสีที่มีประสิทธิผลต่อการรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Anti-psoriasis effective UV irradiance measurement) ดังนั้นจึงได้เข้าหารือกับนักวิจัยจากฝ่ายมาตรวิทยาอุณหภูมิและแสง (มว.) เพื่อดำเนินการวิจัยร่วมกันโดยนำองค์ความรู้ด้านมาตรวิทยาสร้าง“นวัตกรรมต้นแบบมาตรวัดรังสียูวี”เพื่อตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาหรือข้อจำกัดที่มีมาก่อนหน้านั้น โดยทีมวิจัยจากทั้ง 3 หน่วยงานได้ร่วมกันออกแบบฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องเพื่อให้ครอบคลุมและเหมาะสมกับวิธีการรักษา
นอกจากฟังก์ชั่นการทำงานที่ตอบโจทย์การรักษาแล้ว วิธีการสอบเทียบมาตรรังสียูวีสำหรับการวัดแสงอาทิตย์นั้นเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลถึงประสิทธิภาพของการรักษา ซึ่งในเรื่องนี้ ทางทีมวิจัยจาก มว. ได้มีการพัฒนาต้นแบบมาตรวัดรังสียูวีมาตั้งแต่ปี 2563(เริ่มโครงการ) โดยมีการเขียนซอฟต์แวร์ สร้างเครื่องมือค้นแบบและทำการสอบเทียบ (Calibration) เครื่องต้นแบบ ก่อนนำไปทดลองใช้จริงเพื่อให้ตรงกับความต้องการต่อการใช้งานและเพื่อสร้างความมั่นใจในการรักษา
อย่างไรก็ตามเครื่องต้นแบบมาตรวัดรังสียูวียังอยู่ในช่วงของการพัฒนาเพื่อให้มีประสิทธิภาพ และสะดวกกับการใช้งาน ทาง มว.ได้มีแผนพัฒนาเครื่องต้นแบบดังกล่าวให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ประมวลผลให้สามารถส่งข้อมูลการวัดแบบไร้สาย (Wireless transfer data)ผ่านระบบ Wi-Fi เพื่อนำข้อมูลขึ้นเว็บไซต์อย่างทันท่วงที (Semi-real time) ซึ่งจะทำให้แพทย์ ผู้ป่วยหรือประชาชน หรือนักวิจัย สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทันที
ในอนาคตจะมีการประยุกต์ใช้เครื่องต้นแบบมาตรวัดยูวีมาเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ป่วยสามารถนำมาใช้ในการติดตามค่าความรับรังสียูวี เพื่อทำการรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยตัวเองที่บ้านได้ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของพื้นที่ในโรงพยาบาล ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการเดินทางไปโรงพยาบาลแต่ทั้งนี้ยังคงต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการวางแผนรักษาและการให้คำแนะนำในการรักษาโดยแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง